Biological Control ชีวภัณฑ์ สารป้องกันและควบคุมศัตรูพืช
เป็นสารชีวภัณฑ์ที่ใช้แทนสารเคมี ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในปัจจัยการผลิตพืชอินทรีย์ที่สำคัญสำหรับป้องกันและควบคุมศัตรูพืช สารชีวภัณฑ์แบ่งเป็นกลุ่มหลักๆได้ 2 กลุ่ม เพื่อให้ตรงกับการใช้งาน

- กลุ่มแรก เป็นกลุ่มป้องกันและควบคุม เชื้อรา แบคทีเรีย ชนิดต่าง
ไตรซาน เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า แอสเพอร์เรียลลัม Trichoderma Asperellum (ผงเปียกน้ำ WP) ความเข้มข้น 2×10^8 cfu/gm ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร เลขที่ 261-2557 ไตรซาน ให้ผลดีในการป้องกันและควบคุมโรครากเน่าในพริก ที่เกิดจากเชื้อสเคลอโรเตียม รอฟซิไอ โดยสามารถใช้ผสมน้ำราดหลุมปลูก หรือคลุกเมล็ดก็ได้ ในปริมาณ 5 กรัมต่อหนึ่งหลุมปลูก นอกจากนี้ยังสามารถใช้ควบคุมโรคพืช ซึ่งมีสาเหตุจากเชื้อราหลายชนิด ได้แก่ พิเทียม,ฟิวซาเรียม,ไฟทอฟเทอร่า,ไรซอกโทเนีย ซึ่งเข้าทำลายพืชหลายชนิด เช่น พืชตระกูลแตง พืชตระกูลกะหล่ำ พืชลงหัวพืชจำพวกมะเขือต่างๆ รวมถึงมะเขือเทศและไม้ผลหลายชนิด เช่น ส้ม และทุเรียน ตลอดจนไม้ดอก ไม้ประดับ ฯลฯ

ลาร์มิน่า เชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทีลิส AP-01 (Bacillus subtilis) (ผงเปียกน้ำ WP) ความเข้มข้น 1×10^9 cfu/g WP
ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรเลขที่ 483-2558 ลาร์มิน่า ป้องกันและควบคุมโรคต่าง ๆ ในพืช เช่น รากเน่า-โคนเน่า ในทุเรียนที่เกิดจากเชื้อไฟทอฟเทอร่า พัลมิวอร่า โดยใช้ผสมน้ำฉีดพ่น หรือทาแผลก็ได้ สามารถพ่นได้ทั้งในช่วงดอกบาน เพื่อป้องกันเชื้อราเข้าดอก ไม่ทำให้ดอกไหม้หรือร่วง และไม่มีผลต่อแมลงผสมเกสร นอกจากนี้ยังสามารถใช้ควบคุมโรคพืชได้อีกหลายชนิด เช่น โรคกุ้งแห้ง (แอนแทรคโนส) ในพริก โรคกาบใบแห้งในข้าว โรคหน้าดอกเน่าในกะหล่ำดอก โรคลำต้นไหม้ในหน่อไม้ฝรั่ง โรคดอกเน่า ใบจุด ในลำไยและโรคของไม้ดอก ไม้ประดับบางชนิด

วิธีการใช้งานกลุ่มป้องกันและกำจัดโรคพืช
-ใช้อัตรา 3 กรัม(1 ช้อน)ละลายในน้ำ 1 ลิตร ราดลงบนดินที่เตรียมสำหรับปลูกต้นไม้ ก่อนย้ายต้นกล้า/ต้นไม้ลงปลูกอย่างน้อย 2 วัน
-ใช้ฉีดพ่นทางใบเพื่อป้องกันและกำจัดโรคทางใบ โดยใช้อัตรา 3 กรัม(1 ช้อน)ละลายในน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นบนใบและใต้ใบให้ทั่วทุกๆ7-10 วัน

- กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มป้องกันและควบคุม หนอน และ แมลง ชนิดต่าง
บูเวริน เชื้อรา บูเวเรีย บัสเซียน่า Beauveria bassiana (ผงเปียกน้ำ WP) ความเข้มข้น 1 × 10^9 cfu/gm
ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร เลขที่ 1297-2557 เป็นเชื้อราที่มีประโยชน์ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชจำพวกปากดูด
บูเวริน ให้ผลดีในการป้องกันกำจัดแมลงปากดูดหลายชนิด เช่น แมลงหวี่ขาว เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ แมลงหวี่ดำในเห็ด และมีผลในการควบคุมประชากรของไรแดง ฯลฯ

เมทาซาน เชื้อราเมตาไรเซียม แอนิโซเพลีย Metarhizium anisopliae (ผงเปียกน้ำ WP) ความเข้มข้น 1x10^9 cfu/gm
ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร เลขที่ 263-2557 เป็นเชื้อราที่มีประโยชน์ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชจำพวกปากกัดและปากดูด เมทาซาน ให้ผลดีในการป้องกันกำจัดแมลงปากดูดหลายชนิด เช่น ไรแดงแอฟริกัน เพลี้ยจักจั่นสีเขียว เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ หนอนด้วง และหนอนของผีเสื้อศัตรูพืชหลายชนิด ตลอดจนแมลงปากกัดบางจำพวก เช่น ด้วงกออ้อย ด้วงหมัดผัก (ตัวกระเจ๊า) ตั๊กแตน ปลวก และมดบางชนิดที่กินพืชเป็นอาหาร

ไลท์นิ่งค์ แบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงเยนซิส Bacillus thuringiensis var.kurstaki สายพันธุ์เคอร์สตากี้ ที่ถูกผลิตให้อยู่ในรูปผงเปียกน้ำ เข้มข้น 36,000 IU/mg ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร เลขที่ 112-2559 ไลท์นิ่งค์ ให้ผลดีในการป้องกันกำจัดหนอนของแมลงศัตรูพืชหลายชนิด เช่น หนอนใยผัก หนอนกระทู้หอม (หนอนหนังเหนียว) หนอนกระทู้ผัก หนอนคืบ หนอนกินใบ หนอนเจาะขั้ว หนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด ฯลฯ

ไลซินัส เชื้อรา พาซิโลมัยซิส ไลลาซินัส (Paecilomyces lilacinus) (ผงเปียกน้ำ WP) ความเข้มข้น 1x109 cfu/gm
ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร เลขที่ 877-2563 เป็นเชื้อราที่มีประโยชน์ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชหลายชนิด ซึ่งสามารถละลายในน้ำได้ และไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตัดต่อทางพันธุกรรม
ไลซินัส ให้ผลดีในการป้องกันกำจัดไส้เดือนฝอยรากปม ทั้งในระยะไข่และตัวเต็มวัย นอกจากนี้ยังมีผลในการป้องกันกำจัดเพลี้ยหอยรากำมะหยี่ เพลี้ยหอยนาสาร เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้งสีชมพูในมันสำปะหลัง ไข่หอยเชอรี่ หอยเจดีย์ หอยเลขหนึ่ง หอยทากซัคซิเนีย และไข่ของหนอนผีเสื้อหลายชนิด เช่น ไข่ของหนอนใยผัก ไข่ของหนอนกระทู้หอม ไข่ของหนอนเจาะสมอฝ้าย ฯลฯ

วิธีการใช้งาน กลุ่มกำจัดหนอน,แมลง และใส้เดือนฝอย
-ใช้ฉีดพ่นทางใบเพื่อป้องกันและกำจัดหนอนและแมลงทางใบ โดยใช้อัตรา 5 กรัม (1 ช้อนพูน) ละลายในน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นบนใบและใต้ใบให้ทั่ว ทุก ๆ 7-10 วัน
- สำหรับ ไลซินัส เพื่อกำจัดใส้เดือนฝอย ให้ราดลงบนพื้นดิน โดยใช้อัตรา 5-10 กรัม (1-2 ช้อนพูน) ละลายน้ำ 1 ลิตร

ข้อควรระวังและการเก็บรักษา
-ห้ามผสมชีวภัณฑ์ร่วมกันกับยากำจัดโรคพืช และยาปฎิชีวนะ
-ห้ามผสมชีวภัณฑ์ ระหว่างกลุ่มชีวภัณฑ์ควบคุมโรค และกลุ่มชีวภัณฑ์ควบคุมแมลงและหนอน ควรทิ้งช่วงห่างประมาณ 3 วัน
-จัดเก็บในที่ร่มละเย็น หลีกเลี่ยงจากแสงแดด และความชื้น
-ควรฉีดพ่นชีวภัณฑ์ในช่วงเย็น เพื่อประสิทธิภาพที่ดี
-ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสชีวภัณฑ์โดยตรง อาจทำให้เกิดอาการคันระคายเคืองที่ผิวหนังได้
-ในผู้ที่มีอาการแพ้ฝุ่น ควรสวมหน้ากากขณะทำการตวงสารและผสมชีวภัณฑ์

การทดสอบและใบรับรอง
-ใช้สำหรับป้องกันและกำจัดโรคพืชได้หลายชนิด โดยไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตราย
-ผ่านการทดสอบทางพิษวิทยา (LD50) ว่าไม่เป็นพิษต่อคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
-ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องจากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
-ได้รับการรับรองให้ใช้เป็นปัจจัยการผลิตพืชออร์แกนิคจาก IFOAM และ ORGANIC THAILAND
-กระบวนการผลิตได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015
-ทุกขั้นตอนการผลิต สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้

น้ำหนักสุทธิ 50 กรัม