ขาย ต้นแก้วเจ้าจอม 10 ใบ ส่งพร้อมกระถาง11 นิ้ว
ขาย-ต้นแก้วเจ้าจอม-10-ใบ-ส่งพร้อมกระถาง11-นิ้ว
ข้อมูลสินค้า
ราคา
289.00 บาท
ขายแล้ว
33 ชิ้น
ร้านค้า
แก้วเจ้าจอม พรรณไม้ทรงพุ่มดอกหอมมีเสน่ห์มากด้วยคุณประโยชน์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Lignum Vitage
ชื่อวิทยาศาสตร์
Guaiacum offinale Linn

แก้วเจ้าจอมเป็นต้นไม้ขนาดเล็กถึงกลาง เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นคดงอ กิ่งก้านเป็นปุ่มเป็นปม ลักษณะทรงพุ่ม มีเนื้อไม้สวยสีน้ำตาลอมเขียวถึงดำ แก่นไม้มีความแข็งแรงสูง เนื้อประสานกันแน่น




แก้วเจ้าจอม หรือที่ชาววังเรียกกันว่า น้ำอบฝรั่ง ชื่อสามัญ: Lignum Vitage ชื่อวิทยาศาสตร์: Guaiacum offinale Linn วงศ์: Zygophyllaceae เป็นต้นไม้ทรงเสน่ห์ที่มีดีมากกว่าดอกหอมชื่นใจ แต่พันธุ์ไม้ชนิดนี้ยังมีต้นแตกใบพุ่มแผ่กว้าง ออกดอกเป็นสีอมม่วงหรือฟ้าครามชวนน่ามอง เรียกได้ว่าเป็นพันธุ์ไม้ประดับที่มีมนต์เสน่ห์ชวนน่าหลงใหลตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญยังมีความหมายมงคล หมายถึง “ไม้แห่งชีวิต (Wood of life)” เพราะมีสรรพคุณทางสมุนไพรช่วยรักษาโรคได้หลายโรคนั่นเอง

แก้วเจ้าจอมความหมาย เป็นพันธุ์ไม้ต่างถิ่น ซึ่งแต่เดิมมีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลาง, อเมริกาใต้, และในรัฐฟลอริดาของอเมริกา และยังเป็นดอกไม้ประจำชาติ ของประเทศจาไมก้า ซึ่งถูกนำเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 สเด็จประพาสชวา (อินโดนีเซีย) แล้วพบกับต้นไม้ที่สวยงามชนิดนี้ จึงได้มีพระราชกระแสรับสั่งให้สร้าง “สวนป่า” และต่อมาได้พระราชทานนามว่า “สวนสุนันทา” อยู่ในเขตพระราชวังสวนสุนันทา ปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ถูกปลูกอยู่บริเวณเนินพระนาง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งพระปิยมเหสี สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี บริเวณหลังพระบรมรูปของพระนาง และยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาอีกด้วย

แก้วเจ้าจอมความหมาย
ลักษณะของแก้วเจ้าจอม
แก้วเจ้าจอมเป็นต้นไม้ขนาดเล็กถึงกลาง สูง 10-15 เมตร เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นคดงอ กิ่งก้านเป็นปุ่มเป็นปม ลักษณะทรงพุ่ม ไม่จำเป็นต้องตัดกิ่งใดๆ ก็มักจะเป็นต้นทรงพุ่มกลมอยู่เสมอ และยังเป็น “ไม้ที่มีน้ำหนักมากที่สุดในโลก” มีเนื้อไม้ที่สวย มีลักษณะสีน้ำตาลอมเขียวถึงดำ และมีแก่นไม้ที่มีความแข็งแรงสูง เนื้อประสานกันแน่น ทำให้ไม้ชนิดนี้สามารถจมน้ำได้ ทนต่อแรงอัด และน้ำเค็ม จึงนิยมนำมาใช้ทำกรอบประกบเพลาเรือเดินทะเล หรือเพลาเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ หรือนำมาทำเป็นของใช้ เช่น สิ่ว ลูกโบว์ลิ่ง รอก หรือแม้กระทั่งทำเป็น ขลุ่ย ซึ่งให้เสียงที่หวานใส ไพเราะมากๆ ที่เรียกว่า “ขลุ่ยไม้แก้วเจ้าจอม (Verawood)”

ดอกของแก้วเจ้าจอมออกเป็นช่วงๆตลอดปี แต่ในช่วงฤดูหนาว พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ จะออกดอกมากกว่าปกติ ซึ่งดอกจะมีสีอมม่วงหรือฟ้าคราม จำนวน 5-6 กลีบ มีเกสรสีเหลือง ขนาดของดอกขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ส่วนช่อนั้นจะเจริญงอกงามตามลำต้น มี 30-50 ดอกต่อช่อ และค่อยๆบานเรียงกันไป ซึ่งดอกที่บานมานานกว่าจะมีสีที่ซีดจางกว่า แต่ก็กลมกลืน จากนั้นจะออกเป็นผลรูปหัวใจแบนๆ มีสีเหลืองสดใส เป็นจุดที่มีเสน่ห์ที่สุดของต้นแก้วเจ้าจอมนี้ก็ว่าได้

สายพันธุ์ของแก้วเจ้าจอม
สายพันธุ์ของพันธุ์ไม้ชนิดนี้ ถูกแบ่งตามลักษณะใบ ซึ่งเป็นแบบใบประกอบขนนก มีใบย่อยเรียงกันเป็นคู่ 2-4 คู่ หรือที่นิยมเรียกกันว่า 4 ใบ, 6 ใบ, 8 ใบ

แก้วเจ้าจอม 4 ใบ มีลักษณะเป็นใบย่อย 2 คู่ ปลายใบมน ขอบเรียบ ใบย่อยคู่มีขนาดปลายใหญ่ที่สุด ใบย่อยคู่ถัดมาจะมีขนาดเล็กไล่ลงไปเรื่อยๆ เนื้อใบเหนียว และหนา มีผิวใบเป็นสีมันเขียวเข้ม

แก้วเจ้าจอม4ใบ
แก้วเจ้าจอม 6 ใบ มีลักษณะเป็นใบย่อย 3 คู่ ลักษณะไม่ต่างกันกับสายพันธุ์ 4 ใบ แต่จะมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วกว่า สามารถออกดอกได้ภายใน 1 ปี จึงทำให้เป็นสายพันธุ์ที่คนนิยมปลูกกันมากที่สุด

แก้วเจ้าจอม6ใบ
แก้วเจ้าจอม 8 ใบ มีลักษณะเป็นใบย่อย 4 คู่ ลักษณะใบไม่ต่างกันกับสายพันธุ์ 4 ใบและ 6 ใบ แต่จะต่างกันที่ขนาดดอก ที่จะมีความเล็กกว่ามาก มีการเจริญเติบโตที่ช้า และใช้เวลามากกว่า 5 ปี ในการออกดอก จึงเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม และหายากนั่นเอง

แก้วเจ้าจอม10ใบ
วิธีการปลูกแก้วเจ้าจอม
แก้วเจ้าจอมนิยมปลูกในบริเวณที่มีพื้นที่กว้าง หรือมีสนามหญ้า เพราะเมื่อออกเป็นพุ่มต้นใหญ่แล้วจะแผ่กิ่งก้าน ให้ร่มเงาได้ดี และต้นไม้ชนิดนี้ยังชอบแสงแดดถ้าได้แสงที่เพียงพอก็จะทำให้ทรงพุ่มสวย และจะช่วยให้ออกดอกดกได้มากยิ่งขึ้น

การปลูกนิยมเพาะเมล็ดเพียงอย่างเดียว เพราะจะมีลำต้น และรากแก้ว ยึดเกาะและดูดซับได้ดีกว่าการขยายพันธุ์ในลักษณะอื่นๆ เช่น ตอนกิ่ง ต่อกิ่ง ชำ ก็จะติดได้ยากมากๆ ซึ่งอาจจะใช้เวลาถึง 5 ปีเลยทีเดียว

การปลูกแก้วเจ้าจอมในกระถาง ยังทำให้เติบโตช้า และไม่ค่อยออกดอก ถ้าเลือกปลูกในกระถางควรเลือกปลูกจากต้นที่ได้รับการตอนกิ่ง ซึ่งจะออกดอกน้อยกว่าการปลูกลงบนดิน จึงเป็นวิธีที่ไม่แนะนำสำหรับปลูกพันธุ์ไม้ชนิดนี้

พันธุ์ไม้ชนิดนี้ ชอบดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอากาศที่ถ่ายเท และชอบพื้นดินที่ชุ่มฉ่ำ เต็มไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งสถาบันวิจัยและพัฒนา กำแพงแสน มีสูตรดินปลูกแก้วเจ้าจอม คือ ใช้ดินร่วน, เปลือกมะพร้าวสับ, ใบไม้แห้ง, ขี้วัว อย่างละ 1 ส่วน ผสมเข้าด้วยกัน รดน้ำให้พอมีความชื้นหมาดๆ แล้วหมักไว้ 1-2 เดือน และนำมาใช้ เพียงเท่านี้ก็จะมีต้นแก้วเจ้าจอมที่เจริญงอกงามดีแล้ว ข้อควรระวัง คือ อย่าให้ขาดน้ำ เพราะจะทำให้ต้นโทรม ใบเหลือง ร่วงได้ง่าย.เปรียบเทียบแก้วเจ้าจอมแบบต่างๆ
🍃4 ใบ ดอกกระจายเต็มต้น ลำต้นแขธงแรง โตช้า มีดอกตั้งแต่เล็กๆ มีดอกบ่อย ปลูกในกระถางก็มีดอก
🍃6 ใบ ดอกเป็นก้อนใหญ่ 1 ช่อสีจะม่วงเข้มและอ่อน ต้นโตเร็ว ใบเขียวอ่อนจะมีดอกเมื่อ อายุ 3 ปีขึ้นไปต้องลงดินถึงมีดอก
🍃4 ใบ 6 ใบ แบบลูกผสม ต้นโตเร็วใบใหญ่ มีดอกเรื่อยๆ ยิ่งโตช่อยิ่งใหญ่ดอกน้อยกว่า 6 ใบ ดอกคล้าย 4 ใบโตเร็วเหมือน 6 ใบ
🍃8 ใบ ต้นเป็นร่องโตช้าดอกเข้มช่อดอกเล็ก
แก้วเจ้าจอมเป็นไม่ไม่ผลัดใบ ชอบแบบไหนทักไลน์คุณลุงเชิญเพื่อขอดูรูปที่ต้องการได้เรื่องจากที่สวนมีมากเป็น พันๆ ต้นถ่ายทุกต้นไม่ไหว
🌸ฤดูดอกของแก้วเจ้าจอมจริงๆดอกจะมากช่วงเดือน ธันวาคม- มีนาคม
คำที่เกี่ยวข้อง
ต้นแก้วเจ้าจอม10ใบแก้วเจ้าจอม10ใบต้น แก้ว เจ้าจอม 6 ใบต้นแก้วเจ้าจอม4ใบต้นแก้วเจ้าจอม 6 ใบต้นแก้วเจ้าจอมต้นแก้วเจ้าจอมต้นใหญ่ต้นแก้วแคระพร้อมกระถางต้นแก้วเจ้าจอมราคาสวนต้นแก้วเจ้าจอมเพาะเมล็ด

สินค้าใกล้เคียง