แบตกล้องคุณภาพ Camera Battery Panasonic LUMIX Lithium-Ion DMW-BLK22 : 7.2v / 2200mAh for LUMIX S5 GH5 G9 GH5S ใช้ได้นาน
ข้อมูลสินค้า
ราคา
459.00 บาท
ขายแล้ว
3 ชิ้น
ร้านค้า
แบตกล้องคุณภาพ Camera Battery Panasonic LUMIX Lithium-Ion DMW-BLK22 : 7.2v / 2200mAh for LUMIX S5 GH5 G9 GH5S ใช้ได้นาน
Battery:
1.Capacity:2200mAh
2.Material:Li-ion
3.Rated Voltage:7.2V
Fits into: For Panasonic LUMIX DC-S5 DC-S5K GH5
วิธีการประหยัดแบตเตอรี่กล้องถ่ายรูปให้ใช้ได้นานที่สุด
ข้อแนะนำการประหยัดแบตเตอรี่ให้ได้มากที่สุด โดยการปิดและปรับตั้งสิ่งที่ไม่จำเป็นในกล้องของเรา ซึ่งมันจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ให้สามารถถ่ายภาพต่อไปได้มากขึ้นในทริปท่องเที่ยว
1.ปิดระบบกันสั่น ระบบป้องกันการสั่นเหล่านี้จะทำการเคลื่อนชิ้นเลนส์หรือเซนเซอร์รับภาพด้วยระบบมอเตอร์ภายในเพื่อชดเชยการสั่นที่เกิดขึ้น แน่นอนว่ามันจะต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ด้วย การปิดมันเมื่อไม่ความจำเป็นก็จะช่วยประหยัดพลังงานของเราได้
2. ปิดจอภาพ LCD จอภาพ LCD ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่สูงมาก โดยเฉพาะจอใหญ่ความละเอียดสูงของกล้อง ถ้าคิดว่าไม่จำเป็น ก็ควรปรับกล้องไม่ให้ทำการ Preview ภาพหลังจากการถ่าย หรือไม่ก็สั่งให้ Preview ภาพในเวลาสั้นๆ แค่ได้ตรวจสอบความผิดพลาดก็พอ
3. ใช้โฟกัสแบบ Manual Auto Focus ไม่เพียงแต่การขับมอเตอร์เพื่อขยับชิ้นเลนส์เท่านั้น แต่มันต้องมีทั้งระบบเซนเซอร์ออโตโฟกัสและ CPU หลักของกล้องที่ต้องทำงานเพื่อคิดคำนวณอะไรหลายอย่าง จึงใช้พลังงานไม่น้อยเลย ลองปรับมาใช้ระบบโฟกัสด้วยมือดูบ้าง ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบออโตโฟกัสกันสักเท่าไหร่ การหมุนโฟกัสด้วยตัวเองยังเป็นการฝึกความใจเย็น และความแม่นยำให้กับตัวเราเองอีกต่างหาก ถ้าแบตเตอรี่ใกล้หมดเต็มทีก็อย่าลืมปรับโฟกัสด้วยมือ แล้วจะถ่ายภาพได้นานขึ้นกว่าเดิม
4. หยุดใช้ Live View ไปก่อนบางคนติดการใช้ Live VIew งอมแงมซะจนถ่ายภาพไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ Live View ช่วยเล็ง ไม่เป็นไรถ้าคุณมีแบตเหลือเฟือ แต่ถ้ามันเหลือน้อยเต็มที เปลี่ยนมาใช้การเล็งด้วยช่องมองภาพจะดีกว่า ประหยัดกว่ากันเยอะ จอภาพคือสิ่งที่ใช้พลังงานสูงมาก ดังที่ได้บอกไปแล้ว ยิ่งถ้ามีการคิดคำนวณอะไรต่ออะไรอีกสารพัด ยิ่งต้องใช้พลังงานสูงเข้าไปใหญ่ สังเกตได้เลยว่ากล้องที่ใช้ระบบ Live View ตลอดเวลานั้นแบตจะหมดเร็วมากซะจนหลายคนคิดว่ากล้องมีปัญหาซะอีก กรณีนี้เราจะเอาไปเทียบกับกล้อง Compact ไม่ได้ เพราะ DSLR เป็นอะไรที่ใหญ่กว่า ส่วนประกอบหลายอย่าง ระบบอิเลคทรอนิกส์จึงใช้พลังงานมากกว่ากล้อง Compact ทั่วไป ใช้ช่องมองภาพปกติดีกว่า ประหยัดด้วย เท่ด้วย
5. ปิด Noise Reduction กล้องแทบทุกตัวมีระบบลด Noise ที่เรียกว่า Noise Reduction (NR) เพื่อขจัดจุดสีรบกวนในภาพ JPEG ทั้งนี้ก็เพื่อให้ภาพลดความจุดสีส่วนเกินลงเมื่อต้องถ่ายภาพด้วย ISO สูงๆ หรือเมื่อเปิดรับแสงนานๆ หลังจากถ่ายภาพแล้ว CPU ของกล้องจะทำการคำนวณเพื่อแก้ไขข้อมูลของจุดสีในไฟล์ภาพเห็นได้ชัดจากการถ่ายภาพอย่างพลุ หรือแสงดาวที่เปิดรับแสงนาน ซึ่งเราจะถ่ายภาพต่อไม่ได้หลังจากที่ถ่ายภาพแรกไปแล้ว ต้องรอจนกว่ากล้องจะทำการแก้ไขข้อมูลเรื่อง NR ให้เสร็จก่อน เปิดรับแสงมานานเท่าไหร่ก็ใช้เวลาในการ NR นานเท่านั้น Noise ที่เกิดขึ้นแทบจะมองไม่เห็นหากเราเอาไฟล์ใหญ่ๆ นั้นมาอัดภาพแค่ 4X5 หรือเมื่อมาย่อเป็นภาพเล็กๆ เพื่อโพสในเว็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายๆ คนนั้นเซียนคอมพิวเตอร์ซะจนใช้ซอฟต์แวร์ขจัด Noise ออกในภายหลังได้เสียเนียนกริป (จนบางทีก็เนียนเกินไป) ภาพที่ได้ออกมาหลังขั้นตอนการ Process นั้นยังกะใช้ ISO 50 หรือ 25 เลย ถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะเปิด NR ในกล้องไปให้มันเปลืองพลังงานกันทำไม
6. เลือกใช้การ์ดหน่วยความจำความเร็วสูง การ์ดชนิดนี้ราคาค่อนข้างแพง แต่มันก็มีความเร็วที่สุดยอด ช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลานานในการ Copy ไฟล์ภาพเหล่านั้นลงคอมพิวเตอร์ แต่ความดีของมันก็ต้องยกให้กับขั้นตอนในการถ่ายภาพด้วย เพราะมันบันทึกข้อมูลได้เร็วก็จะทำให้มันใช้พลังงานสั้นกว่าด้วย ไม่เชื่อลองสังเกตดูไฟสีแดงๆ บนตัวกล้องหลังถ่ายภาพเพื่อบอกให้เรารู้ว่ากำลังบันทึกข้อมูลลงการ์ดอยู่นะ ใจเย็นๆ ก่อนเพ่ (ถ้ากล้องมันพูดได้ก็จะประมาณนี้) ถ้าแบตเตอรี่ของคุณอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง ก็คงพอจะเดาได้ว่าการ์ดใบต่อไปที่คุณจะเลือกขึ้นมาใช้นั้นควรจะเป็นตัวไหนกันแน่
7. ปิดระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง กล้องระดับรุ่นเล็กและกลางปัจจุบันนี้มีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องในระดับที่น่าทึ่ง บางรุ่นนั้นสามารถทำความเร็วได้พอๆ กับกล้องโปรรุ่นใหญ่ค่าตัวหลักแสน ซึ่งก็ช่วยได้มากในการถ่ายภาพกีฬา สัตว์ป่า หรือภาพที่ตัวแบบมีการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วต่อเนื่อง แต่สำหรับการถ่ายภาพท่องเที่ยวทั่วไปนั้นมักจะไม่ค่อยได้เจอตัวแบบลักษณะที่ว่าเท่าไหร่ แต่เราก็มักจะอุ่นใจไว้ก่อนโดยการถ่ายภาพต่อเนื่อง ปัญหาก็คือ เรามักจะถ่ายภาพธรรมดามากกว่าหนึ่งภาพโดยไม่ตั้งใจเพราะยกนิ้วจากปุ่มชัตเตอร์ช้าเกินไปจนกล้องยิงรัวเป็นชุด 2-3 สามภาพติดกัน ในการถ่ายภาพ 1 ภาพนั้นมีกระบวนการต่างๆ มากมายตั้งแต่การเคลื่อนไหวชิ้นส่วน ไปจนถึงการบันทึกข้อมูลลงการ์ดหน่วยความจำ ยิ่งถ่ายภาพหลายภาพก็ยิ่งต้องใช้พลังงานมากขึ้น ดังนั้นถ้าเราต้องการประหยัดพลังงานก็อย่าใช้ระบบถ่ายภาพต่อเนื่องเพราะมันเป็นการใช้พลังงานไปโดยไม่จำเป็น กลับไปใช้ระบบถ่ายภาพทีละภาพ (One shot) จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ไปได้มากเลยทีเดียวนอกจากจะประหยัดพลังงานแล้ว ยังประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูลของการ์ดหน่วยความจำได้อีกต่างหาก
8. ปิดระบบเขย่าฝุ่น เพราะมันก็ใช้พลังงานเหมือนกันในการทำงานส่วนนี้ขณะเปิด-ปิดกล้อง มันจะทำการสักอย่างหนึ่งเพื่อขจัดฝุ่นออกจากเซนเซอร์รับภาพ (บางคนก็บอกว่าไม่เห็นจะช่วยได้ตรงไหน แต่มีไว้ก็ดี ดีกว่าไม่มีอะไรเลย) ปัญหาฝุ่นเกาะหน้าเซนเซอร์มักจะเกิดขึ้นเสมอๆ สำหรับผู้ที่ชอบเปลี่ยนเลนส์บ่อยๆ ระบบขจัดฝุ่นก็สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้เปลี่ยนเลนส์แต่อย่างใด จะเปิดระบบนี้เอาไว้ทำไม ก็ในเมื่อเลนส์ไม่เคยโดนถอดออกจากกล้อง จึงมีโอกาสน้อยเต็มทีที่ฝุ่นละอองจะเล็ดลอดเข้าไปภายใน ก็เลยเป็นเรื่องสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุนั่นเองวิธีปิดมีอยู่ในคู่มื