#หัวเชื้อเห็ดป่า


ขั้นตอนการหมักเชื้อเห็ดป่าของทางร้าน:

1.ใช้อ้อยสายพันธุ์สุพรรณบุรี50 แก่จัดอายุ12เดือนขึ้นไป ซึ่งจะมีปริมาณน้ำตาลสูง ให้ความหวานจัด และต้องเป็นอ้อยที่ปลูกด้วยวิถีอินทรีย์โดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ฉีดยาฆ่าแมลงหรือยาฆ่าหญ้า นำมาล้างน้ำและคั้นเอาเฉพาะน้ำอ้อยสด


2.นำสปอร์เห็ดป่า ที่แก่จัด มาหมักกับน้ำอ้อยสด


3.หมักทิ้งไว้ในที่ร่มและทำการกวนน้ำหมักทุกเช้าเพื่อเป็นการเติมอ๊อกซิเจนให้แก่เชื้อเห็ด ทำให้เชื้อเจริญเติบโตได้ดี


4.ทำการหมักทิ้งไว้14วันเพื่อให้เชื้อกินอาหาร(น้ำตาลในน้ำอ้อย)ให้หมดและเข้าสู่ภาวะหลับ


#ข้อดีของการใช้น้ำอ้อยหมักเชื้อเห็ดป่า


1.อาหารที่เพียงพอสำหรับเชื้อราเห็ดป่า (ให้ปริมาณอาหารมากกว่ากากน้ำตาล)


2.ความเข็มข้นของน้ำหัวเชื้อเห็ดป่าที่มากกว่า(เพราะไม่ได้เต็มน้ำเปล่า)เมื่อเทียบกับการหมักด้วยกากน้ำตาล


3.ไม่เติมฮอร์โมนหรือวัตถุเคมีทำให้เชื้อเห็ดป่ามีความแข็งแรงสมบูรณ์


#วิธีการลงเชื้อเห็ดป่า


1.หัวเชื้อ1ขวดปริมาณ 500cc ผสมน้ำ20ลิตร หรือตามความชอบ คนให้เข้ากันเพื่อให้เชื้อต้นจากการหลับ


2.ขุดพื้นดินรอบโคนต้นไม้ลึก5-10 ซม.


3.นำเชื้อเห็ดที่ผสมน้ำแล้วรดราดบริเวณที่ขุดรอบโคนต้นไม้ไว้
4.กลบดินและนำเศษหญ้าหรือฟางข้าวมาคลุมบรเวณที่ลงเชื้อเห็ด


5.รดน้ำให้ความชื้นสม่ำเสมอ


6.รักษาระบบนิเวศภายในบริเวณให้สมดุล


7.หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีทุกชนิดบริเวณใกล้เคียงที่ลงเชื้อเห็ด


#ข้อแนะนำควรลงเชื้อเห็ดสม่ำเสมอทุกปี ปีละ1-2ครั้ง เพื่อรักษาปริมาณและขยายเชื้อเพิ่มทุกปี จะส่งผลให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นทุกปี



อันที่จริงแล้วเห็ดจัดเป็นเชื้อราประเภทหนึ่งโดยมีการเจริญเป็นเส้นสาย(hyphae)

ในระยะหนึ่ง และมีการรวมตัวของเส้นใยเป็นโครงสร้างสืบพันธุ์ขนาดใหญ่ (fruit body)

ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและสามารถใช้มือเก็บได้ โดยส่วนใหญ่แล้วเห็ดจะดำรงชีวิตเป็นผู้ย่อยสลายอินทรียวัตถุให้เป็นสารอินทรีย์ขนาดเล็กเพื่อนำเข้าไปใช้ในการเจริญของตนเองและช่วยหมุนเวียนสารอาหารในระบบนิเวศ


1)เห็ดที่ดำรงชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยกับพืชเรียกว่า กลุ่มเห็ดไมคอร์ไรซา (mycorrhiza)เช่น เห็ดขมิ้นเห็ดมันปู เห็ดผึ้งหรือเห็ดตับเต่า เห็ดเผาะ เห็ดไคหรือเห็ดหล่ม และเห็ดระโงก เป็นต้น และ

2)เห็ดที่ดำรงชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยกับปลวก ได้แก่ กลุ่มเห็ดปลวกหรือเห็ดโคน
การทำให้มีเห็ดออกและเก็บได้ตลอด

วิธีทำนั้นง่ายมากสามารถทำได้ดังนี้:

1.1. เวลาที่เก็บเห็ดต้องเหลือส่วนหนึ่งไว้ให้เป็นแม่เชื้อในธรรมชาติต่อไปด้วยไม่ใช่เก็บมาทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่ที่เจอคือเก็บหมดไม่มีเหลือ อันนี้ต้องช่วยกันทำความเข้าใจ

เติมเชื้อในต้นไม้ที่เป็นพืชอาศัย โดยเพาะกล้าไม้วงศ์ยางที่เป็นพืชอาศัยของเห็ดแล้วนำสปอร์ของเห็ดผสมน้ำแล้วนำไปหยอดในถุงหรือใช้สปอร์คลุกกับดินที่ใช้ปลูกกล้าไม้เลยก็ได้ อนุบาลกล้าไม้ไว้ประมาณ1ปี แล้วค่อยนำไปปลูกในแปลงหรือสวน ใช้เวลาอย่างน้อย2-3ปี เห็ดมีการเจริญเติบโตและสามารถเก็บไปกินได้
หากเราเพาะกล้าไม้และเติมเชื้อเห็ดแล้วนำไปปลูกทุกปี เมื่อเห็ดเริ่มมีเห็ดออกครั้งแรกแล้วเราจะสามารถเก็บเห็ดได้ต่อเนื่องทุกปี อีกทั้งยังเป็นการฟื้นฟูเห็ดในธรรมชาติและผืนป่าที่เป็นแหล่งอาศัยของเห็ดไปพร้อมๆกัน ซึ่งจะเป็นการช่วยลดปัญหาการเผาป่าที่เป็นสาเหตุของปัญหาหมอกควันอีกทางหนึ่งด้วย

ในกรณีที่มีต้นไม้ที่เป็นพืชอาศัยของเห็ดอยู่แล้วสามารถนำสปอร์ของเห็ดไปใส่ได้เลย แต่อาจต้องใช้ปริมาณมากสักหน่อย โดยสามารถใส่ได้ตั้งแต่ต้นฤดูฝนไปจนถึงปลายฤดู เพราะเป็นช่วงที่ต้นไม้กำลังเจริญเติบโตและมีความชุ่มชื้นเหมาะต่อการเจริญของเส้นใยเห็ด แต่ต้องใช้ระยะเวลานาน อาจใช้เวลา5-7ปี หรือนานกว่านั้นจึงจะมีเห็ดให้เก็บไปกินได้(ควรเติมเชื้อเห็ดปีละ1-2ครั้ง)เขียน / เรียบเรียงเรื่องโดย:ว่าที่เรือตรีศุลิเชษฐ์ ทองกล่ำ