เมล็ดเจีย Chia seed ออร์แกนิค พร้อมขวดบด บรรจุ 100 กรัม โอเมก้า3 ลดน้ำหนัก บำรุงหัวใจ เบาหวาน
ข้อมูลสินค้า
ราคา
89.00 87.00 บาท
ขายแล้ว
64 ชิ้น
ร้านค้า
เมล็ดเจีย Chia seed ออร์แกนิค พร้อมขวดบด บรรจุ 100 กรัม
บรรจุ 100 กรัม
✅มีไฟเบอร์สูง
✅เมล็ดเจียมีสารต้านอนุมูลอิสระ
✅ช่วยลดน้ำหนัก
✅ช่วยรักษาถุงผนังลำไส้อักเสบ
✅ช่วยลดการเกิดโรคเบาหวาน
✅ช่วยย่อยอาหารและดีท็อกซ์
✅ช่วยบำรุงหัวใจ
✅ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
✅ช่วยเรื่องผิวพรรณและการชะลอวัย
✅ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
✅ช่วยความดันโลหิตสูง
✅ช่วยบำรุงความจำ
✅ช่วยบำรุงเม็ดเลือดแดง
แนะนำ
เมล็ดแฟลกซ์ควรทานแบบไม่ผ่านความร้อนเพื่อไม่ให่้โครงสร้างน้ำมันในเมล็ดแฟลกซ์เปลี่ยนรูปและควรบดแล้วทานทันทีเพื่อป้องกันเหม็นหืน
วิธีทาน
แนะนำให้ บดเมล็ดและโปรยลงบนอาหารแล้วทานทันที
คุณค่าทางโภชนาการในเมล็ดเจีย 28 กรัม (1 ออนซ์) มีพลังงานทั้งหมดประมาณ 137 กิโลแคลอรี แบ่งออกเป็นดังนี้
พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต 50 กิโลแคลอรี
พลังงานจากไขมัน 72.1 กิโลแคลอรี
พลังงานจากโปรตีน 15.2 กิโลแคลอรี
แบ่งส่วนประกอบทั้งหมดออกได้ดังนี้
คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) 3 กรัม
น้ำ (Water)4 กรัม
ไขมัน (Fat) ทั้งหมด 8.6 กรัม
กรดไขมันอิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid) 0.9 กรัม
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fatty Acid) 0.6 กรัม
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fatty Acid) 6.5 กรัม
อื่นๆ 0.6 กรัม
กรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega 3) 4,915 กรัม (สูงกว่าปลาแซลมอน 8 เท่า : เทียบในปริมาณน้ำหนักที่เท่ากัน)
กรดไขมันโอเมก้า 6 (Omega 6) 1,620 กรัม
โปรตีน (Protein) 4 กรัม
กากใยอาหาร (Fiber) 6 กรัม
แคลเซียม (Calcium) 177 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก (Iron)30 กรัม
แมกนีเซียม (Magnesium) 362 กรัม
ฟอสฟอรัส (Phosphorus) 265 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม (Potassium)8 มิลลิกรัม
โซเดียม (Sodium)3 มิลลิกรัม
สังกะสี (Zinc)0 มิลลิกรัม
ทองแดง (Copper) 1 มิลลิกรัม
แมงกานีส (Manganese)6 มิลลิกรัม
วิตามินเอ (Vitamin A) 3 ไมโครกรัม
วิตามินบี 1(Vitamin B1)5 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 (Vitamin B2) 270 มิลลิกรัม
วิตามินบี 3 (Vitamin B3) 6 มิลลิกรัม
วิตามินบี 6 (Vitamin B6) 152 มิลลิกรัม
โฟเลต (Folate) 29 ไมโครกรัม
คุณประโยชน์
หากคุณรับประทานปริมาณ 1 ออนซ์ต่อวัน คุณจะได้รับแคลเซียมถึง 18% ฟอสฟอรัส 27% แมงกานีส 30% ตามมาด้วยโพแทสเซียมและทองแดง ซึ่งเมล็ดเจียจะมีโอเมก้า 3 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และไฟเบอร์มากกว่าเมล็ดแฟลกซ์ โดยเมล็ดเจียสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสุขภาพต่าง ๆ ได้ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และอัตราความเสี่ยงอื่น เป็นต้น
มีไฟเบอร์สูง
แนวทางการบริโภคอาหารของประเทศอเมริกาในช่วงปี 2015-2020 จะแสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่อายุต่ำกว่า 50 ปี ควรบริโภคไฟเบอร์ 30.8 กรัมต่อวัน ส่วนในผู้หญิงอายุต่ำกว่า 50 ปี ควรบริโภคปริมาณ 25.2 กรัมต่อวัน และสำหรับผู้ชายที่มีอายุมากว่า 50 ปีขึ้นไป บริโภคปริมาณ 28 กรัมต่อวัน ผู้หญิงบริโภคปริมาณ 22.4 กรัมต่อวัน โดยวิธีที่ง่ายที่สุดในการเลือกรับประทานไฟเบอร์ คือ ผลไม้ ถั่ว ผัก ธัญพืชที่ยังไม่ผ่านการแปรรูป แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าเพียงคุณรับประทานเมล็ดเจีย 1 ออนซ์ ก็ทำให้คุณได้รับไฟเบอร์ 10 กรัม ซึ่งถือเป็นจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งที่ผู้หญิงอายุมกกว่า 50 ปี ควรรับประทานใน 1 วัน
ช่วยลดน้ำหนัก
อาหารที่มีเส้นใยสูงสามารถช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานมากยิ่งขึ้น และมีแคลอรีต่ำด้วย โดยในการลดน้ำหนักมักจะมีการเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ในอาหาร ซึ่งเมล็ดเจียนี่แหละถือได้ว่ามีไฟเบอร์สูง มีกรดไขมันโอเมก้า 3 กรดไขมันแอลฟาไลโนเลนิก สิ่งเหล่านี้นี่เองที่อาจมีประโยชน์สำหรับการลดน้ำหนักของคุณ แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานที่เพียงพอว่าเมล็ดเจียจะใช้ลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่
ช่วยรักษาถุงผนังลำไส้อักเสบ
อาการถุงผนังลำไส้อักเสบ อาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ต่ำ ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง อย่างเช่นเมล็ดเจีย สามารถช่วยลดอาการนี้ได้ ซึ่งลำไส้จะจะดูดซึมน้ำ และทำให้การอุจาระง่ายมากยิ่งขึ้น รวมถึงการรับประทานสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสามารถช่วยลดความดัน หรือการอักเสบบริเวณลำไส้ได้ด้วย
ช่วยลดโรคหัวใจกับหลอดเลือด และลดคอเลสเตอรอล
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่รับประทานไฟเบอร์เพียง 10 กรัมต่อวัน สามารถลดความดันโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอลได้ดี โดยการรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สามารถป้องกันเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน การอักเสบ รวมทั้ง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจกับหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคอ้วน
ช่วยลดการเกิดโรคเบาหวาน
ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงอย่างเมล็ดเจีย สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน เพราะไฟเบอร์ในเมล็ดเจียนั้นช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ ซึ่งมีผลการศึกษาพบว่าอาหารที่มีไฟเบอร์ 14 กรัมต่อจำนวน 1,000 แคลอรีสามารถลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2
ช่วยย่อยอาหารและดีท็อกซ์
เมล็ดเจียสามารถช่วยป้องกันอาการท้องผูก ทำให้ขับถ่ายทุกวันจึงทำให้สารพิษที่เกิดขึ้นทุกวันถูกขับออกผ่านทางน้ำดีกับอุจาระ และช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
มีกรดไขมันโอเมก้า 3
เมล็ดเจียอุดมไปด้วยไขมันโอเมก้า 3 ที่ชื่อว่ากรดไขมันแอลฟาไลโนเลนิกที่อาจป้องกันโรคหลอดเลือดและหัวใจได้ ซึ่งกรดชนิดนี้ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ ดังนั้น เราจึงต้องรับประทานจากอาหารต่างๆ เอง
ความเสี่ยงในการรับประทานเมล็ดเจีย
คุณจะเห็นได้ว่าเมล็ดเจียอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่มากมายหลายประการ แต่การรับประทานเมล็ดเจียก็มีความเสี่ยงเหมือนกันนะ เนื่องจากเมล็ดเจียสามารถดูดซึมน้ำได้ถึง 27 เท่า ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการกลืน ผู้ที่มีอาการแพ้อาหารโดยเฉพาะงาดำกับเมล็ดมัสตาร์ด ผู้ที่ใช้ยาลดความดันโลหิต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานเมล็ดเจีย และเด็กเล็กไม่ควรรับประทานเมล็ดเจีย ส่วนผู้ที่รับประทานเมล็ดเจียควรรับประทานอย่างเหมาะสม โดยควรเลือกอาหารที่มีความหลากหลายด้วย