สิกขิม เพลงลาอาณาจักรหิมาลัย Andrew Duff สดใส ขันติวรพงศ์ แปล สำนักพิมพ์ สวนเงินมีมา พ.ศ.๒๕๖๒ มี ๔๘๘ หน้า ISBN9786164810099

จากการสัมภาษณ์อย่างละเอียด ลุ่มลึก และศึกษาค้นคว้าข้อมูลจดหมายเหตุใหม่ ๆ หนังสือเล่มนี้ได้ฉายภาพรักหวานน่าตื่นเต้น และประเด็นชีวิตในสวนสวรรค์ที่สูญหายได้อย่างสะท้านสะเทือนใจ

"สิกขิม : เพลงลาอาณาจักรหิมาลัย" พูดถึงเรื่องจริงเหลือเชื่อของอาณาจักรเทพนิยาย ที่รอดพ้นจากการปกครองของจักรวรรดิอังกฤษ แต่กลับถูกอินเดียผนวกเมื่อปี 1975 หลังงานอภิเษกสมรสที่โด่งดังไปทั่วโลกเมื่อปี 1963 "ทอนดุป นัมเกล" ราชารูปงามองค์สุดท้ายแห่งสิกขิม กับรานีสาวชาวอเมริกัน "โฮป คุก" พยายามแสวงหาการสนับสนุนเพื่อให้สิกขิมได้เป็นเอกราชในท่ามกลางสงครามเย็น ข่าวลือที่สะพัดว่าโฮปเป็นสายลับซีไอเอ และความตึงเครียดระหว่างอินเดียกับจีนที่กลายเป็นสงครามในเขตหิมาลัย

"สิกขิม" จึงกลายเป็นตัวเบี้ยบนกระดานเกมภูมิรัฐศาสตร์ "อินทิรา คานธี" ได้ตัดสินชะตากรรมของสิกขิมไม่นาน ก่อนการประกาศกฎอัยการศึก ทอนดุปสิ้นพระชนม์อย่างคนใจสลาย เมื่อปี 1982 โฮปกลับนิวยอร์ก สิกขิมเริ่มบทใหม่ในฐานะรัฐที่ยี่สิบสองของอินเดีย จากการสัมภาษณ์อย่างละเอียด ลุ่มลึก และศึกษาค้นคว้าข้อมูลจดหมายเหตุใหม่ ๆ หนังสือเล่มนี้ได้ฉายภาพรักหวานน่าตื่นเต้น และประเด็นชีวิตในสวนสวรรค์ที่สูญหายได้อย่างสะท้านสะเทือนใจ

บทที่ 1 มรดกจากอังกฤษ
บทที่ 2 ใต้เงาทิเบต
บทที่ 3 ณ ที่มีโฮป
บทที่ 4 รัฐเปราะบาง
บทที่ 5 ภาพใหญ่
บทที่ 6 หักดิบ
บทที่ 7 เราต้องการแคดด้วยเหมือนกัน
บทที่ 8 เราจะสู้กับอินเดียได้อย่างไร
บทที่ 9 "พวกเขาบ้ากันไปหมดแล้ว"
บทที่ 10 เกิดแล้วต้องตาย

"อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว น้อยคนที่ไม่รู้สึกเห็นใจหรือเอาใจช่วยสิกขิมรัฐเล็กๆ ที่งดงามแต่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสองมหาอำนาจในภูมิภาค อีกทั้งยังตกเป็นเบี้ยของมหาอำนาจระดับโลกที่หวาดระแวงกัน การถูกอินเดียกลืนเป็นชะตากรรมของสิกขิมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงหรือ หากผู้นำสิกขิมไม่เดินหมากผิด และหากไม่มีความขัดแย้งภายในชาติอย่างร้าวลึก สิกขิมอาจมีสภาพต่างจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็ได้โศกนาฏกรรมของสิกขิม และของประมุขรัฐเป็นบทเรียนสอนใจอย่างดีสำหรับชาวไทยทั้งผู้นำและผู้ตกเป็นเบี้ยล่าง"
-- พระไพศาล วิสาโล --

"ดัฟฟ์ดึงเรื่องราวการผนวกสิกขิมกับราชาองค์สุดท้ายมาถักทอเข้าด้วยกันอย่างน่าทึ่ง จึงมิใช่งานค้นคว้าทางประวัติศาสตร์อย่างกว้างขวางเท่านั้น หากแต่เป็นเรื่องราวของมนุษย์ สุดประทับใจ"
-- DNA --

"ผู้เขียนเล่าเรื่องสิกขิมโดยโยงใยให้เราเข้าใจถึงสถานการณ์ทางการเมืองและทางวัฒนธรรมอย่างน่าสนใจนัก อ่านเพลินยังกับอ่านนิยาย และผู้เขียนยังให้เชิงอรรถบอกที่มาของข้อความนั้น ๆ เหมือนดั่งหนังสือในทางวิชาการ ตอนท้ายยังสรุปเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับรัฐแห่งนั้นให้เราติดตามได้อย่างสะดวกอีกด้วย"
-- ส.ศิวรักษ์ --

"เป็นหนังสือที่พูดถึงประวัติศาสตร์อย่างมีชีวิตชีวา มีแง่มุมให้จับต้องมากมายเต็มไปหมด...ถ้าอยากรู้จักสิกขิมอย่างแท้จริง ก็ควรที่จะรู้จักทั้งสุขและเศร้า ซึ่งทั้งหมดรวมอยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้ว"
-- นิ้วกลม --