เมล็ดพันธุ์หางนกยูงไทย
(Peacock Flower)
หางนกยูงไทย (Peacock Flower)ดอกหางนกยูงไทยออกดอกเป็นช่อ
โดยจะออกบริเวณซอกใบ ปลายกิ่ง หรือตามส่วนปลายยอดของต้น ดอกย่อยจะมีจำนวนมาก
ดอกมีหลายสีแยกไปตามสายพันธุ์ ได้แก่ สีส้ม สีแดงสีแดงประขาว สีชมพู สีชมพูแก่
สีเหลือง กลีบดอกมี 5 กลีบ ขอบกลีบดอกไม่เท่ากันหรือยับย่นเป็นเส้นเส้นลอนสีเหลือง
ขอบกลีบดอกเป็นสีเหลือง มีเกสรอยู่กลางดอกเป็นเส้นงอนยาวโผล่พ้นเหนือดอกออกมา
ดอกมีเกสรเพศผู้เป็นเส้นยาวมี 10 อัน เกสรเพศเมีย 1
อัน มีรังไข่เหนือฐานรองดอก
ก้านยอดเกสรเพศเมียเป็นสีแดงสดเหมือนก้านชูอับเรณู ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ
โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยก เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 เซนติเมตร
สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี[
1.ดอกหางนกยูงสีเหลืองสามารถนำมาต้มกับน้ำ
แล้วใช้อมเพื่อบรรเทาอาการปวดฟันได้ (ดอกของต้นดอกเหลือง)[3]
2.รากมีรสเฝื่อน นำมาต้มหรือฝนกินเป็นยาแก้วัณโรคในระยะที่สาม
(การนำมาใช้เป็นยาโดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ต้นที่มีดอกสีแดง) (รากของต้นดอกแดง)[1],[4]
3.เมล็ดมีสรรพคุณเป็นยาถ่ายพยาธิ (เมล็ด)[4]
4.รากใช้ปรุงเป็นยาขับประจำเดือนของสตรี (รากของต้นดอกแดง)[1],[4]
5.รากมีสรรพคุณเป็นยาแก้บวม (ราก)[4]
1.เมล็ดในฝักสามารถนำมารับประทานได้
โดยแกะเอาเปลือกกับเมล็ดซึ่งมีรสฝาดทิ้งไป โดยเนื้อในเมล็ดจะมีรสหวานมันเล็กน้อย
(เมล็ด)[2]
2.ดอกสามารถนำมาใช้บูชาพระได้[3]
3.นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ เพราะดอกมีความสวยงาม
ปลูกได้ในดินทุกชนิดและยังมีความทนทาน ปลูกง่ายและขึ้นง่าย
และยังเหมาะที่จะปลูกเป็นรั้ว เพราะหางนกยูงไทยบางสายพันธุ์จะมีหนามและกิ่งก้านเยอะ
สามารถปลูกเกาะกลุ่มเป็นแนวได้ดี[2]
4.ในด้านความสำคัญทางเศรษฐกิจ
สามารถปลูกเพื่อจำหน่ายต้นกล้าเพื่อเป็นไม้ประดับและจำหน่ายดอกเพื่อหารายได้เสริมให้ครอบครัวได้[3]