สตรอม 1 L ✅เร่งราก เร่งต้น เร่งใบ ฮิววิคแอซิด ดินร่วนซุย บำรุงดินให้สมบูรณ์ ใบสีเขียวเข้มสด แคลเซียม โบรอน ธาตุอาหารรอง
ข้อมูลสินค้า
ราคา
340.00 บาท
ร้านค้า
สตรอม 1L เร่งราก เร่งต้น เร่งใบ บำรุงดิน ดินร่วนซุย เนื้อแน่น น้ำหนักดี ฮิววิคแอซิด
ชื่อการค้า : สตรอม (STROM)
ใบรับแจ้งเลขที่ : รส.2113109/2565 (กรมวิชาการเกษตร) หมดอายุ 27/11/2570
สตรอม เครื่องหมายการค้า ตราอีทีจี รันนิ่ง
คุณสมบัติ : เป็นปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม ชนิดน้ำ ประกอบด้วยปริมาณธาตุอาหารดังนี้ ปริมาณ ธาตุอาหารรอง
แคลเซียม (CaO)......................................8%
ปริมาณธาตุอาหารเสริม
โบรอน (B)...................................................0.1%
สตรอม เป็นธาตุอาหารพืชที่ประกอบด้วยแคลเซียม โบรอน ในรูปที่พืชสามารถดูดซึมได้ดี
ประโยชน์ :
1. ทำให้ดินร่วนซุย บำรุงดินให้สมบูรณ์
2. กระตุ้นการแตกรากและการงอกของเมล็ดพันธุ์
3. เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร
4. ให้ธาตุหลัก อาหารรองและอาหารเสริม
5. เร่งการเจริญเติบโตของราก ลำต้นและใบพืช
6. ทำให้พืชมีใบสีเขียวเข้มสด
7. เพิ่มความแข็งแรงให้พืช น้ำหนักดี เนื้อแน่น
8.ช่วยผสมเกสรให้การผสมเกสรติดดี
9. ช่วยให้ผลโตและสมบูรณ์
10. ป้องกันผลแตกและร่วงก่อนเก็บเกี่ยว
วิธีการใช้ :
สตรอม 30-40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ดูดซึมได้ดีทั้งทางรากและทางใบ ควรใช้ทุก 7-10 วัน
แตงต่างๆ ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา มะเขือต่างๆ ผักกาดหอม ไม้ดอกไม้ประดับ และไม้ผล 30-40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
พืชผักตระกูลกะหล่ำ 20-40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
พืชหัว หอม แครอท มันฝรั่ง สับปะรด 20-40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
ควรพ่นให้เป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบและทุกๆส่วนของพืชทุก 7-10 วัน
ข้าว : ใช้ฉีดพ่นข้าวระยะออกรวง อัตราการใช้ 30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ควรพ่นทุกๆ 7 วัน เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ แข็งแรง และเพิ่มปริมาณผลผลิต
ข้าวโพด : ใช้ฉีดพ่นเมื่อข้าวโพดมีอายุ 55-60 วัน อัตราการใช้ 30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ควรพ่นทุกๆ 7 วัน เพื่อช่วยผสมเกสรติดดี ป้องกันเมล็ดลีบ ช่วยให้รสชาติและสีดีขึ้น
คำเตือน : ปุ๋ยเหลวอาจมีก๊าซเกิดขึ้น และอาจเป็นอันตรายได้ง่าย ควรเปิดด้วยความระมัดระวัง
คำแนะนำ : ควรอ่านคำแนะนำเอกสารกับปุ๋ยให้เข้าใจเสียก่อน หากไม่เข้าใจหรือมีปัญหา ให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมการเกษตร ในท้องถิ่น เพื่อให้การใช้ปุ๋ยมีประสิทธิภาพขึ้น และไม่ควรใช้เกินอัตราที่กำหนดเพราะจะเป็นอันตรายกับพืชได้
ข้อควรระวัง :
1. โดยทั่วไปแล้ว ปุ๋ยเคมีพ่นทางใบ พืชใช้ประโยชน์ได้น้อย ควรใช้เป็นปุ๋ยเสริมกับการให้ปุ๋ยทางดิน
2.ควรพ่นในเวลาเช้าหรือเย็น ในเวลาที่อากาศไม่ร้อน ลมไม่พัดแรง และคาดว่าฝนไม่ตก
3. ขณะที่พ่น พืชต้องไม่เหี่ยวเฉาหรือขาดน้ำ
4. การพ่นอย่าให้ถึงเปียกโชก เพราะจะทำให้เสียค่าปุ๋ยเพิ่มขึ้น และประสิทธิภาพปุ๋ยที่ใช้พ่นทางใบเมื่อ ตกลงดิน จะมีประสิทธิภาพเท่ากับปุ๋ยที่ใส่ทางดิน
5. ควรเก็บรักษาปุ๋ยเคมีในภาชนะที่มิดชิด ในที่ร่มและแห้ง และควรเก็บปุ๋ยเคมีไว้ในที่ปลอดภัย ห่างไกล จากมือเด็ก
6. ระวังอย่าให้ถูกผิวหนังหรือเข้าตา หากถูกผิวหนังหรือเข้าตาควรล้างด้วยน้ำสะอาดทันที
7. ปุ๋ยเหลวอาจมีก๊าซเกิดขึ้น และอาจเป็นอันตรายได้ง่าย ควรเปิดด้วยความระมัดระวัง