แว่นกรองแสง แว่นกรองแสงสีฟ้า ราคาถูกมาก ทรงหยดน้ำ สีขาว เข้าชุดง่าย แถมฟรี ซองใส่แว่น+ผ้าเช็ดเลนส์ (มีเก็บเงินปลายทาง)
ข้อมูลสินค้า
ราคา
129.00 บาท
ขายแล้ว
1 ชิ้น
ร้านค้า
10 อาการ บ่งบอกว่าควรพกแว่นกรองแสงติดตัว
1.แสบตา >> ถ้าเริ่มรู้สึกหรือมีอาการแสบตาหรือเคืองตาโดยไม่ทราบสาเหตุ แล้วเป็นคนที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ นั่นอาจเป็นสัญญาณไม่ค่อยดีนัก
2 .คันตา >> อาการคันตาก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่า ควรพกแว่นกรองแสงติดตัวเอาไว้แล้ว เพราะเกิดจากปัญหาตาแห้งเช่นกัน จึงทำให้รู้สึกคันตา จากการกระพริบตาน้อยลงและเกี่ยวข้องกับแสงสีฟ้าจากคอมพิวเตอร์ด้วย
3.ตาแดง >> อาการตาแดงเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน โดยทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีมักเกิดจากไวรัส ที่ทำให้เป็นโรคตาแดง แต่บางครั้งการใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน
4. ตาพร่ามัว >>อาการตาพร่ามัว มองเห็นจุดดำตรงกลางสายตา ภาพตรงกลางไม่ชัด นั่นเป็นสัญญาณร้ายที่กำลังบอกว่าจอประสาทตาอาจจะเสื่อม ซึ่งมาจากแสงสีฟ้าเป็นสาเหตุสำคัญ
5. มองเห็นภาพซ้อน >>การมองเห็นภาพซ้อนเป็นปัญหาหนึ่งที่เกิดจากการเสื่อมของจอประสาทตา และการเสื่อมนั้นมีแสงสีฟ้าเป็นสาเหตุสำคัญด้วย ในคนที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมฯ นานๆ ติดต่อกันโดยเฉลี่ย 3.5 ชั่วโมงต่อวันขึ้นไป
6. เมื่อยตา >> เวลาที่ใช้สายตามากๆ อาจทำให้เกิดการเมื่อยของดวงตาได้ โดยการจ้องคอมพิวเตอร์นานๆ ก็มีส่วนในอาการดังกล่าว และแสงจากคอมพิวเตอร์ก็ทำให้ต้องเพ่งหน้าจอมาก จนกล้ามเนื้อดวงตามีอาการเกร็งทำให้เมื่อยตา ตาล้า
7.ตากระตุก >> ตากระตุกมักเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อตามากเกินไป โดยการจ้องหรือเพ่งเป็นเวลานานติดต่อกัน โดยเฉพาะการใช้งานคอมพิวเตอร์ทุกวัน วันละหลายชั่วโมงติดต่อกันก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตา
8.ปวดกระบอกตา >> เป็นอีกอาการที่ส่งผลเสียอย่างมาก กับการปวดกระบอกตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนมากจนเกินไป ใช้งานในเวลาที่ติดต่อกันนานๆ เป็นประจำทุกวัน ทำให้ต้องเพ่งนานและดวงตายังสัมผัสกับแสงสีฟ้ามากๆ ส่งผลให้เกิดอาการปวดตาได้ บางรายถึงกับปวดตาเรื้อรังลามไปถึงปวดศีรษะ เป็นอีกหนึ่งสัญญาณร้ายที่บ่งบอกสุขภาพดวงตา
9.สู้แสงไม่ค่อยไหว >> อาการสู้แสงไม่ค่อยไหว มีลักษณะที่การมองเห็นผิดปกติไปเมื่ออยู่ในภาวะแสงสว่าง คือถ้าหากอยู่ในที่สลัวจะสามารถมองทุกอย่างได้เป็นปกติ แต่เมื่ออยู่ในที่สว่างจะรู้สึกไม่สบายตา เคืองตา มีน้ำตาไหลออกมา นั่นเป็นอาการของคนที่สู้แสงไม่ได้ ซึ่งการจ้องคอมฯ นานๆ ในชีวิตประจำวันก็มีส่วนที่ส่งผลกระทบนี้ โดยแว่นกรองแสงจะช่วยปกป้องปัญหานี้ได้เช่นกัน
10 . สายตาเอียงหรือสั้นมากๆ อีกหนึ่งสัญญาณสำคัญที่พบเกี่ยวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ก็คือปัญหาสายตาทั้งสั้นและเอียงมาก ในคนที่มีปัญหาสายตาเหล่านี้อยู่แล้ว จะพบว่าหลังการใช้คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนปริมาณมากติดต่อกันเป็นเวลานาน จะพบว่าค่าสายตาสั้นและเอียงเพิ่มขึ้นมาก สาเหตุหนึ่งเพราะสายตาได้รับผลกระทบจากแสงสีฟ้า จึงควรพกแว่นกรองแสงติดตัวไว้
แสงสีฟ้า คือแสงที่มีคลื่นแสงพลังงานสูง จนสามารถทะลุดวงตาเราจนถึงจอประสาทตา จึงสามารถก่อให้เกิดอันตราย พบได้ตามหน้าจอคอมพิวเตอร์และมือถือสมาร์ทโฟนจึงเป็นแสงที่เราควรหาทางป้องกันหากเราเป็นคนที่มีการใช้หน้าจอดิจิตอลเป็นระยะเวลานาน
แว่นกรองแสง คืออุปกรณ์ที่ช่วยกรองแสงสีฟ้าหรือแสงสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นแสงที่ถูกปล่อยออกมาจากอุปกรณ์ดิจิตอลไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตา ช่วยลดอาการปวดตาจากการจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ และลดปัญหาตาพร่ามัวได้เป็นอย่างดี อุปกรณ์นี้จะช่วยถนอมดวงตาโดยมีเลนส์กรองแสงเป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้การเลือกแว่นกันแสงคอมฯ ควรพิจารณาที่เลนส์เป็นหลัก
แว่นที่ทางร้านเลือกมามักจะมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
• กรอบแว่น เรียบหรู มีสไตล์
• บานพับขาแว่นแบบสปริง ไม่บีบขมับ
• น้ำหนักเบาพัยง 20 กรัม ไม่กดจมูก
• ดีไซน์สวย สามารถใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
• เลนส์ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี
• ช่วยลดอาการกล้ามเนื้อตาล้า ถนอมสายตา
• ลดอาการปวดตาจากการใช้มือถือนานๆได้
ขนาดแว่นตา (Glasses Measurements)
- หน้ากว้างของแว่น (Glasses width)= 135mm
- ความกว้างของเลนส์ (Lens Width) = 50mm
- ระยะระหว่างเลนส์ (Bridge Size) = 20 mm
- ความยาวขาแว่น (Temple Length) = 150mm
- ความสูงของเลนส์ (Lens Height) = 50mm
แว่นรุ่นนี้ เหมาะกับ
> ทุกเพศ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย
> ทุกวัย วัยเด็ก วัยเรียน วันทำงาน วัยเกษียณ
หากใส่แว่นแล้วมึนหัว ควรทำอย่างไร?
หากเพิ่งใส่แว่นเป็นครั้งแรก หรือเพิ่งตัดแว่นมาใหม่ ให้ลองใส่และทำกิจกรรมปกติ ประมาณ 1 - 2 วัน (กรณีใส่แว่นครั้งแรกอาจะใช้เวลาปรับความคุ้นชินนานได้ถึง 2 สัปดาห์) หากปัญหาเกิดจากความไม่เคยชินกับการสวมแว่นใหม่ อาการมึนหัวจะค่อยๆ หายไปเองเมื่อเราเริ่มปรับการมองเห็นให้เข้ากับเลนส์ได้แล้ว
แต่หากเวลาผ่านไป 1 - 2 วัน หรือ 2 สัปดาห์แล้ว ยังมีอาการมึนหัวอยู่ สำหรับผู้ที่เริ่มใส่แว่นใหม่ หรืออาการรุนแรงถึงขั้นปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน เดินแล้วพื้นเอียงตลอดเวลา ขอแนะนำให้ไปตรวจวัดค่าสายตาและตัดแว่นใหม่ โดยให้จักษุแพทย์และนักทัศนมาตรเป็นผู้ตรวจวัดให้ เพื่อให้ได้แว่นที่เหมาะสมกับสายตาเราจริงๆ
อย่าลืมว่า เรื่องเกี่ยวกับดวงตาและการมองเห็นเป็นสิ่งสำคัญ หากการมองเห็นไม่ชัดเจนก็จะเป็นอุปสรรคในชีวิตประจำวัน และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น หากรู้สึกว่าแว่นที่สวมใส่ไม่โอเค หนุ่มแว่นสาวแว่นต้องรีบหาทางแก้ไข ไม่ควรขับรถหรือทำกิจกรรมที่เสี่ยงอันตราย และระมัดระวังในการเดินและขึ้นบันได