ประวัติศาสตร์อิสลามเล่ม2
ข้อมูลสินค้า
ราคา
600.00 บาท
ร้านค้า
ประวัติศาสตร์อิสลามเล่ม2
Taafulchaum
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
คำนำของผู้แปล
การศึกษาประวัติศาสตร์ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับมนุษยชาติ เพราะ
การศึกษาประวัติตาสตร์ทำให้มนุษย์ได้รู้ถึงอดีตซึ่งเป็นที่มาของปัจจุบันและทำให้มนุษย์
พอที่จะเห็นอนาคตของตนได้บ้าง ทั้งนี้ เนื่องจากมนุษย์ก็คือมนุษย์ ไม่ว่าในยุคใด ธรรมชาติ
ของมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง สิ่งที่มนุษย์ทำไว้ในอดีตได้แสดงผลให้เห็นเช่นใดในปัจจุบัน
สิ่งที่มนุษย์ได้ทำไว้ในปัจจุบันก็จะแลดงผลเช่นเดียวกันนั้นในอนาคต คนที่ศึกษาประวัติศาสตร์
จึงได้เปรียบคนที่ไม่มีความรู้ในด้านนี้
อิสลามเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่มนุษยชาติ
ผ่านบรรดานบีต่าง ๆนับตั้งแต่มีมนุษย์คนแรกบนโลก นั่นคืออาดัม การประทานอิสลาม
ดำเนินต่อเนื่องกันมาทุกยุดทุกสมัยผ่านหมู่ชนต่าง ๆเป็นจำนวนมากมาย จนในที่สุดก็มา
เสร็จสิ้นสมบูรณ์ในรูปของดัมภีร์กุรอานในสมัยของท่านนบีมุฮัมมัดเมื่อประมาณ 1,400 ปี
ที่แล้วในคาบสมุทรอาระเบีย ดังนั้น การศึกษาประวัติศาสตร์อิสลามจึงถือเป็นประวัติศาสตร์
มนุษยชาติโดยแท้จริง
ถึงแม้อิสลามจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในสมัยของท่นนบีมุฮัมมัดก็ตาม แต่ประชาชาติ
มุสลิมหลังสมัยของท่านก็มีบทบาทสำคัญต่อกระแสประวัติศาสตร์โลกต่อมาเป็นเวลาอีก
ยาวนานซึ่งเป็นหลักฐานถึงอิทธิพลของอิสลามที่มีต่อโลก
ด้วยเหตุนี้ ใครที่ต้องการจะศึกษาอิสลามเป็นการเฉพาะก็จำเป็นจะต้องศึกษา
ประวัติศาสตร์อิสลามด้วยโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ของท่านนปีมุธัมมัด ทั้งนี้ เนื่องจากคัมภีร์
กุรอานที่พระผู้เป็นเจ้าประทานมาเพื่อเป็นธรรมนูญในการดำเนินชีวิตของมนุษย์นั้นได้ถูก
22 : ประวัติศาสตร์อิสลาม (เล่ม 2)
ประทานมายังท่านตลอดระยะเวลา 23 ปีแห่งการเป็นรอชูลุลลอฮฺ (ตาสนทูตของพระเจ้า)
และท่านเป็นเพียงผู้เดียวที่ได้รับเอกสิทธิ์ในการอธิบายและแสดงคำสอนออกมาให้เห็น
เป็นการปฏิบัติ จากแหล่งที่มาทั้งสองนี้เองคือรากฐานดำสอนของอิสลามที่มุสลิมทั่วโลก
ยึดถือเป็นแนวทางเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
แม้อิสลามจะเปลี่ยนแปลงสภาพสังคมอาหรับในยุคมืคให้กลายมาเป็นผู้สร้าง
อารยธรรมขึ้นบนโลก แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของอารยธรรม
อิสลามมิได้เป็นที่รับรู้หรือมีการสอนในสถาบันการศึกษาทั่วไปโดยเฉพาะในสถาบันอุดมศึกษา
ประกอบกับการไม่มีหนังสือหรือตำราภาษาไทยที่คนไทยทั่วไปสามารถเข้าถึงได้อย่าง
เพียงพอ จึงทำให้คนทั่วไปหรือแม้แต่มุสลิมเองไม่รู้จักอิสลามซึ่งเป็นรากเหง้าทางวัฒนธรรม
ของคนมุสลิม ด้วยเหตุนี้ ผมจึงได้เลือกเอาหนังสือเรื่อง History of Islam ซึ่งเขียนโดย
อักบัรุ ชาห์ นะญี่บอะบาดี (Akbar Shah Najeebabadi) มาแปลเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับ
คนทั่วไปได้ศึกษาคันคว้าและทำความเข้าใจ
ใครที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ตลอดทั้งเล่ม นอกจากจะได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์
ชาติมุสลิมที่เราไม่เคยได้อ่านที่ไหนมาก่อนแล้ว ยังจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความเสื่อมทราม
ทางศีลธรรมต่างหากที่เป็นสาเหตุแห่งการบ่อนทำลายสังคมและประเทศชาติ ไม่ว่าสังคม
หรือประเทศนั้นจะมีความมั่งคั่ง เข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองเพียงใดก็ตาม
ผมแปลหนังสือเล่มนี้ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ในการรับใช้หนทางแห่งอิสลามตามความรู้
ความสามารถตลอดจนสุขภาพและเวลาที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ผม แต่เนื่องจากหนังสือ
เล่มนี้มีความหนานับหลายร้อยหน้า ประกอบกับมีชื่อบุคคลและสถานที่จำนวนมากมาย
ซึ่งบางส่วนผมไม่คุ้นชื่อหรือเคยได้ยินมาก่อน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจมีความบกพร่อง
หรือผิดพลาดบ้างในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งซึ่งไม่อาจหลีกพันความผิดพลาดได้ ดังนั้น
หากผลงานชิ้นนี้มีความบกพร่องหรือผิดพลาดใด ๆ ผมขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺและยินดี
รับฟังคำวิจารณ์หรือคำชี้แนะที่สร้างสรรค์เพื่อการแก้ไขและปรับปรุงต่อไป
งานชิ้นนี้ปรากฎเป็นรูปเล่มขึ้นมาได้ก็ด้วยการช่วยจัดเตรียมตันฉบับและพิสูจน์
อักษรโดยอะมีนะอุภรรยาสุดที่รักของผมที่คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังและส่งกำลังบำรุงอยู่
ข้างกายมิได้ห่าง และที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งก็คือ "ศูนย์หนังสืออิสลาม" ที่เป็นผู้จัดพิมพ์
หนังสือเล่มนี้ออกมาสู่สายตาของผู้อ่าน จึงขอขอบคุณและขอวิงวอนต่ออัลลอฮฺได้โปรด
ตอบแทนความดีแก่ผู้มีส่วนในการจัดทำและสนับสนุนหนังสือเล่มนี้ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
(vol.2) The History of Islam : 23
หากจะพูดไปแล้ว ผลงานชิ้นนี้และชิ้นอื่น ๆ ที่ผมได้ทำมาถือเป็นผลพวงจากมรดก
การศึกษา ซึ่งเป็นมรดกชิ้นเดียวจริง ๆ ที่พ่อได้ให้ผมไว้ตั้งแต่เป็นเด็ก ด้วยการตื่นขึ้นมาแต่
เช้าตรู่ เตรียมข้อสอบให้ผมฝึกทำเพื่อสามารถสอบเข้าโรงเรียนดีๆได้ ประกอบกับการซึมซับ
รับเอาความมีน้ำอตน้ำทนของแม่ที่มีใจมุ่งมั่นต้องการจะเห็นอนาคตที่ดีของลูก ผลพวงจาก
มรดกการศึกษาที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ผมจึงได้ตกถึงคนอื่นๆด้วย
"โอ้อัลลอฮฺ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก หากหนังสือเล่มนี้มีคุณงามความดีใดๆ
ที่จะทำให้พระองค์ทรงรับคำวิงวอนของข้าพระองค์แล้ว ขอพระองค์ได้ทรงโปรดอภัยโทษแก่
ข้าพระองค์และบิดามารดาของข้าพระงค์ และขอพระองค์ได้โปรดประทานความเมตตา
แก่ท่านทั้งสอง ดุจดังที่ท่านทั้งสองเลี้ยงดูข้าพระองค์เมื่อครั้งเยาว์วัยด้วยเทอญ - อามีน"
บรรจง บินกาชัน
มกราคม พ.ศ.2552