ดั่งผู้หญิงไร้ชีวิต” Dead Women Walking เขียนโดย Jennifer Su
ข้อมูลสินค้า
ราคา
100.00 บาท
แบรนด์
Praphansarn(ประพันธ์สาส์น)
ร้านค้า
หนังสือมือสองสภาพดีเลื่อนดูสภาพก่อนนะครับ
เมื่อครั้งที่สำนักพิมพ์ติดต่อมาทางอีเมล และส่ง Dead Women Walking มาให้พิจารณาว่า ฉันสนใจจะแปลหรือไม่
สิ่งที่แรกที่ฉันเลือกมองข้ามไปคือ สิ่งที่ผู้เขียนอย่างเจนนิเฟอร์ ซู ต้องการโปรโมทคริสตศาสนา ผ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง ศาสนา วัฒนธรรม และความเชื่อของชาวไต้หวันและประเทศไต้หวัน
ฉันเลือกมองข้ามประเด็นเรื่องศาสนาและความเชื่อเหล่านี้ เพราะฉันรู้สึกว่า เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกถูกแบ่งแยก ด้วยมายาคติ และเป็นการแบ่งแยกที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง รวมถึงการโต้ค้านจากอีกฝ่าย แต่ทั้งนี้ ตัวผู้เขียนเองก็ไม่ได้ตัดสินว่าศาสนาหรือความเชื่ออย่างไหนดีกว่ากัน
เจนนิเฟอร์ ซู ปล่อยให้ผู้หญิงทั้งสามคนในเรื่อง เหมย เฉิน, ยู่เฟิ้ง หวัง และหลิง หู่ พาผู้อ่านไปพบกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตของพวกเธอ จะเรียกว่าเป็น ชะตากรรม ก็ได้ แม้ผู้เขียนจะพยายามบอกเป็นนัยๆ ว่า คริสตศาสนา ทำให้พวกเธอหลุดพ้นและมีแหล่งพักพิง
สำหรับฉันในฐานะผู้แปลหนังสือเล่มนี้ ฉันสนใจประเด็นของชีวิตของผู้หญิงทั้งสามคนในเรื่อง อันประกอบด้วย เหมย เฉิน, ยู่เฟิ้ง หวัง และหลิง หู่ อย่างมาก
ชีวิตของผู้หญิงทั้งสามคน เชื่อมร้อยไปกับสภาพสังคมและวัฒนธรรมของชาวไต้หวัน พวกเธอมาจากพื้นฐานครอบครัวที่แตกต่างกัน และผู้เขียนอย่างเจนนิเฟอร์ ซู ก็เลือกที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของพวกเธอ ตั้งแต่วัยเยาว์อันไร้เดียงสาว วัยสาวที่กรุ่นไปด้วยความรักและการแสวงหาดิ้นรนในการทำมาหากิน จนพวกเธอเข้าสู่สถานภาพของการเป็นภรรยาและแม่ในที่สุด
เหมย เฉิน หญิงชนเผ่าเป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก และมีชะตากรรมซึ่งถ้าเทียบเป็นดีกรีแล้ว เธอมีชะตาชีวิตที่หนักหน่วงกว่า ยู่เฟิ้ง หวัง และ หลิงหู่ --- เหมย เฉิน ต้องต่อสู้กับสภาพชีวิตและครอบครัวที่ยากจน เธอเป็นหญิงชนเผ่าที่ชีวิตต้องเกี่ยวพันอยู่กับความเชื่อในเรื่องเวทมนตร์คาถา และผีสาง จนเป็นเหตุให้ชีวิตของเธอเหมือนถูกตามหลอกหลอนด้วยวิญญาณร้ายที่เธอไม่สามารถหาตัวมันพบ เธอเป็นโสเภณี ติดยาเสพติด มีคู่นอนหลายคน ถูกข่มขื่น และเลวร้ายที่สุดเมื่อคนใกล้ตัวของเธอ ข่มขืนลูกในไส้ของเธอและของเขาด้วย ทั้งที่เด็กน้อยทั้งสองยังเล็กอยู่
ยู่เฟิ้ง หวัง เป็นเด็กหญิงที่ครอบครัวนับถือศาสนาพุทธ แต่เธอก็มีโอกาสได้ข้องแวะกับคริสตศาสนา เพียงแค่แวะไปเอาลูกกวาดหรือขนมหวานตามโบสถ์ในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวัตรในช่วงวัยเด็กของเธอ ความอดอยากในครอบครัวของเธอนั้นก็ไม่ได้ต่างจาก หลิง หู่ พอเป็นวัยรุ่นยู่เฟิ้ง หวัง ต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อไปทำงานโรงงาน ชีวิตของเธอสะท้อนภาพชนชั้นแรงงานในไต้หวัน และดูเหมือนเธอจะมีความสุขหลังจากได้แต่งงานกับชายที่ค่อนข้างมีฐานะ แต่ที่สุด ชะตาชีวิตก็พลิกผันจนเกือบเสียชีวิต เธอกลายเป็นคนพิการ และครอบครัวแตกสลายไม่มีชิ้นดี
หลิง หู่ เป็นเด็กหญิงที่มีพร้อมทุกอย่าง ครอบครัวมีฐานะ เพียบพร้อมทั้งการศึกษา ฐานะ เงินทอง ชีวิตความเป็นอยู่สุขสบาย แต่ หลิง หู่ ก็ไม่ต่างจากหญิงชาวไต้หวันอีกหลายคน ที่ครอบครัวมักให้ค่าของลูกผู้หญิงน้อยกว่าผู้ชาย และทำให้เห็นภาพว่า ผู้ชายมักได้รับอภิสิทธิ์เหนือว่าไม่ว่าจะเป็นชนชั้นใดๆ ในไต้หวัน ชีวิตที่เหมือนจะสมบูรณ์แบบ จบเห่ไม่เป็นท่าเพราะการเลือกคู่ชีวิตผิด เธอต้องระเห็ดและทนกับแรงกดดันจากครอบครัว ที่มักจะมีคำกล่าวกันว่า “มีลูกผู้หญิงเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน