English name: Moringa Seed Oil
Botanical name: Moringa oleifera
Extraction method: First Cold-Pressed
Type: Certified Organic Extra Virgin Unrefined
Ingredients: 100% Moringa Seed Oil
Origin: Asia
- น้ำมันมะรุมมาจากเมล็ดของต้นมะรุม Moringa oleifera ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "ต้นไม้แห่งชีวิต" เพราะมีประโยชน์มากมายในการบำรุงผิวพรรณและด้านความงาม และได้รับการบันทึกว่ามีการใช้มานนับเป็นเวลาหลายพันปี
- ชาวโรมันและชาวกรีกใช้น้ำมันมะรุมผสมกับน้ำหอมเพื่อใช้เป็นโลชั่นและขี้ผึ้งบำรุงผิว ชาวอียิปต์ใช้น้ำมันมะรุมเพื่อปกป้องผิวจากการทำลายของฝุ่นทรายและดวงอาทิตย์และในระหว่างการเดินทางในทะเลทราย
- น้ำมันน้ำมันมะรุมมีชื่อเสียงมากในด้านการดูแลผิวและความงามเพราะอุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients), สารต้านอนุมูลอิสระ และกรดไขมัน (fatty acid) ในระดับสูง ได้แก่ โอเลอิก, ปาล์มิโอลิคและกรดไลโนเลอิก รวมทั้ง วิตามิน A และ C เพื่อให้ได้น้ำมันที่ดีที่สุด เมล็ดของต้นมะรุมจะถูกสกัดด้วยวิธีบีบเย็นซึ่งอุณหภูมิจะต้องไม่สูงกว่า 120 °F (49 °C) เพื่อรักษากลิ่นและคุณค่าของสารสำคัญ
- น้ำมันมะรุม มักได้รับการเรียกชื่อ Ben oil หรือ Behen oil เนื่องจากมี Behenic acid ในระดับสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีส่วนสำคัญในการรักษาความสมบูรณ์ของเกราะป้องกันผิวต่อสิ่งแวดล้อมและคงคุณภาพผิวที่ดี ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมักใช้ Behenic acid เพื่อปลอบประโลมผ่อนคลาย ผิวแห้ง, บอบบาง/แพ้ง่าย Behenic acid ยังมีส่วนทำให้น้ำมันมะรุมมีความเสถียรทนต่อการเสื่อมสภาพและทนต่อการหืนทำให้อายุการเก็บรักษายาวนาน
- น้ำมันมะรุมยังอุดมไปด้วยไซโตไคนิน cytokinin ซึ่งเป็นฮอร์โมนพืช ที่มีศักยภาพมากที่สุดคือ zeatin ซึ่งมะรุมมีซีทินมากกว่าหนึ่งเท่าจากพืชชนิดอื่น
- สินค้าเป็นผลิตภัณฑ์วัตถุดิบธรรมชาติ ไม่ควรรับประทาน
- การเก็บรักษา: หลังการใช้ ปิดฝาให้สนิท หลีกเลี่ยงความชื้น ความร้อนและเเสงเเดด
- สีของน้ำมันในแต่ละล็อตของการผลิตอาจจะเเตกต่างกันและอาจมีตะกอนเล็กน้อยซึ่งเป็นลักษณะปกติของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติEnglish name: Moringa Seed Oil
Botanical name: Moringa oleifera
Extraction method: First Cold-Pressed
Type: Certified Organic Extra Virgin Unrefined
Ingredients: 100% Moringa Seed Oil
Origin: Asia
- น้ำมันมะรุมมาจากเมล็ดของต้นมะรุม Moringa oleifera ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "ต้นไม้แห่งชีวิต" เพราะมีประโยชน์มากมายในการบำรุงผิวพรรณและด้านความงาม และได้รับการบันทึกว่ามีการใช้มานนับเป็นเวลาหลายพันปี
- ชาวโรมันและชาวกรีกใช้น้ำมันมะรุมผสมกับน้ำหอมเพื่อใช้เป็นโลชั่นและขี้ผึ้งบำรุงผิว ชาวอียิปต์ใช้น้ำมันมะรุมเพื่อปกป้องผิวจากการทำลายของฝุ่นทรายและดวงอาทิตย์และในระหว่างการเดินทางในทะเลทราย
- น้ำมันน้ำมันมะรุมมีชื่อเสียงมากในด้านการดูแลผิวและความงามเพราะอุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients), สารต้านอนุมูลอิสระ และกรดไขมัน (fatty acid) ในระดับสูง ได้แก่ โอเลอิก, ปาล์มิโอลิคและกรดไลโนเลอิก รวมทั้ง วิตามิน A และ C เพื่อให้ได้น้ำมันที่ดีที่สุด เมล็ดของต้นมะรุมจะถูกสกัดด้วยวิธีบีบเย็นซึ่งอุณหภูมิจะต้องไม่สูงกว่า 120 °F (49 °C) เพื่อรักษากลิ่นและคุณค่าของสารสำคัญ
- น้ำมันมะรุม มักได้รับการเรียกชื่อ Ben oil หรือ Behen oil เนื่องจากมี Behenic acid ในระดับสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีส่วนสำคัญในการรักษาความสมบูรณ์ของเกราะป้องกันผิวต่อสิ่งแวดล้อมและคงคุณภาพผิวที่ดี ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมักใช้ Behenic acid เพื่อปลอบประโลมผ่อนคลาย ผิวแห้ง, บอบบาง/แพ้ง่าย Behenic acid ยังมีส่วนทำให้น้ำมันมะรุมมีความเสถียรทนต่อการเสื่อมสภาพและทนต่อการหืนทำให้อายุการเก็บรักษายาวนาน
- น้ำมันมะรุมยังอุดมไปด้วยไซโตไคนิน cytokinin ซึ่งเป็นฮอร์โมนพืช ที่มีศักยภาพมากที่สุดคือ zeatin ซึ่งมะรุมมีซีทินมากกว่าหนึ่งเท่าจากพืชชนิดอื่น
- สินค้าเป็นผลิตภัณฑ์วัตถุดิบธรรมชาติ ไม่ควรรับประทาน
- การเก็บรักษา: หลังการใช้ ปิดฝาให้สนิท หลีกเลี่ยงความชื้น ความร้อนและเเสงเเดด
- สีของน้ำมันในแต่ละล็อตของการผลิตอาจจะเเตกต่างกันและอาจมีตะกอนเล็กน้อยซึ่งเป็นลักษณะปกติของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ