1-19เมล็ด ราคา3บาท
20-5,000เมล็ด ราคา2บาท
5,001 ขึ้นไปส่งราคาเมล็ด1บาท
รีวิวความเผ็ดจากลูกค้า https://youtu.be/VRZkG__Xm04 แป๊ะดูดแหนม
เมล็ดพันธ์ พริกคาโรไลน์น่ารีปเปอร์ พริกเผ็ดที่สุดในโลก ของแท้100% ปลูกเอง ที่เมืองไทย การปลูกพริก
เทคนิคการเพาะเมล็ด ... เมล็ดของพริกที่เป็นสายพันธุ์ต่างประเทศ ใช้ระยะเวลาในการงอกนาน ... มีวิธีเร่งการงอกมาแนะนำให้คะ มีหลายวิธี ใช้วิธีไหนก็ได้

ยาวหน่อยจ้าวิธีการปลูกพริกสายพันธุ์ต่างประเทศไม่ยากอย่างที่คิด!!!

(การเพาะเมล็ด)
เมล็ดของพริกที่เป็นสายพันธุ์ต่างประเทศ จะใช้ระยะเวลาในการงอกนานหลายวัน เช่นตะกูล Carolina Reaper จะใช้เวลา20-40วัน
วิธีเร่งการงอกก็มีดังนี้

1). แช่น้ำอุ่น 40-50 องศา นาน 30 นาที แล้วค่อยนำไปปลูก
2). แช่น้ำเปล่า 1 คืน แล้วค่อยนำไปปลูก
3). แช่น้ำเปล่า 3 ชั่วโมง แล้วนำแช่น้ำยาเร่งราก 5 นาที แล้วค่อยนำไปปลูก
4). เพาะในวัสดุปลูกคุณภาพดี เช่น พีทมอส
5). แช่น้ำอุ่น 40-50 องศา นาน 30 นาที แล้วนำไปเพาะใส่กระดาษทิชชู่ พรมน้ำพอชื้นๆ 3-4วัน แล้วค่อยนำไปปลูกในพีทมอส

(การเตรียมดิน วัสดุปลูก)

1).สูตรดินปลูกแบบธรรมดา
-ดินร่วน 2 ส่วน
-แกลบเก่า 2 ส่วน
-ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน

2.) สูตรดินปลูกแบบพิเศษ Super Soil
-ดินหมัก ร่อนละเอียด 2 ส่วน
-พีทมอส 2 ส่วน
-เพอร์ไรท์ 1 ส่วน
-เวอร์วิคูไลท์ 1 ส่วน
-ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน
-เชื้อราไมคอร์ไรซา
***ดินปลูกควรมีการระบายน้ำและอากาศได้ดี ดินไม่แข็ง และไม่อุ่มน้ำมากจนเกินไป***

(การอนุบาลกล้าพริก)
1.) การลงเมล็ด
หลังจากที่เราได้แช่เมล็ดไปแล้ว ให้นำเมล็ดพริกลงเพาะในพีทมอส หากไม่มีพืทมอสให้เพาะลงในกระดาษทิชชูพรมน้ำ ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด ปิดฝาภาชนะ นำไปวางไว้ในที่มืด เปิดดูรากวันละครั้ง ฉีดพรมน้ำเมื่อเริ่มรู้สึกว่าแห้ง แต่ไม่แฉะจนเกินไป ซัก 5-20 วัน (หากเป็นพริกเผ็ดระดับโลกจะใช้เวลานานกว่า)
หรือเพาะลงพืทสอม เรียงเมล็ดลงไปในวัสดุเพาะ กลบดินบางๆ ฉีดพรมน้ำอีกรอบให้ชุ่ม
สังเกตุดู พริกเริ่มงอกรากออกมา นำพริกลงปลูกในพืทมอส หรือวัสดุเพาะกล้าต่อไปอีก 15-20 วัน เมื่อมีรากเยอะขึ้น 30วัน+ให้นำลงไปปลูกในกระถางต่อไป แนะนำให้แยกปลูก หลุมละ 1-2 ต้น จำทำให้ต้นกล้าพริกโตได้อย่างสม่ำเสมอ
**ข้อดีของการใช้พืทมอส คือลดการเกิดโรคในดิน รากเน่า โรคแมลงในดิน และยังมีสารอาหารที่เพื่ยงพอในการเพาะต้นกล้า 25-30 วัน***

ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 30-40วัน อาจจะเร่งโตด้วยการให้แสงไฟสีขาว เพื่อเร่งการสังเคาะห์แสง

(ย้ายลงปลูก)
1). เมื่อต้นกล้ามีอายุ 1 เดือนขึ้นไป(นับจากวันที่งอกออกจากเมล็ด)ความสูง 10-15 cm ย้ายลงปลูกในกระถาง 7 นิ้ว
ปลูกจนรากทะลุก้นกระถาง ให้เปลี้ยนกระถางอีกรอบให้ใหญ่ขึ้น
ไม่ควรลงกระถางใหญ่ในตอนแรก ควรเพิ่มขนาดของกระถางตามขนาดต้นไปเลื่อยๆ เพราะถ้าลงกระถางใหญ่แต่แรก ช่วงลดน้ำไปเรื่อยๆจะจำให้ดินด้านล่างอัดแน่น รากแทรกไปได้ยาก ทำให้ดูดสารอาหารได้ไม่ดี ชอดีของกสรปลูกในกระถางเราสามารถควบคุมโรคได้ดีกว่าปลูกลงดิน

หลังจากที่เราปลูกได้อายุ4-6 เดือนก็จะเริ่มออกดอก ติดผลตามระยะ ช่วงแรกๆจะยังไม่ติดเยอะเพราะยังไม่ได้อายุ ต้นพริกอายุ1-2ปีขึ้นไป จะให้ผลผลิตสูงขึ้น หากเราดูแลตัดแต่งกิ่งก็สามารถอยู่ได้นานเป็น 10ปี

(การดูแลพริก)
1). สภาพดิน
ชอบดินโปร่ง ระบายน้ำและอากาศได้ดี

2). สภาพอากาศ แดด
ไม่ชอบแดดจัด ควรพลางแสงซัก 50 % หรืออยู่ในร่มรำไร หรือรับแสงในช่วงเช้า ชอบอากาศแห้ง ไม่ชื้น เพราะจะเกิดราได้

3). การใส่ปุ๋ย
-ช่วงยังไม่ออกดอก ใส่ ปุ๋ยคอก / น้ำหมัก และจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง อาทิตย์ละ ครั้ง
หากไม่มีใช้ปุ๋ยสูตร 16-8-8

-ช่วงกำลังเริ่มติดดอกและช่วงติดผล
ควรให้ปุ๋ยหมัก และน้ำผลไม้หมักอย่างสม่ำเสมอ
หากไม่มีใช้ปุ๋ยสูตร 16-24-24
และควรฉีดพ่นเสริมด้วยแร่ธาตุแคลเซียม โบรอนทุกๆ5-7 วัน
เพื่อป้องกันดอกร่วง ช่วยให้ขั้วเหนียว ติดผลได้ดี

4). การให้น้ำ
-ช่วงต้นกล้าให้น้ำเช้าเย็น ยังไม่ต้องให้ปุ๋ย น้ำควรมีค่า Ph6.5-7.0
-ช่วงติดผล ให้น้ำแค่เช้า-เย็น
ช่วงรดน้ำควรฉีดยอดขึ้นใต้ใบบ่อยๆ เพื่อลดจำนวนแมลงที่หลบซ่อนอยู่ใต้ใบ

5). การตัดแต่งต้นพริก
เมือต้นพริกเริ่มมีขอ 5-6 ข้อให้เด็ดยอดบนสุดทิ่ง พริกจะแตกออกด้านข้างเป็นพุ่ม ช่วยในการเพิ่มกิ่ง ดอก และผล เมื่อสูงได้ซัก 1 ฟุต ใช้ไม้ไผ่ปักดินห่างจากโคนต้น 3-4 นิ้ว ผูกต้นด้วยเชื่อกเข้ากับไม้พอหลวมๆ ทำเพื่อค้ำลำต้นให้แข็งแรง ป้องกันหาหักล้ม ควรตัดใบด้านล่างออกบ้างเพื่อให้อากาศไหลผ่าน ลดที่หลบซ่อนของแมลงศัตรูพืช
หากต้นพริกสูงหรือใหญ่จะเกินไป หรือต้นโทรม มีอายุมากแก่เกินไป ให้ตัด กิ่งทิ้งเหลือแค่กิ่งช่วงโคนต้น 10-20 วันพริกก็จะแตกใบใหม่ออกมา วิธีนี้ทำได้เรือยๆ เมื่อต้นพริกโทรม หรือทรงไม่สวย

6). โรคและแมลงศัตรูพริก
พริกเป็นพืชที่ไวต่อโรคแมลงมาก หากโดนเพลี้ยกัดกินน้ำเลี้ยง
ไม่กี่ชมใบก็จะแสดงอาการหงิกงอให้เห็น
แมลงศัตรูพริก ที่จะเข้าทำรายทางใบได้แก่
เพลี้ยไฟ = ดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้น และใบ ใบหงิกงอ ยอดอ่อนไหม้
เพลี้ยอ่อน = ใบหงิกงอ
ไรแดง = ใบเหลืองเป็นจุดขาว ทำให้ต้นไม่ไม่แข็งแรง
แมลงหวีขาว = ใบเหลือง ใบด่าง ก่อให้เกิดเชื่อรา พาหะนําโรคทำให้ติดไวรัส ต้องถอนทิ้งอย่างเดียวไม่มีวิธีแก้
แมลงวันทอง = เจาะผลและวางใข่ทำให้ผลเน่า
หนอนผีเสื้อ = มาวางใข่และฝักมาเป็นหน่อน กัดกินใบลำต้น ยอดอ่อน

วิธีป้องกัน
ฉีดพ่น น้ำใต้ใบบ่อยๆเพื่อลดจำนวนแมลง และใข่
ฉีดพ่นด้วยน้ำหมักไล่แมลง หรือน้ำส้มควันไม้ ทุกๆ 5วัน
ฉีดพ่นด้วยเชื่อรากำจัดแมลง และเชื่อ บีที

ศัตรูพริกทางดิน
หอยทาก = กัดกินต้นอ่อน
หอยแจดี = กัดกินราก โคนต้นทำให้รากเน่า
ใส้เดือนฝอย = ทำให้เกิดโรครากปม
วิธีป้องกัน ใช้น้ำหมักใบชา รดราดแทนน้ำเปล่าบ่อยๆ หรือนำกากชา มาโรยรอบๆโคนต้น หรือสารกำจัดหอย

โรคพริก
-โรคกุ้งแห้ง
-โรครากเน่า
-โรคเชื้อรา
-โรคใบหงิก ใบเหลือง
-โรคไวรัสยาสูบ
-โรคใบเหี่ยว

โรคพริกจะไม่เกิดหากเราป้องกันแมลงศัตรู และหมั่นดูแลบำรุงต้นให้สมบูรณ์