สมุนไพรสีเสียดเหนือมีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า สีเสียดเหลือง (เชียงใหม่), สีเสียดแก่น (ราชบุรี), สีเสียด ขี้เสียด (ภาคเหนือ), สีเสียดเหนือ (ภาคกลาง), สะเจ (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน), สีเสียดลาว (ลาว), สีเสียดหลวง, สีเสียดไทย เป็นต้น[1],[6]
ข้อควรรู้ : ต้นสีเสียดเหนือเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดกำแพงเพชร
ลักษณะของสีเสียดเหนือ
- ต้นสีเสียดเหนือมีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในประเทศอินเดียตะวันตกของปากีสถานจนถึงพม่า จัดเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีความสูงของต้นได้ประมาณ 10-15 เมตร เปลือกลำต้นเป็นสีเทาอมดำหรือสีเทาเข้ม แตกเป็นสะเก็ดตามยาว ผิวเปลือกค่อนข้างขรุขระ และสามารถลอกเปลือกผิวออกมาได้เป็นแผ่น ๆ เปลือกข้างในเป็นสีแดง ตามกิ่งก้านมีหนามเล็ก ๆ เป็นคู่ขึ้นอยู่ทั่วไป ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ที่ทนต่อแสงแดดและความแห้งแล้งได้ดี สามารถเจริญเติบโตได้ในดินทุกสภาพ ขึ้นได้ดีในที่แห้งแล้งและภูเขาหิน แต่ต้องการน้ำและความชื้นในระดับปานกลาง ไม่ชอบน้ำขัง พบขึ้นทั่วไปในป่าเบญจพรรณ ป่าโปร่งทางภาคเหนือ และป่าละเมาะบนพื้นที่ราบและที่แห้งแล้งทั่วไป[1],[2],[3],[7
สรรพคุณของสีเสียดเหนือ
- เปลือกต้นใช้ผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น ปรุงเป็นยาแก้ธาตุพิการ (เปลือกต้น)[3]ใช้เป็นยาบำรุงธาตุและแก้อติสาร (ก้อนสีเสียด)[9]
- ก้อนสีเสียดและเปลือกต้นสีเสียด มีสรรพคุณช่วยปิดธาตุ คุมธาตุ แก้อาการลงแดง (เปลือกต้น, ก้อนสีเสียด)[1]
- ใช้เป็นยาแก้ไข้จับสั่น แก้อาการไอ (ก้อนสีเสียด)[7]
- ช่วยแก้ปากเป็นแผล ช่วยห้ามเลือดที่ออกจากจมูก รวมถึงอาการเจ็บที่มีเลือดออก (ก้อนสีเสียด)[8],[9]
- ใช้รักษาเหงือก ลิ้น และฟัน และช่วยรักษาแผลในลำคอ (ก้อนสีเสียด)[7],[9]
- ใช้เป็นยาแก้ท้องเดิน ด้วยการใช้ก้อนสีเสียดนำมาบดให้เป็นผงประมาณ 1/3-1/2 ช้อนชา (ประมาณ 0.3-1.0 กรัม) แล้วต้มเอาน้ำดื่มให้หมดใน 1 ครั้ง โดยให้ดื่มวันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร ส่วนเปลือกต้นก็มีสรรพคุณแก้ท้องเดินได้เช่นเดียวกัน (ก้อนสีเสียด, เปลือกต้น)[3],[4],[8]หรือจะใช้ผงสีเสียดผสมกับผงอบเชย อย่างละเท่ากัน ถ้าท้องเดินมากให้ใช้ 1 กรัม ถ้าท้องเดินให้ใช้เพียง 1/2 กรัม แล้วนำมาต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว เคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง ใช้รับประทานครั้งละ 4 ช้อนแกง หรือประมาณ 30 มิลลิเมตร วันละ 3 ครั้ง (ผงสีเสียด)[6]
- ช่วยแก้อาการท้องเสียเรื้อรัง ลำไส้อักเสบ (ก้อนสีเสียด)[8]
- แก่นมีฤทธิ์ฝาดสมานเนื่องจากมีสารแทนนิน ตำรายาไทยจะใช้กินเป็นยาแก้ท้องร่วง (แก่น, เปลือกต้น, ก้อนสีเสียด)[1],[2],[3]ส่วนเปลือกต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้ท้องร่วงอย่างแรง (เปลือกต้น)[1]
- เปลือกต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้บิด หรือใช้ผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ เป็นยาแก้บิด (เปลือกต้น)[1],[3],[4]ส่วนสีเสียดมีสรรพคุณเป็นยาแก้บิดมูกเลือด (ก้อนสีเสียด)[1]
- ใช้รักษาริดสีดวง (ก้อนสีเสียด)[8]
- ใช้เป็นยาห้ามเลือด ด้วยการใช้ผงสีเสียดนำมาละลายกับน้ำใช้ใส่แผลสด (ผงสีเสียด)[6],[9]
- แก่นใช้เป็นยารักษาบาดแผล (แก่น)[1],[2]เปลือกต้น มีรสฝาด เป็นยาสมานแผล และใช้เป็นยาชะล้างบาดแผล แก้แผลเน่าเปื่อยเรื้อรัง แผลหัวแตก ล้างแผลหัวนมแตก (เปลือกต้น)[1],[3],[4]ก้อนสีเสียดใช้เป็นยาทาสมานบาดแผล หรือรักษาบาดแผล หรือนำมาต้มใช้ชะล้างบาดแผล ล้างแผลที่ถูกไฟไหม้ ทำให้แผลหายเร็ว (ก้อนสีเสียด)[1],[3],[8]
- ใช้ภายนอกเป็นยารักษาโรคผิวหนัง (แก่น, ก้อนสีเสียด)[1],[2]
- เมล็ดสีเสียดที่อยู่ในฝัก นำมาฝนเป็นยาทาแก้โรคหิด (เมล็ด)[3],[4]
- เมล็ดนำมาฝนทารักษาแผลน้ำกัดเท้า (เมล็ด)[4]หรือจะใช้ก้อนสีเสียดฝนกับน้ำให้ข้นใช้ทา หรือใช้ผงสีเสียดผสมกับน้ำมันพืชทาบริเวณแผลน้ำกัดเท่าก็ได้เช่นกัน (ก้อนสีเสียด)[6]
- เปลือกต้นนำมาต้มใช้น้ำที่ต้มเป็นยาระงับเชื้อ หรือจะใช้ก้อนสีเสียดนำมาบดหรือต้มทาเป็นยาระงับเชื้อก็ได้เช่นกัน (เปลือกต้น, ก้อนสีเสียด)[9]
- สีเสียดใช้ใส่ปูนที่รับประทานกับหมากและพลู จะช่วยป้องกันปูนกัดปากได้ (สีเสียด)[6]
- สีเสียดเหนือปรากฏอยู่ในตำรับ "ยาเหลืองปิดสมุทร" ซึ่งเป็นตำรับยารักษาอาการโรคในระบบทางเดินอาหาร (มีส่วนประกอบของสีเสียดเหนือ สีเสียดเทศ รวมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ อีกในตำรับ) โดยมีสรรพคุณเป็นยาบรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูกหรือมีเลือดปน และท้องเสียชนิดที่ไม่มีไข้ (ก้อนสีเสียด)[8]
กรุณาอ่านก่อนสั่ง