เศียรครู 10เศียร ขนาดกว้างประมาณ 4 นิ้ว พร้อมฐานตั้งปิดทอง

๑. พระอิศวร แทนสัญลักษณ์องค์พระอิศวร ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่องค์หนึ่ง เวลาตั้งหัวโขนหรือศีรษะท่าน จะต้องตั้งให้สูงสุดกว่าหัวโขนอื่น
๒ พระนารายณ์ แทนสัญลักษณ์องค์พระนารายณ์ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าผู้บริหารและรักษาโลก เวลาตั้งหัวโขนหรือศีรษะท่านจะต้องต่ำกว่าพระอิศวร
๓. พระพรหม แทนสัญลักษณ์ของพระพรหม ซึ่งเธอเป็นเทพเจ้าผู้สร้างโลก เวลาตั้งหัวโขนหรือศีรษะท่านต้องต่ำกว่าพระอิศวรแต่เสมอกับพระนารายณ์
๔. พระพิฆเนศ แทนสัญลักษณ์องค์พระพิฆเนศซึ่งถือเป็น เทพเจ้าแห่งความรู้ สติปัญญา ศิลปศาสตร์ เป็นใหญ่แล้วอุปสรรคทั้งมวล เป็นเทพผู้อยู่เหนือการรจนาหนังสือ เวลาตั้งหัวโขนเหนือศีรษะท่าน ต้องตั้งให้ลดลงต่ำกว่าเทพองค์อื่นๆ แต่อาจต้องระดับเดียวกับพระอินทร์ได้
๕.พระอินทร์ แทนสัญลักษณ์ของพระอินทร์ ซึ่งพระอินทร์เป็นเทวดาองค์สำคัญของศาสนาพราหมณ์ โดยเป็นประมุขแห่งทวยเทพ และเป็นประธานเทวสภา มีอำนาจหน้าที่ปกครอง ควบคุม ธำรง รักษา และบำรุงสวรรคโลกและมนุษยโลก
๖. พระวิษณุกรรม แทนสัญลักษณ์ของพระวิสสุกรรม ซึ่งถือเป็นเทพแห่งการช่างการก่อสร้าง ไ เวลาตั้งหัวโขนหรือศีรษะท่าน ต้องลดลงมาจากพระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม พระอินทร์ พระพิฆเนศ
๗. พระปรคนธรรพ แทนสัญลักษณ์องค์พระปรคนธรรพ ซึ่งถือว่าเป็นครูปี่พาทย์ เป็นผู้ประดิษฐ์พิณ เป็นผู้แต่งคัมภีร์กฎหมายที่เรียกว่า “นารทินาธรรมศาสตร์” เป็นผู้รอบรู้ในกาลทั้งสามคือ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เวลาตั้งหัวโขนหรือศีรษะท่าน จะตั้งทางขวาของเวทีรวมกับศีรษะพระครูฤๅษีต่างๆ
๘. พระปัญจสิงขร แทนสัญลักษณ์องค์พระปัญจสิงขร ซึ่งถือว่าท่านเป็นครูพิณและขับร้องต่างๆ
๙. พระพิราพ แทนสัญลักษณ์องค์พระพิราพถือเป็นครูอสูรเทพผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ ซึ่งศิลปะโขน-ละคร ดนตรีไทย ของสักการะในฐานะที่เป็น ครูดุริยางศิลป์และนาฏศิลป์ เป็นเทพเจ้าแห่งความตาย ความหายนะทั้งปวง ในขณะเดียวกันก็เป็นเทพเจ้าแห่งความประสบโชค ขจัดโรคภัยต่างๆ เวลาตั้งหัวโขนหรือศีรษะท่าน จะตั้งทางด้านซ้ายของเวที ต่ำกว่าพระอิศวร แต่สูงความหัวโขนยักษ์อื่นๆ
๑๐. พระภรตฤาษี หรือพ่อแกเเละพระฤาษีอื่นๆ