ใบแปะก๊วยกับคุณประโยชน์ทางการแพทย์
ใบแปะก๊วย หรือมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า (Ginkgo biloba L.) เป็นสมุนไพรโบราณที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน ใบแปะก๊วยเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์และมีศักยภาพด้านการรักษาโรค ใบแปะก๊วยจึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาแบบแพทย์แผนจีน โดยเชื่อว่ามีสรรพคุณทางยาช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสมอง ความคิด และระบบไหลเวียนเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยในระยะยาว

ปัจจุบันมีการใช้สารสกัดจากใบแปะก๊วยกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะทางการแพทย์ที่นำสารสำคัญในสารสกัดจากใบแปะก๊วยมาส่งเสริมการรักษาในผู้ป่วยที่มีความบกพร่องของสมอง และช่วยยับยั้งการเสื่อมของสมองและต่อต้านอนุมูลอิสระให้คงประสิทธิภาพการทำงานได้เป็นปกติ โดยมีงานวิจัยทางการแพทย์ที่ยืนยันในประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสารสกัดจากใบแปะก๊วยหลายฉบับ จนเป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์ทั่วโลก


สารสำคัญในสารสกัดจากใบแปะก๊วยที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายแบ่งออก 2 กลุ่ม ดังนี้
1. เทอร์ปีน แลคโตน (Terpene Lactone) มีสารประกอบสำคัญชื่อ จิงโกไลด์ (ginkgolide) และบิโลบาไลด์ (bilobalide)ที่มีบทบาทสำคัญต่อร่างกายโดยเฉพาะการไหลเวียนเลือดในสมอง ซึ่งเป็นตัวเสริมสร้างการส่งสัญญาณในระบบสมอง ช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดให้ทำงานได้เร็วขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด โดยเฉพาะหลอดเลือดเส้นเล็กๆ ส่งผลออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น และป้องกันการจับตัวกันของเกล็ดเลือด เพราะฉะนั้นการทำงานของสมองก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบความคิด ระบบความจำ ก็จะตอบสนองได้ดีมากขึ้น

2. ฟลาโวน ไกลโคไซด์ (Flavone Glycoside) สารกลุ่มนี้มีคุณสมบัติในการต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ( Antioxidant ) ช่วยปกป้องเซลล์สมองเสื่อมจากการทำลายของอนุมูลอิสระ และหลอดเลือดเสื่อม ด้วยบทบาทที่เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง จึงช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง ทำให้บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ อาการบ้านหมุน หูอื้อ ความผิดปกติทางการได้ยินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใบแปะก๊วยกับคุณประโยชน์ที่ใช้ในทางการแพทย์
1. ใบแปะก๊วยช่วยบำรุงสมองและยับยั้งการเสื่อมของเซลล์ประสาท
ใบแปะก๊วย : ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการบำรุงสมองและระบบประสาท โดยเฉพาะระบบไหลเวียนเลือดในสมอง สารสำคัญจากใบแปะก๊วยจะช่วยเพิ่มความต้านทานการขาดออกซิเจนของเนื้อเยื่อในสมอง ซึ่งเป็นตัวเสริมสร้างการส่งสัญญาณในระบบสมอง จึงเสริมการทำงานของสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโลหิตไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังพบว่าสารสำคัญจากใบแปะก๊วยยังส่งผลดีต่อการปกป้องการสูญเสียความทรงจำ สร้างเสริมกระบวนการคิด ช่วยเพิ่มความตื่นตัวและสมาธิ (cerebral insufficiency) ช่วยลดภาวะอาการหลงลืมและเพิ่มประสิทธิภาพความทรงจำระยะสั้นของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ทำให้การรับรู้และความทรงจำของผู้ป่วยตอบสนองได้ดีขึ้น

2. ใบแปะก๊วยช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด
ใบแปะก๊วย : มีสารประกอบสำคัญที่ออกฤทธิ์ต่อหลอดเลือดและเกี่ยวข้องกับการรักษาโรคหรือสภาวะต่างๆ สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่พบว่าสามารถเพิ่มอัตราการไหลเวียนของเลือดบริเวณสมองและหลอดเลือดส่วนปลาย ลดสภาวะการซึมผ่านของผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการหดตัวของหลอดเลือด ลดความตึงของหลอดเลือดดำ ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ จากการศึกษายังพบว่าสารกลุ่มฟลาโวนอยด์สามารถบรรเทาอาการปวดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดส่วนปลายแขนขาอุดตันได้อย่างมีนัยสำคัญ และช่วยให้การเดินมีประสิทธิภาพสามารถเดินได้ไกลขึ้น รวมถึงส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงแขนขาได้ดีขึ้น

3. ใบแปะก๊วยช่วยรักษาอาการบ้านหมุน วิงเวียนศีรษะ หูอื้อ
ใบแปะก๊วย : มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการบ้านหมุน วิงเวียนศีรษะ หูอื้อ ความผิดปกติทางการได้ยินและช่วยรักษาสมดุลย์ในการทรงตัวของร่างกาย ด้วยบทบาทที่เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง ช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดให้ทำงานได้เร็วขึ้น จึงช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง ทำให้บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ อาการบ้านหมุน หูอื้อ ความผิดปกติทางการได้ยิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดให้ทำงานได้เร็วขึ้น เท่าเทียมกับเบตาฮีสทีนซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาอาการวิงเวียนศีรษะอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

4. ใบแปะก๊วยช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง
ใบแปะก๊วย : มีสรรพคุณชั้นดีในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง (Antioxidant) จากสารสกัดไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) สามารถป้องกันการเกิดโรคเบาหวานขึ้นตาได้ ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้า นอกจากนี้ใบแปะก๊วยยังเหมาะกับผู้ที่ต้องใช้ความคิดตลอดเวลา โดยเฉพาะวัยทำงานที่ต้องใช้สมองอย่างหนักประกอบกับการพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงส่งผลให้สมองเครียดและสร้างอนุมูลอิสระขึ้นมาทำลายเซลล์สมอง และทำให้สารสื่อประสาททำงานผิดปกติ

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล : สารสกัดจากใบแป๊ะก๊วย 40 มก. (มีสารฟลาโวน กลัยโคไซด์ 10.44 มก.)

ปริมาณบรรจุ: 60.00 แคปซูล

น้ำหนักรวม: 65.00 กรัม

จำนวน: 1 ชิ้น

วิธีใช้
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร
คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค