“ซุกกินี” ถือเป็นบวบชนิดหนึ่ง ผิวสีเขียวเข้ม ผลกลมยาว มีลักษณะคล้ายแตงกวาญี่ปุ่น แต่ซุกกินีมีความอ้วน และผิวเรียบมันกว่า และจะมีความนุ่มกว่าหากใช้มือกดลงไป “ซุกกินี” ถือเป็นบวบฝรั่งที่นิยมกินกันมากในแถบอเมริกาและยุโรป มักนำมาทำเป็นสลัดผักย่างแบบอิตาเลียน ทำเป็นซุป หรือนำไปทอดให้คล้ายเฟรนช์ฟรายส์แทนมันฝรั่ง ถือเป็นอาหารกินเล่นที่อร่อยและใช้ในงานปาร์ตี้ได้ดีทีเดียว

ซุกกินีและข้อดีต่อร่างกาย
• สารต้านอนุมูลอิสระสูงซุกกินีมีสารต้านอนุมูลอิสระจำพวกแคโรทีนอยด์ เช่น ลูทีนซีแซนทีนและเบต้าแคโรทีน ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อดวงตาผิวหนังและหัวใจรวมถึงให้การป้องกันมะเร็งบางประเภทเช่นมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น

• มีส่วนช่วยในระบบย่อยอาหาร ซุกกินีมีส่วนประกอบของเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ โดยเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำจะช่วยการขับถ่ายและช่วยให้อาหารเคลื่อนผ่านลำไส้ได้ง่ายขึ้น ทำให้ลดความเสี่ยงของอาการท้องผูก ในขณะเดียวกันเส้นใยที่ละลายน้ำได้มีแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้จะผลิตกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) ที่ช่วยบำรุงเซลล์ลำไส้ ทั้งยังช่วยลดการอักเสบและความผิดปกติของลำไส้เช่นอาการลำไส้แปรปรวน โรคโครห์นและโรคลำไส้ใหญ่

• ลดระดับน้ำตาลในเลือดเนื่องจากซุกกินีมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ ซึ่งอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินได้ ทั้งรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และลดความจำเป็นในการใช้ยาของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อีกด้วย

• บำรุงสายตาช่วยในการมองเห็นเพราะซุกกินีอุดมไปด้วยวิตามินซีและเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารอาหารสองชนิดที่มีความสำคัญต่อสุขภาพดวงตา ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคตาที่มาพร้อมกับอายุ และลดโอกาสเกิดต้อกระจกอีกด้วย

• ช่วยลดน้ำหนักซุกกินีมีคาร์โบไฮเดรตต่ำและมีเส้นใยสูง อุดมไปด้วยน้ำและมีความหนาแน่น กินแล้วอิ่มไวแต่แคลอรี่ต่ำ ทำให้เหมาะกับคนที่อยากลดน้ำหนัก นอกจากนี้ปริมาณเส้นใยของซุกกินียังช่วยลดความหิวและลดความอยากอาหารอีกด้วย
• บำรุงหัวใจซุกกินีมีคอเลสเตอรอลโซเดียมและไขมันต่ำช่วยรักษาสมดุลของคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นสิ่งดีสำหรับหัวใจ อีกทั้งมีเส้นใยที่ช่วยในการพัฒนาโรคหลอดเลือดสมองความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ นอกจากนี้ซุกกินียังอุดมไปด้วยโฟเลตที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียมซึ่งส่งผลดีสำหรับหัวใจเช่นกัน