เหรียญเจ้าสัว รุ่น พวง รวยพันล้าน
หลวงปู่พวง ธัมมสาโร วัดเทพนรสิงห์ (โคกตาสิงห์) จังหวัดบุรีรัมย์ ปี 2562
เนื้อชนวนคราบเบ้า (แยกชุดของขวัญ)
จัดสร้าง 300 เหรียญ
มีโค๊ตและเลขกำกับ
ขนาดประมาณ กว้าง 2.5 ซม x ยาว 3.5 ซม
พร้อมกล่อง รับประกันพระแท้

ประวัติหลวงปู่พวง ธัมมสาโร

หลวงปู่พวง ท่านเป็นพระเถระอาวุโสที่ได้รับการยกย่องว่า ปฏิบัติในพระธรรมวินัยและปฏิบัติเจริญกรรมฐานภาวนาอย่างเคร่งครัด ไม่เคยขาด และท่านยังมีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาคาถาอาคมต่างๆและยาสมุนไพรบำบัดรักษาโรคด้วย
ตามประวัติ ท่านมีนามเดิม นายพวง เกริงรัมย์ เกิดในสกุลเกริงรัมย์ เมื่อวันที่10พ.ค2474 เกิดที่บ้านไหม่ ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ บิดาชื่อ มั้น เกริงรัมย์ มารดาชื่อขาว เกริงรัมย์

ท่านเป็นลูกโทนไม่มีพี่น้อง ครอบครัวประกอบอาชีพทำนาและรับจ้างทั่วไปและ ท่านเก่งและรอบรู้ พูดได้หลายภาษาเขมร-ลาว-ไทยโคราชและส่วย

ตอนท่านอายุ 10 ขวบ มารดาเสียชีวิต ท่านก็อยู่กับบิดา
ตอนเริ่มย่างเข้าสู่วัยรุ่น มีอุปนิสัยค่อนข้างนักเลง ไม่เกรงกลัวใครเลย บิดาเกิดความเป็นห่วงบุตรชาย จึงนำไปฝากเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่พรหมสาลี วัดบ้านสนวนใน ต.สนวน อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้บวชเป็นสามเณร และได้ศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบได้นักธรรมชั้นโท
ท่านยังได้เรียนตำรับตำราวิชาคาถาอาคมต่างๆกับหลวงพรหมสาลี ด้วยท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งเคยเป็นอาจารย์หลวงปู่เฮง วัดบ้านด่านช่องจอม ด้วย

หลวงปู่พวงได้เรียนวิชาอยู่กับหลวงปู่พรหมสาลี 3 ปี ท่านก็ลาหลวงปู่พรหมสาลี เพื่อมาจำพรรษากับหลวงปู่ด่อน วัดบ้านหนองปรือ อีก 2 ปี เพื่อรับใช้หลวงปู่ด่อนและมาขอเรียนวิชาเขียนอักขระยันต่างๆจากหลวงปู่ด่อน ในสมัยนั้นหลวงปู่ด่อนเก่งมากๆท่านได้ถ่ายทอดวิชาเขียนอักขระต่างให้สามเณรพวง จนหมดสิ้น แต่สามเณรพวง บวชได้ 5 พรรษา ก็ต้องลาสิกขา ออกมาเพราะบิดาป่วย ไม่มีคนดูแล พอมาดูแลบิดาได้ไม่นานบิดาก็เสียชีวิตลง ตอนท่านอายุ 20 ปี

ในช่วงนี้ เองชีวิตของท่านก็เปลี่ยนไปท่านได้คบกับนักเลง จนทให้ท่านกลายเป็นเสือ ตอนท่านเป็นเสือท่านก็ได้เดินสายไปขอเรียนวิชาป้องกันตัวกับหลวง

ปู่สุข วัดโพธิทรายทอง และหลวงปู่ปล้อง วัดเขาสวาย จ.สุรินทร์ และท่านได้ไปเรียนวิชากับหลวงปู่รอด พระเขมรลึกลับที่สอนวิชาให้ท่าน
เมื่อท่านมีวิชาดี ท่านก็ออกปล้นวัวควายของคนรวยๆและเอามาขาย เพื่อนำเงินมาช่วยเหลือคนจน ท่านเป็นเสือที่มีคุณธรรม ท่านมีนามเสือว่า “เสือเม่น” และท่านมีเพื่อนรวมรุ่นที่เป็นเสือด้วยกัน มีอยู่ 5 คน เสือคง เสือเบง เสือช่วย เสือหว่าง เสือสาย เสือทั้ง 5 ท่านนี้ได้ตายหมดแล้วถูกทางการฆ่าตายหมด เหลือแต่เสือเม่น ที่หนีทางการไปได้เพราะมีวิชาดี ท่านได้เป็นเสือปล้นอยู่หลายปีจนถึงอายุ 40 ปีท่านได้หนีทางการไปอยู่กับหลวงปู่สุขวัดโพธิทรายทอง ที่ละหารทรายหลายเดือนก่อนที่ท่านจะหนีไปอยู่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ไปอยู่กับหลวงปู่เจริญ ศิษย์เอกหลวงปู่เอีย วัดบ้านด่าน และหลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ที่วัดปทุมสราราม ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
หลวงปู่เจริญ ก็ทำการบวชให้หลวงปู่พวง โดยหลวงปู่เจริญ กิติโสภโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านได้ฉายาว่า ธมฺมสาโร ท่านบวชอยู่กับพระอุปัชฌาย์ 2 ปี ก็ให้ท่านไปรักษาการเป็นเจ้าอาวาสวัดบุญเกิด อ.กบินทร์บุรี ท่านไปรักษาการอยู่ 3 ปีก็เกิดความเบื่อหน่ายคณะกรรมการวัดที่ให้พระหาเงินให้แล้วก็พากันเอาเงินไปใช้ไม่ยอมสร้างและพัฒนาวัด ท่านเลยหนีไปเดินธุดงค์ ท่านเดินตั้งแต่ภาคใต้ ปัตตานีและขึ้นมาภาคเหนือและลงมาภาคอีสาน

ท่านอยู่วิเวกทางภาคเหนือ ท่านอยู่ตามป่าตามถ้ำเจอกับครูบาอาจารย์หลายท่านที่จำได้ท่านบอกว่าเจอหลวงปู่ดำ วัดท่าทอง จ.อุตรดิษถ์ และได้เล่าเรียนวิชากับหลวงปู่ดำ และหลวงปู่ดำได้ถ่ายทอดวิชาต่างให้ และได้มอบตำราใบลานโบราณเก่าให้มาศึกษาด้วย และท่านได้เดินธุดงค์ลงมาแถวภาคอีสานตามแนวตะเข็บชายแดนและได้เจอครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน และท่านก็ได้เจอกับอาจารย์ท่านหนึ่งเป็นพระเขมรชื่อ หลวงปู่พรหมรอด ที่ไปมาไร้ร่องรอย มาสอนวิชาให้หลวงปู่พวง และให้ตำรายาใบข่อยโบราณมาเล่มหนึ่งให้หลวงปู่เรียน เพื่อเอาไว้รักษาช่วยเหลือผู้คน และให้วิชาเหยียบไฟ เพื่อรักษาคนเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

และครั้งหนึ่งท่านเดินแถวตะเข็บชายแดนเขมรเขาไปในดงระเบิดท่านเดินผ่านมาได้โดยไม่เป็นอะไร แต่พอมีหมาวิ่งตามหลังท่านมันไปเหยียบกับระเบิดตูมเสียงดังสนั่น และที่แถวนั้นมีทหารพรานตั้งฐานอยู่ เลยวิ่งมาดูเห็นหลวงปู่เดินผ่านมาโดยไม่โดนกับระเบิดแต่เห็นหมาโดนระเบิดแลกเหลว จึงเกิดศรัทธาในองค์หลวงปู่จึงไปถามหลวงปู่ว่าที่หลวงปู่เดินมานั้นมันเป็นดงระเบิดเลย ทำไมหลวงปู่เดินผ่านมาได้โดยไม่ระเบิด จึงถามหลวงปู่ว่าหลวงปู่มีคาถาดีและมีของดีอะไรหลวงปู่ท่านบอกว่าเราไม่มีอะไรหรอกเรามีแต่พุทโธและศีลเท่านั้น
หลวงปู่ท่านเดินธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่ป่าชาบ้านโคกตาสิงห์ และชาวบ้านได้นิมนต์ให้ท่านอยู่ เพื่อจะได้สร้างวัด
และท่านก็อยู่จนได้เป็นวัดเทพนรสิงห์บ้านโคกตาสิงห์ จนเจริญรุ่งเรืองมาถึงทุกวันนี้ ด้วยบารมีของท่าน
หลวงปู่พวง พระเกจิอาจารย์มากเมตตาเอกอุสงฆ์ ที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ