ประโยชน์ของมะเขือม่วง
ผลมะเขือม่วง ใช้รับประทานสดคู่กับอาหาร เช่น น้ำพริกปลาทู ลาบ ซุบหน่อไม้ และส้มตำ เป็นต้น
มะเขือม่วง ใช้ประกอบอาหาร อาทิ แกงมะเขือ ผัดมะเขือ และบาร์บีคิว เป็นต้น
เศษจากส่วนผล และลำต้นใช้ทำน้ำหมักชีวภาพ
ลำต้น และใบสด ใช้สุมไฟเพื่อรมควันไล่เหลือบ ยุง
ผลมะเขือใช้เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสุกร ด้วยการต้มรวมกับเศษผักอื่นหรือให้แบบสด

วิธีการรับประทานมะเขือม่วง ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
รับประทานโดยไม่ปอกเปลือกทิ้ง
เปลือกของมะเขือม่วง อุดมไปด้วยโพลีฟีนอล และแอนโทไซยานิน การรับประทานทั้งเปลือก จะช่วยคงคุณค่าสารอาหารไว้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม แอนโทไซยานินนั้น ละลายน้ำได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงการหั่นมะเขือม่วง แล้วนำไปแช่น้ำเป็นเวลานาน เพราะสารอาหาร จะละลายไปกับน้ำ

ปรุงด้วยน้ำมัน
แอนโทไซยานิน ละลายในน้ำได้ง่ายทำให้สูญเสียสารอาหาร เมื่อนำมาต้มด้วยน้ำ การผัด หรือทอดด้วยน้ำมัน จะช่วยป้องกันไม่ให้แอนโทไซยานิน และสารอาหารละลายออกจากมะเขือม่วงตามรอยหั่น วิธีการปรุงอาหารที่ดี เพื่อคงคุณค่า และรสชาติของมะเขือยาวให้มากที่สุด คือ การผัด หรือทอดเทมปุระ

ทำเป็นซุปมะเขือม่วง
หากต้องการหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำมัน การนำมะเขือม่วงมาทำเป็นแกงเลียง หรือซุปมิโสะ เป็นอีกวิธีในการนำมะเขือม่วงมารับประทานให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยจะได้ระบแอนโทไซยานิน ที่ละลายออกมาในน้ำซุปจากมะเขือม่วงที่ต้มจนนิ่มแล้ว