น้ำมันกระเทียม สูตรผสมน้ำมันมะพร้าว ขนาด 500 มก. กระปุก 60 แคปซูล
ข้อมูลสินค้า
ราคา
790.00 495.00 บาท
แบรนด์
Immor(อิมมอร์)
ร้านค้า
น้ำมันกระเทียม สูตรผสมน้ำมันมะพร้าว ขนาด 500 มก. กระปุก 60 แคปซูล
อย.เลขที่ 19-1-15653-5-0075
ฮาลาลเลขที่ กอท.ฮล.10 H978 003 11 62
สูตรเฉพาะของอิมมอร์ ใน 1 แคปซูล (500 มก.) มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นและน้ำมันกระเทียมสกัดเย็นเข้มข้น (เทียบเป็นกระเทียมสดประมาณ 2 กลีบ)
ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ ปี 2563
จากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
ทำไมต้องเอานำน้ำมันกะเทียมมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวด้วย ผสมกันแล้วดีอย่างไร?
- น้ำมันกระเทียมที่สกัดมาได้จะมีความเข้มข้นสูง และอย่างที่ทราบกันดีว่ากระเทียมมีฤทธิ์เผ็ดร้อน การรับประทานทานเพียว ๆ อาจทำให้เกิดระคายเคืองกับกระพาะอาหารได้ จึงมีการวิจัยนำไปผสมกับน้ำมันสกัดเย็นอื่น ๆ เช่นน้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันมะพร้าวเพื่อให้เจือจางลง
- จากงานวิจัยพบว่า เมื่อนำน้ำมันกระเทียมมาผสมกับน้ำมันมะพร้าว มันจะทำปฏิกริยากันและจะเกิดสารอาหารที่สำคัญขึ้นมาใหม่ชื่อว่ากรดอัลฟ่าไลโปอิก (ALPHA LIPOIC ACID) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก ๆ ตัวหนึ่งให้ผลดีกว่าวิตามินซี และ วิตามินอี กว่า 50 เท่า
- น้ำมันกระเทียมและน้ำมันมะพร้าว ต่างก็มีสรรพคุณเด่นมากมาย และจะช่วยเสริมการทำงานกันเพื่อการฟื้นฟูและบำรุงร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
อธิบายเพิ่มเติม ก่อนอื่นต้องขอแยกคุณสมบัติของน้ำมันมะพร้าวและกระเทียมให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน เพื่อที่ทุกท่านจะได้เข้าใจไอเดียว่าการผสมสารสกัดน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันกระเทียมจะส่งผลดีอย่างไร
จุดเด่นและคุณสมบัติของกระเทียม
- กระเทียมมีส่วนช่วยกระตุ้นและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
- กระเทียมมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอล ไขมันในเลือด ควบคุมน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิตและมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคเกี่ยวหัวใจและหลอดเลือด เช่นโรคหัวใจได้อย่างดีเยี่ยม โดยปริมาณที่เราควรรับประทานนั้นอยู่ที่ราวๆ 4 กลีบต่อวัน
- การรับประทานกระเทียมทำให้เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก มีการศึกษาพบว่า ในสตรีวัยหมดประจำเดือน หากได้ทานกระเทียมพบว่ากระดูกจะแข็งแรงมากขึ้นและยังช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเอสโตรเจนได้ดีอีกด้วย
- กระเทียมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อม แถมยังช่วยลดความเครียดและลดการออกซิเดชั่น มีผลการศึกษาจากทั้งในและต่างประเทศพบว่า หากทานกระเทียมเสริม จะสามารถเพิ่มเอนไซม์ต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งลดความเครียดออกซิเดชันในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงอย่างมีนัยสำคัญ แถมยังสามารถลดอัตราการเกิดของโรคสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย
จุดเด่นและคุณสมบัติของน้ำมันมะพร้าว
- น้ำมันมะพร้าวมีฤทธิ์ในการป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค เนื่องจากมีกรดลอริกที่เปลี่ยนไปเป็นสารโมโนลอรินในร่างกาย ช่วยป้องกันโรคติดเชื้อ ทำหน้าที่เป็นสารปฏิชีวนะต่อต้านกับเชื้อโรคและไม่ทำให้เกิดการดื้อยาของเชื้อโรค
- มีหลายๆบทความและงานวิจัยทั้งจากในและต่างประเทศได้ยืนยันว่าน้ำมันมะพร้าวนั้นมีไขมันอิ่มตัวสูง และถึงจะเป็นน้ำมัน แต่ก็มีผลแตกต่างจากไขมันทั่วไปในอาหารที่เรารับประทานกัน ไขมันเหล่านี้สามารถเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ทำให้ร่างกายและสมองของคุณมีพลังงานอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวยังเพิ่มคอเลสเตอรอล HDL ที่เป็นคลอเรสเตอรอลดีในเลือด ทำให้ความเสี่ยงในโรคหัวใจลดลง
- ในแง่ของการชะลอวัย น้ำมันมะพร้าวมีส่วนช่วยในการป้องกันเส้นผมและผิวหนังจากแสงแดดได้ถึง 20% จะเห็นได้ว่ามีเครื่องสำอางประทินผิวหลายๆยี่ห้อมักจะใช้น้ำมันมะพร้าวมาเป็นส่วนผสมหลัก นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวยังสามารถบำรุงผิวและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้คุณกลับมามีสุขภาพผิวสมบูรณ์และแข็งแรงได้อีกครั้ง
- ช่วยลดไขมันหน้าท้อง รู้หรือไม่ว่าน้ำมันมะพร้าวช่วยลดความอยากในการรับประทานอาหาร แถมยังเพิ่มการเผาผลาญให้แก่ร่างกาย โดยมีการวิจัยโดยทำการวิจัยในกลุ่มผู้หญิงและชาย ผลการทดลองพบว่า หลังจาก 4 สัปดาห์ผู้เข้าร่วมการทดลองมีรอบพุงลดลงถึง 1.1 นิ้ว
แต่พิเศษกว่านั้น... หากเรานำน้ำมันกระเทียมและน้ำมันมะพร้าวมาผสมกัน มันจะเกิดปฏิกิริยาระหว่าง กรดคาปริลิก (CAPRILIC ACID) ในน้ำมันมะพร้าว กับ กำมะถันหรือซัลเฟอร์ (SULFUR) ในน้ำมันกระเทียม จะเกิดสารอาหารขึ้นมาใหม่ที่มีความสำคัญมาก ๆ ชื่อว่า "กรดอัลฟ่าไลโปอิก (ALPHA LIPOIC ACID)"
กรดอัลฟ่าไลโปอิก (ALPHA LIPOIC) ได้ชื่อว่าเป็น SUPER ANTIOXIDANT หรือ UNIVERSAL ANTIOXIDANT คือสารต่อต้านอนุมูลอิสระครอบจักรวาล ให้ผลดีกว่าวิตามิน C และ E ถึงกว่า 50 เท่า
ประโยชน์ของน้ำมันกระเทียมผสมน้ำมันมะพร้าว
- กระตุ้นและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
- ช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนดี ลดความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคหัวใจ
- ลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอร์ไรด์ ลดไขมันในเลือด
- บำรุงตับ ลดความเสี่ยงโรคตับแข็ง ไวรัสตับอักเสบ A, B, C และลดความเป็นพิษต่อตับจากสารเคมีและอื่น ๆ
- เพิ่มการทำงานของวิตามิน C และ E กลูตาไธโอนและ Q10 และสามารถหมุนเวียนกลับมาใช้ได้อีก
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ลดความเสี่ยงโรคต้อกระจก และโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา
- ควบคุมไขมันส่วนเกิน
- ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ โรคสมองเสื่อม
- ลดความเสี่ยงโรคเส้นโลหิตในสมองแตก
- ยับยั้งรหัสพันธุกรรมที่เร่งขบวนการชราภาพและลดความเสี่ยงการเกิดโรคร้าย
- ดีท๊อกซ์และกำจัดสารพิษในร่างกายได้ดี
ขนาดและวิธีรับประทาน
- กรณีทานเพื่อบำรุงร่างกายหรือมีอาการไม่มาก แนะนำวันละ 2 แคปซูล หลังอาหารเช้า 1 แคปซูล และหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน 1 แคปซูล
- กรณีทานเพื่อบำรุงร่างกายช่วยลดอาการต่าง ๆ แนะนำวันละ 4 แคปซูล หลังอาหารเช้า 2 แคปซูล และหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน 2 แคปซูล
** ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคคล