คำนิยม สงบศึกพี่น้อง
ตอนที่ 1

“การยืนกรานให้ลูกรู้สึกดีๆต่อกัน นำไปสู่ความรู้สึกเลวร้าย
การรับรู้ความรู้สึกเลวร้ายระหว่างลูกๆ นำไปสู่ความรู้สึกดี”

เป็นข้อความหนึ่งที่จะได้อ่านจากหนังสือเล่มนี้

เป็นดังที่ผมพูดและเขียนเสมอว่าเราบังคับพี่น้องรักกันมิได้ ที่จริงแล้วเราสั่งให้ใครรักใครมิได้เลย

ความรักระหว่างพี่น้องเกิดจากการร่วมทุกข์ร่วมสุขมากกว่าอย่างอื่น เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้ถึงสองประโยคข้างต้นจึงเห็นควรอธิบายเพิ่มเติม

ความทุกข์ของครอบครัวสามารถทำให้คนทั้งบ้านรักกันได้ สำหรับพี่น้องลำพังความทุกข์ที่เกิดจากการแย่งของเล่นกันไปจนถึงชิงดีชิงเด่นกันก็สร้างความรักได้แล้วหากเราล่วงรู้เรื่องนี้ เราจะไม่พยายามบอกว่าใครดีตรงไหนแล้วให้อีกคนหนึ่งทำตามอย่าง

แต่เราเปิดโอกาสให้พี่น้องได้เรียนรู้ว่าแต่ละคนไม่ดีตรงไหนแล้วยอมรับความแตกต่างตั้งแต่แรก พวกเขาจะทำได้ง่ายกว่าตอนเป็นเด็กเล็ก แต่จะทำได้ยากขึ้นๆเมื่อโตขึ้นๆ

พอยอมรับกันได้แล้ว พวกเขากลับจะค้นหาวิธีเติบโตด้วยกันและรักใคร่กันได้ในที่สุด

“เป็นเส้นทางที่ตรงไปตรงมาที่สุดด้วย” ผู้เขียนปิดท้ายบทนี้ด้วยประโยคนี้

พี่นิสัยแบบนั้น น้องนิสัยแบบนี้ แม้เราจะรู้สึกว่านิสัยบางประการควรได้รับการสั่งสอนหรือแก้ไขแต่นั่นเก็บไว้พูดคุยส่วนตัวได้ ที่สำคัญกว่าคือให้โอกาสพวกเขาเรียนรู้กันและกันให้มากที่สุดก่อนที่เวลาพรากจากกันจะมาถึง

แล้วเชื่อเถอะว่าเวลานั้นจะมาถึงเร็วเกินตั้งตัว

“เด็กไม่ต้องการโลกของการแข่งขันที่บ้านเพื่อเตรียมตัวให้แกร่งสำหรับโลกภายนอกหรอกเหรอ”

เป็นคำถามที่ใครบางคนในหนังสือเล่มนี้ถาม และเชื่อว่าหลายท่านก็ถาม

…

#preface

ยังมีต่อ


.......



หนังสือเล่มนี้มอบคำแนะนำที่เรียบง่าย แต่ได้ผลเมื่อผสานแนวคิดเหล่านี้เข้ากับชีวิตประจำวัน พาคุณไปร่วมกันทำความเข้าใจ ช่วยลูกๆ จัดการความรู้สึกของพวกเขา ทั้งอารมณ์ที่รุนแรง ความอิจฉา การแก่งแย่ง การกระทบกระทั่งนับครั้งไม่ถ้วนในความสัมพันธ์ของบ้านที่มีพี่น้อง ให้อารมณ์เหล่านี้ช่วยให้พวกเขาเติบโต เป็นมนุษย์ที่มีความเอาใจใส่ และห่วงใยผู้อื่นให้มากขึ้น

เพราะครอบครัวเป็นพื้นที่แรกของลูกในการเรียนรู้วิธีสร้างความสัมพันธ์ การรับฟัง เรียนรู้ที่จะยึด ยอม และยืดหยุ่น เพื่อให้ลูกๆ ได้เป็นเพื่อน เป็นคู่คิด มีกันและกันแม้ในวันที่เราไม่อาจอยู่เคียงข้างพวกเขาอีกต่อไป

โดย อะเดล เฟเบอร์ และอีเลน มาซลิช เจ้าของหนังสือ How to Talk So Kids Will Listen & Listen So Kids Will Talk ที่แปลไปแล้วมากกว่าสามสิบภาษาทั่วโลก



Original Title

ISBN 978-616-8255-96-4

จำนวน 256 หน้า

พิมพ์ครั้งแรก ธันวาคม 2565