เมล็ดเจีย (Chia Seeds)
เป็นเมล็ดธัญพืชชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กคล้ายเม็ดแมงลัก ลักษณะเป็นรูปไข่ มีสีหลากหลาย เช่น สีขาว สีดำ บางครั้งมีลายเป็นจุดสีน้ำตาล น้ำตาลเข้ม สีครีม ดำ และขาว สามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการแปรรูป และด้วยรสชาติอ่อน ๆ คล้ายถั่ว เข้ากับอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ ง่าย จึงนิยมนำมาโรยบนเมนูต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย เช่น ซีเรียล สลัดผัก เมนูข้าว เมนูขนมปังอบทั้งหลาย หรือจะผสมกับโยเกิร์ตและเมนูเครื่องดื่มก็ได้
มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเม็กซิโก จัดว่าเป็น “Super Food” เพราะเป็นแหล่งของสารอาหารมากมายหลายชนิด ดังนี้ โปรตีน, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม, เหล็ก, แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, สังกะสี, โซเดียม, วิตามินเอ, วิตามินบี 1, บี 3, บี 6 , โฟเลต และมีไฟเบอร์สูง ทั้งยังอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวกลุ่มโอเมก้า 3 และ 6
ประโยชน์ของเมล็ดเชีย
1.การทานเมล็ดเชียเพื่อการควบคุมน้ำหนัก
เมล็ดเชียเป็นแหล่งของไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ เมื่อทานเข้าไปไฟเบอร์จะค่อยๆถูกย่อยทีละน้อยๆ ทำให้อยู่ท้อง ไม่รู้สึกหิวเร็ว และทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ประกอบกับในเมล็ดเชีย เป็นแหล่งของสารอาหารที่มากมายและหลากหลาย ทำให้ร่างการไม่ขาดแคลนสารอาหารที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
2.การทานเมล็ดเชียเพื่อการบำรุงสุขภาพ
เมล็ดเชีย เป็นแหล่งของสารอาหารที่หลากหลาย ทำให้หลายคนเลือกที่จะนำเมล็ดเชียไปผสมกับอาหารหรือเครื่องดื่ม ซึ่งไม่ใช่การเพิ่มมื้ออาหาร แต่เป็นการเพิ่มสารอาหารที่มีประโยชน์เข้าไปให้มากขึ้นจากอาหารที่ทานอยู่ปกติ เช่น ใส่ในเครื่องดื่ม, สลัด, โยเกิร์ต หรืออาหารอื่นๆ เพื่อต้องการได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน ซึ่งส่งผลดีในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้
- Omega3, 6 : ช่วยบำรุงสมอง ช่วยลดคลอเลสเตอรอล และป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
- Calcium : ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
- Iron : จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือด และดีต่อระบบการไหลเวียนของเลือด
- Magnesium : ควยควบคุมระดับน้ำตาล และช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก
นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆเช่น ช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานดีขึ้น, ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้เป็นปกติ, ช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น เป็นต้น
วิธีรับประทาน
สามารถรับประทานได้ทั้งแบบแห้งและแช่น้ำ โดยนำไปผสมกับอาหารหรือเครื่องดื่มก็ได้ ซึ่งได้ทั้งอาหารคาวและหวาน ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ แต่หากทานแบบแห้ง ควรรับประทานร่วมกับอาหารที่มีน้ำปริมาณมากพอสมควร มิฉะนั้นอาจทำให้เกิดการท้องผูก