เหรียญยี่กอฮง หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ปี 2564
เหรียญยี่กอฮง-หลวงปู่บุญมา-โชติธมฺโม-สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง-ตำบลเขาไม้แก้ว-อำเภอกบินทร์บุรี-จังหวัดปราจีนบุรี-ปี-2564
เหรียญเทพเจ้า ยี่กอฮง 168 ครบรอบ 172 ปี ชาตกาล
(รุ่นแรก) หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม
สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง ตำบลเขาไม้แก้ว
อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี

เนื้อทองแดงผิวรุ้ง 999 เหรียญ
เนื้อชนวน จัดสร้าง 999 เหรียญ
เนื้อทองทิพย์ จัดสร้าง 999 เหรียญ
มีโค๊ตและเลขกำกับ
ขนาดประมาณ 3.0 ซม x 4.0 ซม
พร้อมกล่อง รับประกันพระแท้

อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว หลวงปู่บุญมา โชติธรรม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง ปราจีนบุรี
ปลุกเสก 3 วาระ
วาระแรก 19 ส.ค. 2564 โดย อาจารย์ภานุเทพ สำนักพุทธาคม
วาระสอง 21 ส.ค. 2564 โดย พระอาจารย์แป๊ะ วัดสว่างอารมณ์
วาระสาม 22 ส.ค. 2564 โดย หลวงปู่บุญมา สำนักสงฆ์เขาแก้ว ปราจีนบุรี

เจ้าพ่อยี่กอฮง เทพแห่งการเสี่ยงโชค หากใครที่ขอโชคลาภและเป็นผู้ที่มีความกตัญญูรู้คุณ
ก็มักได้รับโชคดีจากการเสี่ยงโชคจากพ่อปู่ยี่กอฮงอยู่เสมอ ซึ่งหลายคนยกให้ท่านเป็น
เทพแห่งการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงทุกประเภทเลยก็ว่าได้ ทั้งยังขนานนามว่า “เทพเจ้าหวยองค์แรกแห่งสยามประเทศ”
ปัจจุบันผู้คนนิยมกราบไหว้บูชาเจ้าพ่อยี่กอฮงเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือแม้กระทั่งชาวต่างประเทศ เพราะพวกเขาเหล่านั้นต่างมีความเชื่อที่ว่า ถ้าอยากมีความโชคดีจากการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวง ซื้อหวยหรือกระทั่งเล่นการพนัน หรือใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ ก็ขอให้ท่านช่วยเหลือได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินกฎแห่งกรรม

วิธีการขอหวยจากพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง
ตั้งจิตอธิษฐาน แล้วกล่าวว่า
"อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขิปปะเมว สะมิชฉะตุ สัพพะลาโภ ชะโย นิจจัง สัพพะลาโภ ภะวะตุ เม" กล่าว 3 จบ
ของแก้บนพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง ได้แก่ ข้าวขาหมู โอยั้ว / น้ำชา / ดอกดาวเรือง / หมากพลูบุหรี่ / ซิการ์

ประวัติ หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม วัดบ้านแก่ง จังหวัดปราจีนบุรี
(ปัจุจบันท่านย้ายมาอยู่ สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง) อย่างถาวร แบบเรียบง่าย

โลกยุคใหม่เจริญก้าวหน้าขึ้น สิ่งลี้ลับและความอาถรรพ์ต่างๆ ก็เริ่มลดน้อยลง สมัยก่อนพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคมมีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ แต่ละรูปล้วนมีชื่อเสียง สาธุชนคนใจบุญรู้จักกันถ้วนทั่ว และพระเกจิอาจารย์เหล่านั้นก็ล้วนแต่เป็นพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งสิ้น และพระดีนั้นก็ย่อมไม่อวดอ้างคุณความดี ทำให้มองไปว่าพระเกจิอาจารย์ยุคใหม่หายากที่บ้านแก่ง ตำบลวังตะเคียน หมู่ 3 อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี

มีผู้ไปพบพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเรืองวิชาอาคมจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านแก่ง ตำบลวังตะเคียน ความเล่าลือปากต่อปาก และจากประสบการณ์ทางวัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นมาแสดงพลังอิทธิปาฏิหาริย์อยู่ยงคงกระพัน ชื่อเสียงของ “พระครูสุนทรโชติธรรม” หรือ หลวงพ่อบุญมา โชติธมฺโม ค่อย ๆ เริ่มปรากฏและโด่งดังในพื้นที่อย่างรวดเร็วเมื่อกาลเวลาผ่านมา

ย้อนอดีต...ในปีพุทธศักราช 2473 ตรงกับวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน ปีเถาะ ครอบครัว “จิตศรี” โดย นายพ่วง และ นางทองคำ จิตศรี ไผ่เจริญ ได้บุตรคนที่สองของครอบครัว คนแรกเป็นผู้หญิงชื่อ เด็กหญิงเลียบ จิตศรี คนที่สองตั้งชื่อเรียกขานว่า เด็กชายบุญมา จิตศรี และหลังจากให้กำเนิดเด็กชายบุญมาแล้ว ปีต่อ ๆ มานางทองคำได้ให้กำเนิดสมาชิกในครอบครัวอีก 2 คน คือ เด็กชายสุวิทย์ และ เด็กหญิงสมหมาย จิตศรี รวมลูก 4 คน สมาชิกทั้งบ้าน 6 คน
ทั้งนายพ่วงและนางทองคำ มีอาชีพทำนา ฐานะทางบ้านก็พอมีพอกินปานกลาง แต่มาระยะหลังมีลูก 4 คน ทำให้อาหารการกินฝืดเคือง เด็กชายบุญมาเจริญวัยตามกาลเวลา จวนจบกระทั่งถึงวัยที่จะต้องได้รับการศึกษาเล่าเรียน ผู้เป็นพ่อส่งเด็กชายบุญมาให้ไปอยู่กับ หลวงพ่อเขียน หรือ พระครูประสารวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดบ้านกุง ซึ่งเด็กชายบุญมามีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อเขียน สมัยนั้นหลวงพ่อเขียนเป็นพระเกจิอาจารย์เก่งทางด้านอยู่ยงคงกระพัน

เด็กชายบุญมาอยู่รับใช้หลวงพ่อเขียน และศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดบ้านกุง จนกระทั่งจบการศึกษาประชาบาลชั้นประถมปีที่ 3 นายพ่วงผู้เป็นพ่อก็ไปรับตัวกลับให้มาอยู่กับ “หลวงปู่เอี่ยม” พระเกจิอาจารย์ที่มีคนให้ความเคารพนับถือกันมาก ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” หลวงปู่เอี่ยมนั้น มีวิชาอยู่ยงคงกระพันชาตรี หลวงปู่เอี่ยม รับเด็กชายบุญมาไว้เป็นลูกศิษย์แล้วก็ส่งให้เรียนต่อชั้นประถมปีที่ 4 จนจบพอโตเป็นหนุ่มหลวงปู่เอี่ยมก็สอนวิชาอาคม ให้ร่ำเรียนอักขระวิชาต่าง ๆ ฝึกให้ทำจิตให้เป็นสมาธิ สอนการนั่งวิปัสสนากรรมฐานขั้นต้นให้

นายบุญมาใช้ชีวิตทางโลกอยู่จนกระทั่งอายุ ๒๕ ปี เข้าวัยเบญจเพศจึงหันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เป็นศิษย์พระตถาคตเจริญรอยตามพระพุทธองค์ โกนหัวปวารณาตัวอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดทุ่งแฝก หมู่ ๒ ตำบลกบินทร์บุรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมี พระครูศรีวิเลิศ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สวัสดิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการกรอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า“โชติธมฺโม”

เมื่อบวชแล้ว ภิกษุหนุ่มนามบุญมาก็ศึกษาพระธรรมวินัย จนสามารถสอบนักธรรมเอกได้ในเวลาต่อมา จังหวะนั้นเองทางวัดบ้านแก่ง ว่างสมภารลง หลวงพ่อใหญ่ก็ได้สั่งให้ พระอธิการบุญมา มาเป็นสมภารวัดบ้านแก่ง สืบแทนหลวงพ่อทองดีที่มรณภาพ พระอธิการบุญมา พอมาอยู่วัดบ้านแก่ง ก็ทำนุบำรุงพัฒนาวัดตามแต่อัตภาพ

หลวงพ่อบุญมาทำกรรมฐานโดยกำหนดเอาแสงสว่างจากเปลวเทียนเป็นหลัก เพ่งกสิณจากเปลวแสงเทียนที่เรียกกันว่า “เตโชกสิณ” คือ การทำสมาธิจิตเพ่งแสงสว่างแห่งเปลวไฟ ภิกษุที่ทำได้ต้องมีสมาธิมั่นตั้งอยู่ในกรรมฐาน กำหนดเอาธาตุทั้ง 4 อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นมั่นคง แล้วพุ่งกระแสจิตสู่สิ่งที่กำหนดนั้น จนดวงจิตสงบนิ่งบังเกิดความสว่างขึ้นกลางมโนจิต อันเป็นการบรรลุมรรคผลในระดับหนึ่ง นั่นคือการสามารถกำหนดจิตให้เป็นสมาธิอันแน่วนิ่งและมั่นคงได้ จึงจะถือว่าผ่านการทดสอบของการบำเพ็ญพระกรรมฐานและการทำกสิณ หลวงพ่อบุญมา เพ่งกสิณเพ่งเปลวเทียนอยู่นาน กว่าจะบรรลุมรรคผลก็เล่นเอาดวงตาข้างขวาของท่านเสียเกือบจะบอดเลยทีเดียว

หลวงพ่อบุญมา พัฒนาวัดบ้านแก่งมาตลอดจนสามารถสร้างกุฏิ สร้างศาลาการเปรียญ
คำที่เกี่ยวข้อง
ยี่กอฮง หลวงปู่หมุนหลวงปู่มหาศิลา ยี่กอฮงเหรียญยี่กอฮงปู่ยี่กอฮงเหรียญยี่กอฮง พลับพลาชัยพ่อปู่ยี่กอฮงแผ่นทองยี่กอฮงเหรียญยี่กอฮง สยบคาสิโนเหรียญหลวงปู่บุญมาเหรียญพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง

สินค้าใกล้เคียง