จากความไม่เดียงสา ผลงานสุดท้ายในชีวิตของ ลีโอ ตอลสตอย ปรีชา ช่อปทุมมา
ข้อมูลสินค้า
ราคา
280.00 บาท
ร้านค้า
จากความไม่เดียงสา ผลงานสุดท้ายในชีวิตของ ลีโอ ตอลสตอย ปรีชา ช่อปทุมมา สำนักพิมพ์ดวงกมล พิมพ์ครั้งสอง พ.ศ. ๒๕๓๖ มี ๑๕๑ หน้า
เราได้เรียนรู้ชีวิตชาวรัสเซียจากงานเขียนของตอลสตอยเพียงคนเดียว ก็เกือบจะเท่ากับที่ได้รับจากวรรณกรรมรัสเซียอื่น ๆ ที่เหลือรวมกัน
หนังสือของเขาจะยั่งยืนไปนับด้วยศตวรรษ ในฐานะอนุสรณ์ของการทำงานด้วยอัจริยภาพอย่างอุตสาหะวิริยะ...แม็กซิม กอร์กี้
มายาชีวิต
คุณพ่อเซอร์กีอุส ! คุณพ่อเซอร์กีอุส ! เซอร์เกอีดมิตริเยวิช ! เจ้าชายคาซัตสกี้ !
ทว่าไม่มีสุ้มเสียงใดๆ ดังมาจากห้องนั้น
"ทำไมท่านจึงโหดร้ายเช่นนี้ ฉันจะไม่เรียกท่านเลย ไม่เลยจริง ๆ หากไม่จำเป็น ฉันไม่สบาย ฉันไม่รู้ว่าเป็นอะไรขึ้นมา " หล่อนร้องคร่ำครวญด้วยน้ำเสียงที่ท้วมท้นไปด้วยความทุกข์ทรมาน "โอ ที่รัก !
โอ ที่รัก ! " .......แล้วหล่อนก็ทิ้งตัวลงไปบนม้ายาว และดูเหมือนมันเป็นเรื่องแปลกเหลือเกินที่หล่อนรู้สึกว่าไม่สบายไปจริงๆ ไม่สบายมากด้วย ร่างทั้งร่างของหล่อนรู้สึกปวดร้าว และสะเทิ้มราวกับว่ากำลังจับไข้
"ช่วยฉันด้วยเถิด ! ไม่รู้ฉันเป็นอะไร โอ ที่รัก ! โอ ได้โปรดเถิด ! "
หล่อนปลดตะขอเสื้อเปลื้องทรวงอกสล้างให้เผยออกมาเหวี่ยงแขนจนชุดที่สวมหลุดเลื่อนลงมา ร่างท่อนบนหล่อนเปลือยเปล่าจนถึงระดับข้อศอก
" โอ ที่รัก ! โอ ที่รัก ! "
เขายืนอยู่ในห้องด้านหลังและสวดภาวนาอยู่ตลอดเวลา เขาได้ท่องบทสวดที่ต้องสวดตอนเย็นจบไปหมดแล้ว และขณะนี้เขาก็ยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน เพ่งสายตาจับจ้องอยู๋ที่ปลายจมูก สวดภาวนาอยู่ในใจ... ย้ำกับดวงวิญญาณของตัวเขาเอง "พระเยซูคริสต์พระบุตรแห่งพระผู้เป็นเจ้าได้โปรดเมตตาต่อข้าพระองค์ด้วยเถิด"
แต่เขาก็ได้ยินเสียงทุกอย่าง...เสียงผ้าไหมเสียดสีกันแกรกกราก ขณะที่หล่อนเลิกกระโปรงขึ้น เสียงย่ำฝ่าเท้าที่เปล่าเปลือยลงไปบนผืนเสื่อ และเสียงที่เกิดจากฝ่ามือของหล่อนที่ถูนวดขาเปียกๆของหล่อน เขารู้สึกถึงความอ่อนแอของตัวเอง รู้ดีว่าในชั่วขณะใดขณะหนึ่งเขาอาจจะลืมตัวไป ดังนั้นเขาจึงสวดมนต์ภาวนาอย่างไม่ยอมหยุด เขาได้รู้มาบ้างถึงความรู้สึกของพระเอกในนวนิยายผู้ซึ่งบรรลุเป้าหมายได้ด้วยการเพ่งสายตาไปเบื้อนหน้า ไม่ยอมเหลียวหลังมาแม้ชั่วขณะเดียว ก็เหมื่อนกับพระเอกผู้นั้น เขา รู้...และสำนึกได้ถึงอันตรายของความหายนะที่แขวนลอยอยู่รอบกาย และหนทางเดียวที่จะหนีพ้นจากความหายนะนี้ได้ก็คือจะต้องพยายามอดกลั้นไม่หันไปชำเลืองดูมน แต่ทันใดนั้นเขาก็ถูกครอบงำด้วยความปราถนาที่จะหันไปชำเลืองดู และในชั่วขณะนั้นเองเสียงของหล่อนก็ร้องเรียกขึ้น
"ท่านช่างไม่มีความเป็นมนุษย์เสียเลย ฉันกำลังจะขาดใจตายอยู๋แล้ว"
" ในนามของพระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดมาช่วยฉันด้วยเถิด โอ ฉันกำลังจะตายอยู่แล้ว! "
เขาลืมตัวไปแล้วกระนั้นหรือ ? เขาจะเป็นเช่นนั้นไม่ได้
" อาตมาจะออกไปพบเธอเดี๋ยวนี้แล้ว" เขาพูดพลางเปืดประตูออกแล้วเดินผ่านห้องนั้นไปโดยไม่ได้หันมาดูหล่อนแม้แต่น้อย ตรงไปที่ทางเข้าอันเป็นที่ที่เขาใช้ฝ่าฟืนอยู่เสมอ ๆ มือของเขาคลำไปจนพบไม้หมอนที่ใช้รองผ่าฟืน แล้วก็ขวาน ที่พิงอยู่ กับข้างฝา
"เดี๋ยวนะ" เขาบอกซ้ำ และกำขวานไว้ในมือข้างขวา พาดนิ้วชี้ข้างซ้ายไว้กับหมอน แล้วเหวี่ยงขวานใส่ข้อนิ้วที่สองของเขา นิ้วมือขาดหลุดออกมาง่ายยิ่งกว่าชิ้นไม้ที่มีความหนาขนาดเดียวกันมานัก มันพุ่งกระเด็นไปในอากาศ ตกลงที่ขอบไม้หมอนแล้วก็เลื่อนหล่นลงไปบนพื้น
เขาได้ยินเสียงของมันตกกระทบพื้น โดยที่ยังไม่ทันรู้สึกถึงความเจ็บปวดอันใด แต่พอเขาเริ่มแปลกใจว่าทำไมมันถึงไม่เจ็บ ความเจ็บปวดก็พุ่งปราดขึ้นมา ปลาบแปลบและแสบร้อน เขารู้สึกได้ถึงหยาดเลือดอุ่นๆ ที่กำลังรินไหลจากปลายนิ้ว เขารีบห่อข้อนิ้วที่เลือดกำลังไหลเข้ากับรอยพับบนชุดเสื้อคลุมของเขาและกดมันแนบกับข้างลำตัว จากนั้นก็เดินเข้ามาในห้อง แล้วหยุดลงตรงหน้าหญิงสาว ถามขึ้นเบาๆ พลางหลบตาลงต่ำ
"เธอต้องการอะไร? "