Tong Garden Cashew Pistachio Almond Peanut CockTail Salt ทองการ์เด้น มะม่วงหิมพานต์ พิสตาชิโอ อัลมอนด์ ลิสง อบเกลือ
tong-garden-cashew-pistachio-almond-peanut-cocktail-salt-ทองการ์เด้น-มะม่วงหิมพานต์-พิสตาชิโอ-อัลมอนด์-ลิสง-อบเกลือ
ข้อมูลสินค้า
ราคา
199.00 59.00 บาท
แบรนด์
Tong Garden
ร้านค้า
Tong Garden ถั่วอบเกลือ 5 รสชาติ
- Cashew Nut Salt 150 g มะม่วงหิมพานต์อบเกลือ
- CockTail Nut Salt 150 g คอกเทลนัทอบเกลือ
- Pistachio Salt 130 g พิสตาชิโออบเกลือ
- Almond Salt 140 g อัลมอนด์อบเกลือ
- Peanut Salt 150 g ลิสงอบเกลือ
ประโยชน์ของถั่ว สิ่งดี ๆ ที่คุณอาจจะเคยมองข้าม รีบมาทำความรู้จักกับประโยชน์ของเมล็ดพืชเล็ก ๆ เหล่านี้ ที่มีมากกว่าแค่เพียงการเป็นธัญพืช
1. ชะลอความแก่ชรา ช่วยชะลอความแก่ชราและริ้วรอยแห่งวัยได้ เพราะในไวน์แดงนั้นมีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่าเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ที่ช่วยป้องกันการถูกทำลายของดีเอ็นเอซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยแห่งวัย แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว ในถั่วก็มีสารเรสเวอราทรอลเช่นกัน และมีในปริมาณที่สูงเมื่อเทียบเท่ากับไวน์แดง
2. มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวพรรณของเราหมองลง รวมทั้งยังทำให้สมองและระบบภูมิคุ้มกันทำงานด้อยประสิทธิภาพลงอีกด้วย ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเข้าไป และส่วนใหญ่คนก็มักจะนึกว่าผลไม้ประเภทเบอร์รี่ ชาเขียว ขมิ้น และผลทับทิมเท่านั้นที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังและช่วยป้องกันการทำงานของอนุมูลอิสระได้ หารู้ไม่ว่าถั่วก็มีสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าอาหารชนิดอื่น ๆ อีกด้วย โดยสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้จะช่วยยับยั้งเอ็นไซม์แอลฟา-กลูโคซิเดส (α-glucosidase) และน้ำย่อยในตับอ่อนที่ทำหน้าที่ในการย่อยไขมันให้กลายเป็นไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของความอ้วนและโรคเบาหวาน โดยถั่วที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด
3. ช่วยลดความดันโลหิต มีการศึกษามากมายพบว่าการเติมถั่วลงไปในอาหารที่รับประทานจะช่วยลดระดับความดันโลหิตตัวบนและความดันโลหิตตัวล่างลงได้ โดยเฉพาะถั่วพินโต ถั่วขาว ถั่วลิสงและถั่วดำ ดังนั้นสำหรับผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ถั่วถือเป็นอาหารสุขภาพที่ดีและควรรับประทานอย่างยิ่ง
4. ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง สารต้านอนุมูลอิสระในถั่วนอกจากจะช่วยต่อต้านการทำงานของสารอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยแห่งวัยแล้ว ก็ยังช่วยต่อต้านการถูกทำลายของเซลล์ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งอีกด้วย โดยมีการศึกษาหนึ่งที่ทำการสำรวจกับผู้หญิงกว่า 90,000 คน และตีพิมพ์ลงในวารสาร International Journal of Cancer พบว่าผู้หญิงที่รับประทานถั่วเลนทิลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ติดต่อกันนาน 8 ปี จะมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคมะเร็งเต้านมน้อยกว่าผู้ที่รับประทานถั่วเพียงเดือนละ 1 ครั้ง หรือน้อยกว่านั้น นอกจากนี้ยังมีการศึกษาใน The Journal of Cancer Research พบอีกว่าผู้หญิงที่รับประทานถั่วมากกว่า 4 ครั้งต่อสัปดาห์ มีอัตราการเกิดเนื้องอกในลำไส้ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และโรคมะเร็งในลำไส้ตรงที่ลดลงมากกว่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ค่อยรับประทานถั่ว ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันมะเร็งแล้ว สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งก็ยังช่วยต่อสู้กับมะเร็งได้อีกด้วย เพราะสารที่อยู่ในถั่วอย่างสารซาโปนิน (Saponins) จะไปขัดขวางการเกิดของเซลล์มะเร็ง และชะลอการเติบโตของเนื้องอกได้
5. มีวิตามินบีสูง เชื่อหรือไม่ว่าในถั่วหลาย ๆ ชนิดนั้นมีแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญอย่างไนอะซิน (Niacin), ไรโบเฟลวิน (Riboflavin) วิตามิน B6 และ โฟเลตสูง และเจ้าวิตามินบีนี่ล่ะค่ะที่มีส่วนช่วยในการแปลงอาหารที่รับประทานเข้าไปให้เป็นพลังงาน แถมยังช่วยสร้างเสริมคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี และลดอาการอักเสบอีกด้วย โดยมีการศึกษาระบุว่าโฟเลตและวิตามิน B6 มีส่วนช่วยอย่างมากในการลดความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาหนึ่งในญี่ปุ่นพบว่าการบริโภคอาหารที่มีโฟเลตและวิตามิน B6 มีความเกี่ยวข้องกับการลดลงของอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด โดยอาหารที่มีวิตามิน 2 ชนิดนี้สูงก็ไม่ได้มีแค่ถั่วเท่านั้นแต่ยังมีในเนื้อปลา ธัญพืช ผัก อีกด้วยล่ะค่ะ
6. มีธาตุเหล็กสูง การขาดธาตุเหล็กเป็นสาเหตุสำคัญของโลหิตจาง เพราะธาตุเหล็กเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง ดังนั้นจึงมีการแนะนำให้รับประทานธาตุเหล็กให้ได้อย่างน้อยวันละ 18 มิลลิกรัม และการรับประทานถั่วก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้ได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ โดยถั่วที่เลนทิลที่ผ่านการปรุงสุกแล้วเพียง 1/2 ถ้วยก็ให้ปริมาณธาตุเหล็กได้ถึง 3.3 มิลลิกรัม แต่ก็ควรจะรับประทานถั่วกับอาหารที่มีวิตามินซีสูง เพราะร่างกายไม่สามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้เอง ต่างจากธาตุเหล็กในเนื้อสัตว์ แต่ในอาหารที่มีวิตามินซีนั้นจะมีสารประกอบธาตุเหล็กที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ แถมยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารที่รับประทานเข้าไปได้มากกว่าเดิมถึง 6 เท่าเลยล่ะค่ะ ถ้าครั้งหน้าจะรับประทานถั่วลองนำถั่วมาปรุงกับพริกหวาน บรอกโคลี มะเขือเทศ หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวดูนะคะ เผื่อจะได้ธาตุเหล็กมากขึ้นไ
7. ช่วยควบคุมน้ำหนัก โปรตีนถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการรับประทานโปรตีนจะช่วยลดความอยากอาหาร ซึ่งถั่วก็มีโปรตีนสูงและไฟเบอร์สูง ทำให้เมื่อรับประทานเข้าไปจะรู้สึกอิ่มได้นานขึ้
8. ดีต่อสุขภาพหัวใจ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย และช่วยลดความเสี่ยงหัวใจวายอีกด้วย โดยการศึกษาในวารสารทางการแพทย์ British Medical Journal พบว่าผู้ที่รับประทานไฟเบอร์วันละ 4 กรัมจะมีความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดลดลงถึง 9 %
9. ลดคอเลสเตอรอล การรับประทานถั่วทุกวันจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีได้ถึง 5 % และลดโอกาสที่จะเกิดโรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือดหัวใจได้ถึง 5 - 6 % เลยทีเดียว
10. กับระบบย่อยอาหาร ไฟเบอร์มีส่วนสำคัญที่ให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น โดยจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง และช่วยป้องกันท้องผูก
11. ช่วยลดความอยากอาหาร
12. ช่วยควบคุมเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร
อ้างอิง:ถั่ว สุดยอดอาหารดี สารพัดคุณประโยชน์จากเมล็ดเล็ก ๆ
คำที่เกี่ยวข้อง
ถั่วพิสตาชิโออบเกลือเม็ด อัลมอนด์ อบ เกลือทองการ์เด้น มะม่วงหิมพานต์ถั่วพิสตาชิโอไม่อบเกลืออัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ถั่วลิสงอบเกลือเม็ด อัลมอนด์ อบ เกลือซื้อ1แถม1ถั่วลิสงทองการ์เด้นทองการ์เด้น อัลมอนถั่วพิสตาชิโออบ

สินค้าใกล้เคียง