สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาสำคัญของผู้ที่สอบ ก.พ. ส่วนใหญ่ทั้ง "ผู้ที่สอบผ่าน" และ "ผู้สอบไม่ผ่าน" ก็คือการไม่สามารถ "เก็ง" หรือ "คาดคะเน-คาดเดา" ได้ว่า โจทย์ที่ออกสอบในสนามสอบนั้นมีเนื้อหาบ้าง อีกทั้งเนื้อหาส่วนใหญ่ที่ออกสอบก็มีเป็นจำนวนมาก ในแต่ละปีจึงมีผู้สอบผ่านที่ต้องใช้ความพยายามในการทบทวน และเตรียมตัวสอบอย่างมาก ในขณะที่ผู้ที่สอบไม่ผ่าน เพราะไม่รู้ว่าข้อสอบจะออกอะไร ไม่สามารถเก็งข้อสอบได้

หนังสือ "แนวข้อสอบออกบ่อยที่สุด ก.พ. พิชิตข้อสอบเต็ม 100% ภายใน 3 วัน" เล่มนี้ จึงถูกจัดทำขึ้นมา ด้วยการวิเคราะห์ถึงแนวข้อสอบที่สอบจริงในสนามสอบ แต่ละครั้ง แต่ละปี ว่ามีข้อสอบในลักษณะใด แนวใด ที่ออกบ่อย ด้วยการหาค่าสถิติภายใต้หลักความจริงและความเป็นไปได้ นำมาคำนวนและประมวลออกมาเป็นแนวข้อสอบเล่มนี้ ให้ทุกท่านได้เตรียมตัว เตรียมพร้อม ทดลองทำโจทย์ รวมทั้งสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่คล้าย หรือใกล้เคียงกับข้อสอบจริงที่สุด

สำนักงาน ก.พ. หรือ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารทรัพยากรบุคคลของภาครัฐ มีหน้าที่คัดสรรข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงส่งเสริมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงาน ภายใต้คุณธรรม จริยธรรมที่ดีในการเป็นข้าราชการพลเรือน

การสอบ ก.พ. เป็นการคัดเลือกบุคคลเข้ามารับตำแหน่งในงานราชการหรืองานของภาครัฐ โดยมุ่งเน้นคัดเลือกข้าราชการที่ดี มีจริยธรรมและดำเนินตามข้อกำหนด นโยบายของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการรับสมัครนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ปวช., ปวส., ปริญญาตรี และปริญญาโท ซึ่งในแต่ละระดับจะมีเนื้อหาที่ออกสอบแตกต่างกัน นอกจากนี้ การสอบ ก.พ. ยังถูกแบ่งออกเป็น 3 ภาค ได้แก่

ภาค ก. สอบวัดความรู้ความสามารถทั่วไป การสอบภาค ก. สามารถแบ่งได้เป็นภาคปกติและภาคพิเศษ โดยภาคปกติเป็นการสอบที่หลายคนเฝ้ารอมากที่สุด เพราะถือเป็นด่านแรก ๆ ในการสมัครสอบเข้าสู่ระบบราชการเลยก็ว่าได้ ซึ่งจะจัดสอบพร้อมกันทั่วประเทศทุกปี ส่วนภาคพิเศษจะจัดสอบตามแต่ละหน่วยงานกำหนด ในส่วนของวิชาที่จัดสอบ ก่อนหน้านี้มีวิชาความสามารถในการวิเคราะห์ ภาษาไทย และวิชาภาษาอังกฤษ แต่ในปี พ.ศ.2563 ที่ผ่านมาได้มีการเพิ่มวิชาความรู้และลักษณะข้าราชการที่ดีเข้ามาในการสอบด้วยค่ะ
ภาค ข. สอบวัดความสามารถเฉพาะตำแหน่ง ใครที่ผ่านภาค ก. มาแล้ว จะต้องสอบภาค ข. ต่อ โดยหน่วยงานราชการแต่ละแห่งจะเป็นผู้เปิดรับสมัครและจัดสอบค่ะ ซึ่งผู้เข้าสอบสามารถเลือกสอบตามตำแหน่งที่ต้องการได้ การสอบรอบนี้เป็นการสอบที่วัดความรู้ความสามารถที่เรามีและเข้าใจต่อตำแหน่งที่ต้องการบรรจุ
ภาค ค. สอบสัมภาษณ์ เมื่อผ่านการสอบทั้งภาค ก. และ ภาค ข. แล้ว จะเข้าสู่การสอบสัมภาษณ์ในภาค ค. นอกจากสัมภาษณ์แล้วก็จะมีการทดสอบร่างกายและเชิงจิตวิทยาด้วยค่ะ

อย่างไรก็ตาม เราไม่จำเป็นจะต้องใช้ผลสอบ ก.พ. ครบทั้งสามภาค จะเลือกใช้ภาคไหนขึ้นอยู่กับข้อกำหนดในการรับสมัครของแต่ละหน่วยงานราชการเสียมากกว่า แต่หลัก ๆ แล้วควรสอบภาค ก. ให้ผ่านเพื่อเป็นใบเบิกทางค่ะ