หนังสือขีดสันเมจิกด้านข้างเล่ม อาจมีตำหนิรอยน้ำ รอยฝุ่น

บิดาของป้อคุนพร้อมกับบริวารถูกสังหารสิ้นในค่ำคืนเดียว ณ เนินเมฆพลิ้ว (ฮุ้นซัวปอ) ส่วนมารดาของป้อคุนถูกคร่ากุมตัวไว้ ป้อคุนจึงต้องออกท่องยุทธจักรเพื่อหาทางแก้แค้น ซึ่งได้บังเอิญเข้าสู่หมู่บ้านปลิดดาว (ท่ำเทียนซัวจึง) แต่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นไส้ศึกของศัตรูจึงถูกทำร้ายผงทำลายจักษุ (โต๊ะงั่งฮุ้ง) จนตาพิการ แต่แพทย์เทพยดา (ซิ่งอุย) เฮี่ยงเสียง ช่วยสะกดพิษไว้ แต่ไม่อาจรักษาได้ จึงหลบหนีจากการตามล่าไปจนถึงเทือกเขาอึ้งซัว จนได้พบกับภูตบดีม่วง (ตั๊กงั่งเล้ง) ที่หุบเหวโลหิต (ฮ้วยกั่ง) จึงได้ปวารนาตัวเป็นศิษย์ ซึ่งภูตบดีม่วงได้ใช้เนตรมังกร (เล้งงั่ง) รักษาพิษผงทำลายจักษุ จากนั้นป้อคุนได้ร่ำเรียน ลมปราณล้ำจักรวาล (เคี่ยงคุนเจ็งคี่) ท่าเท้าเงามายา (ฮุ้นไฮ้ฮ่วมจง) เพลงกระบี่ดาราราย (ฮุ้นไฮ้แชฮ่วม) ฝ่ามือล่าวิญญาณ (ตุยฮุ้นเจี้ย) และวิชาแปรสรีรร่าง (อี้เฮ้งจือฮวบ) ที่สามารถเปลี่ยนสีผิวกายให้เป็นสีม่วงได้
เมื่อร่ำเรียนวิชาสำเร็จ ภูตบดีม่วงจึงมอบภาระในการล้างแค้นที่ถูกลอบทำร้ายจนต้องลงมาอยู่ในหุบเหวโลหิต โดยให้ป้อคุนปลอมตัวเป็นภูตบดีม่วงเวลาแก้แค้น ป้อคุนต้องแบกภาระความแค้นของบิดาและอาจารย์เข้าต่อสู้กับขุมกำลังของตำหนักอสุรี และวังสารพัดพิษ ขณะท่องยุทธจักรได้พบกับโฉมสะคราญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นราชธิดาทิพย์วิมาน (แคะมัวกงจู้) ลันนา นางแอ่นตลบฟ้า พัวเจ็ง เทวฑูตตำหนักอสุรี ซิมอีเฮี้ย ดรุณีน้อย ฮุ้นเซียง และประมุขพรรคเบญจมาส --- เซี่ยวเฮ้ง