เหรียญเสมา เฮงร่ำรวย หลวงปู่เฮง ปภาโส
วัดสะตอน้อย อำเภอขลุง จังหวัดจันทรบุรี ปี 2563

เนื้อทองแดงมันปูหน้ากากองค์ทองทิพย์กับเทวดา
จัดสร้าง 900 เหรียญ
มีโค๊ตและเลขกำกับ
ขนาดประมาณ กว้าง 2.5 ซม x ยาว 3.5 ซม
พร้อมกล่อง รับประกันพระแท้

ประวัติหลวงปู่เฮง ปภาโส
“หลวงพ่อคง สุวัณโณ” หรือ พระครูอาคมวิสุทธิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดวัง สรรพรส อ.ขลุง จ.จันทบุรี สมญานามว่า “เทพเจ้าแห่งเขาสมิง” เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของภาคตะวันออก เป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยกับหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง

ได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกในพิธีใหญ่ พร้อมกับพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยอยู่หลายครั้ง เมื่อคราวปลุกเสกพระเครื่องฉลอง 25 ศตวรรษ ที่ท้องสนามหลวง พ.ศ.2500 ก็ได้ร่วมในพิธีครั้งนั้นด้วย

ปัจจุบัน มีศิษย์สืบทอดพุทธาคมของท่านอีกรูปหนึ่ง คือ “หลวงปู่เฮง ปภาโส” เจ้าอาวาสวัดบ้านด่านช่องจอม (วัดพัฒนาธรรมาราม) บ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ สิริอายุ 90 ปี

หลวงปู่เฮง เกิดปีเถาะ เดือนสิงหาคม 2470 มีพ่อแม่เป็นชาวกัมพูชาโดยกำเนิด แต่อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครองประเทศกัมพูชา ย้ายมา อยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน

ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร (ศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง) เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติพี่น้องที่ประเทศไทย ท่านบอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปท่านได้บอกกับแม่ของท่าน ว่า “โยมอาฉันอยากจะขอให้น้องไปด้วย โยมอาจะว่าอย่างไร ฉันจะได้สอนให้น้องได้ หัดเรียนเขียนอ่านจะได้รู้หนังสือ”

ทำให้ท่านได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ จนเจนจบ

ศึกษาวิชากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายตั้งแต่อายุ 14 ปี เรียนภาษาขอม ภาษาบาลี และออกธุดงค์ไปกับพระพี่ชายเสมอ

ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กองพันทหารม้า 29 รักษาพระองค์ หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย และใช้วิชาที่เรียนกับพระอาจารย์เฉิดเมื่อครั้งรุกขมูลไปด้วยกัน

ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว มีเรื่องตีรันฟันแทงจนกลายเป็นเสือเฮง แต่ด้วยความที่มีวิชา จึงไม่กลัวใคร

พ.ศ.2492 ข้ามไปอยู่ที่กัมพูชา ก่อนเดินทางกลับในปี พ.ศ.2495 และย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช

หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมายโดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง โดยท่านมุ่งมั่นศึกษาจนมีความชำนาญกระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย

พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงอาพาธและมรณภาพ หลวงปู่เฮงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ท่านก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน

เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานและชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก ด้วยท่านเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมแก่บรรดาคณะศิษยานุศิษย์และสาธุชนทั่วไปที่เข้ามากราบนมัสการ ยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ท่านไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าท่านจะย่างอายุเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย ด้วยท่านถือว่าเป็นกิจของสงฆ์ที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

อีกทั้ง เมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ

ส่วนการกราบเข้าพบหลวงปู่เฮง ไม่มีพิธีรีตองหรือการเลือกชนชั้นวรรณะแต่อย่างใด จึงทำให้ท่านมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก ในแต่ละวันจะมีชาวบ้านที่ศรัทธามากราบขอพรขอความเมตตาให้ท่านประพรมน้ำพระพุทธมนต์ตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจนค่ำ

ส่วนงานกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้องเดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้นจะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ท่านก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถทัดทานได้

ด้านวัตถุมงคลที่ท่านได้อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้ว แต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคล ต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัว

เกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมอันศักดิ์สิทธิ์พลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้า