บุคคลสำคัญบันดาลใจ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

อัลเบิร์ตมีปัญหาด้านการพูดช้ามาตั้งแต่เด็ก เด็กชายจึงมักจะเก็บตัวอ่านหนังสือและหมกหมุ่นกับการคิดทฤษฎีต่างๆ วันหนึ่งเขาได้รับของขวัญจากพ่อเป็นนาฬิกาเข็มทิศเรือนหนึ่ง ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจทั้งหมด หลังเรียนจบด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ เขาก็เริ่มทำงานที่สำนักงานสิทธิบัตรแห่งหนึ่ง ในระหว่างนั้นเขาก็คิดกฎฟิสิกส์เรื่องความสมมูลระหว่างมวลและพลังงาน ต่อยอดไปจนถึงทฤษฎีสัมพันธภาพ การค้นพบเหล่านี้สร้างชื่อเสียงให้อัลเบิร์ต จนเขาได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรบรรยายงานต่างๆ ไปทั่วโลก ขณะนั้นนาซีได้เข้ายึดประเทศเยอรมันนี อัลเบิร์ตจึงต้องย้ายสัญชาติไปเป็นชาวอเมริกัน และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามที่รุนแรง เขาจึงเขียนจดหมายเตือนเรื่องการสร้างนิวเคลียร์ของนาซีให้ทางกองทัพอเมริกันทราบ ทว่าทางอเมริกันกลับเป็นฝ่ายสร้างระเบิดนิวเคลียร์เสียเอง เรื่องนี้ทำให้อัลเบิร์ตทุกข์ใจมาโดยตลอด แต่เขาก็ไม่เคยหยุดขับเคลื่อนความก้าวหน้าในสังคม เขาช่วยผลักดันการปกป้องชนชั้นแรงงาน หยุดการเหยียดสีผิว เพื่อหวังสร้างสังคมที่ทุกคนอยู่กันได้อย่างเท่าเทียม
หนังสือภาพชีวประวัติฉบับย่อสําหรับเด็กวัย 4-6 ปีขึ้นไป บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดสูงสุดของชีวิต ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ ให้เด็กๆ ได้ทบทวนและทำความเข้าใจความฝันของตัวเอง เห็นเป้าหมายที่ชัดขึ้นจากบุคคลตัวอย่าง ด้วยภาพประกอบที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ สีสันสวยงามของนักวาดชาวยุโรป เนื้อหาครอบคลุมความเข้าใจของเด็กในหลายวัย และยังมีข้อมูลไทม์ไลน์ประวัติของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ให้ศึกษาต่อเพิ่มเติมในหน้า


บุคคลสำคัญบันดาลใจ สตีเฟน ฮอว์กิน

สตีเฟนเกิดที่เมืองออกซ์ฟอร์ด ในประเทศอังกฤษ เขามีพี่น้องอีกสามคน ครอบครัวของสตีเฟนต่างหลงใหลในวิทยาศาสตร์ ส่วนเขาเองก็หลงใหลในเรื่องของดวงดาวและจักรวาลเป็นอย่างมาก แม้ในชั้นเรียนสตีเฟนจะไม่เคยเป็นที่หนึ่ง แต่เพื่อนๆ ต่างก็ให้ฉายาเขาว่าอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เพราะเขาชอบคิดค้นและประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ต่อมาเขาได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ที่นั่นสตีเฟนพยายามจะไขความลับอันยิ่งใหญ่ของจักรวาล น่าเสียดายที่เขาเกิดล้มป่วยขึ้นมา แพทย์วินิจฉัยว่าเขาป่วยเป็นอัมพาต ซึ่งอาจจะมีชีวิตอยู่ได้แค่อีก 2 ปีเท่านั้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้สตีเฟนท้อแท้เลยสักนิด แม้จะป่วยแต่ด้วยแรงสนับสนุนจากภรรยาและลูกๆ สตีเฟนยังคงศึกษาต่อ จนในที่สุดเขาก็ค้นพบความลับของหลุมดำอย่าง การแผ่รังสีฮอว์กิง ที่ตั้งชื่อรังสีตามชื่อของเขาเอง ด้วยช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ของสตีเฟน เขาทุ่มเทให้กับการเขียนหนังสือและกระจายความรู้ที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้อื่น ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความฝันว่าสักวันหนึ่งมนุษย์โลกจะได้ท่องไปในจักรวาล
หนังสือภาพชีวประวัติฉบับย่อสําหรับเด็กวัย 4-6 ปีขึ้นไป บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของสตีเฟน ฮอว์คิง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดสูงสุดของชีวิต ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ ให้เด็กๆ ได้ทบทวนและทำความเข้าใจความฝันของตัวเอง เห็นเป้าหมายที่ชัดขึ้นจากบุคคลตัวอย่าง ด้วยภาพประกอบที่มีลายเส้นสวยงามเป็นเอกลักษณ์ สีสันและสไตล์ของงานดึงดูดความสนใจของพ่อแม่และเด็กได้ดี เนื้อหาครอบคลุมความเข้าใจของเด็กในหลายวัย และยังมีข้อมูลไทม์ไลน์ประวัติของสตีเฟน ฮอว์คิงให้ศึกษาต่อเพิ่มเติมในหน้าสุดท้ายด้วย


บุคคลสำคัญบันดาลใจ ชาร์ลส์ ดาร์วิน

ชาร์ลส์เป็นเด็กช่างสงสัย และช่างสังเกต อาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเขาที่เมืองชรูว์สเบอรี ในประเทศอังกฤษ พ่อของชาร์ลส์อยากจะให้ชาร์ลส์เป็นแพทย์เช่นเดียวกับตนเอง ทว่าขณะที่ชาร์ลส์กำลังศึกษาในด้านแพทย์ศาสตร์ เขาก็ค้นพบว่าตัวเองกลัวเลือดเป็นอย่างมาก และด้วยความที่ชาร์ลส์หลงใหลในธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงเลือกที่จะเรียนต่อด้านธรรมชาติวิทยาแทน วันหนึ่งชาร์ลส์มีโอกาสได้ล่องเรือไปศึกษาธรรมชาติที่แอฟริกา แอฟริกาตอนใต้และออสเตรเลีย ที่บราซิล ชาร์ลส์ค้นพบร่องรอยการมีชีวิตอยู่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 1,000 ปี เขาศึกษาต่อที่หมู่เกาะกาลาปากอส ที่นั่นชาร์ลส์ค้นพบทฤษฎีสำคัญอย่าง ทฤษฎีการคัดสรรโดยธรรมชาติ หรือ Evolution ด้วยทฤษฎีนี้มนุษย์จึงรู้ว่าเผ่าพันธุ์ของตนเองวิวัฒนาการมาจากลิงนั่นเอง ไม่นานชาร์ลส์ก็ได้เขียนหนังสือและกระจายความรู้ที่เป็นประโยชน์ยิ่งต่อวงการวิทยาศาสตร์ไปทั่วโลก
หนังสือภาพชีวประวัติฉบับย่อสําหรับเด็กวัย 4-6 ปีขึ้นไป บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของชาร์ลส์ ดาร์วิน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดสูงสุดของชีวิต ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ ให้เด็กๆ ได้ทบทวนและทำความเข้าใจความฝันของตัวเอง เห็นเป้าหมายที่ชัดขึ้นจากบุคคลตัวอย่าง ด้วยภาพประกอบที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ สีสันสดใส กระตุ้นการเรียนรู้ เนื้อหาครอบคลุมความเข้าใจของเด็กในหลายวัย และยังมีข้อมูลไทม์ไลน์ประวัติของชาร์ลส์ ดาร์วินให้ศึกษาต่อเพิ่มเติมในหน้าสุดท้ายด้วย