ข้าพเจ้ารู้สึกว่าในบรรดางานเขียนทั้งหลายของข้าพเจ้า
สเตปเปนวูล์ฟ เป็นหนังสือที่ทำให้ผู้คนเข้าใจไขว้เขว
หรือถึงกับเข้าใจผิดรุนแรงยิ่งกว่าผลงานเล่มใดๆ
และบ่อยเสียด้วยที่นักอ่านผู้มีศรัทธาและสนับสนุนข้าพเจ้า
เป็นผู้ปฏิเสธหนังสือเล่มนี้เสียเอง
คนกลุ่มนี้อีกเช่นกันที่แสดงปฏิกิริยาออกมาแปลกๆ
ที่เป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเหตุผลเพียงอย่างเดียวจริงๆ
นั่นคือข้าพเจ้าเขียนหนังสือเล่มนี้เมื่อข้าพเจ้าอายุ 50 ปี
และเรื่องที่เขียนก็เป็นปัญหาของคนวัยนั้น
แต่ผู้อ่านกลับเป็นคนในวัยหนุ่มสาว”

- เฮอร์มานน์ เฮสเส
"สเตปเปนวูล์ฟ" นำเสนอปัญหาสังคมในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของยุคสมัยที่กำลังเปลี่ยนเข้าสู่ความเจริญก้าวหน้าของอุตสาหกรรมและระบบทุนนิยมสมัยใหม่ ที่ทำให้ปัญญาชนส่วนหนึ่งซึ่งอาจจะรวมถึงตัวเฮอร์มานน์ เฮสเนสเองด้วย เกิดความรู้สึกแปลกแยกกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีความคิดขบถ หมกมุ่นแต่การวิจารณ์ตัวเอง โจมตีพลังของทุนนิยม และคัดค้านความเหี้ยมโหดป่าเถื่อนของสงคราม..

"เฮอร์มานน์ เฮสเส" ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของเขาต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกผ่านตัวเอกของเรื่องคือ "แฮรี ฮอลเลอร์" วัย 50 ปี เช่นเดียวกับเขา แฮรี ฮอลเลอร์ ชายผู้มีสองวิญญาณ ด้านหนึ่งเขาคือชนชั้นกลางผู้เมินเฉยต่อชีวิต ไร้สุข หมดอาลัยจนบางขณะคิดฆ่าตัวตาย ส่วนอีกด้านหนึ่งเขาเรียกตัวเองว่า "สเตปเปนวูล์ฟ" หรือ "หมาป่าเปลี่ยว" ที่แววตาเต็มไปด้วยความงงงันและหวาดหวั่น วิญญาณของหมาป่าเปลี่ยวดุร้าย เลี้ยงไม่เชื่อง เขาใช้ชีวิตอย่างชายพเนจร ชีวิตที่มีสองวิญญาณอยู่ในตัวของแฮรีกำลังถูกกระจกเงาสะท้อนให้เห็นตัวตนของเขาโดย "เฮอร์มีน" นางรำคนสวยแห่งบาร์อินทรีดำ เธอรู้จักตัวตนของแฮรีอย่างแท้จริง โลกของความเป็นจริงกับโลกของความฝันของเขากำลังจะถูกทำให้แคบเข้า แต่แฮรีจะเกิดทัศนะอย่างใหม่ที่ไม่ปฏิเสธโลกได้หรือไม่อย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่น่าติดตาม