เพลี้ยเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อพืชผลพริกหยวก ทำให้เกิดความเสียหายและทำให้ผลผลิตโดยรวมลดลง เกษตรกรและชาวสวนค้นหาวิธีที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนในการควบคุมเพลี้ยอ่อนอย่างต่อเนื่อง ทางออกหนึ่งที่ได้รับความสนใจคือการใช้บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียม โดยเฉพาะยี่ห้อบิวทาเร็กซ์ บทความนี้สำรวจศักยภาพของชุดค่าผสมนี้ในฐานะสารควบคุมทางชีวภาพสำหรับเพลี้ยในพริกหยวก

ทำความเข้าใจกับบิวเวอเรียและเมธาริเซียม:
บิวเวอเรียและเมธาริเซียมต่างก็เป็นเชื้อราที่ก่อโรคตามธรรมชาติซึ่งใช้เป็นสารควบคุมทางชีวภาพในการจัดการศัตรูพืช เชื้อราเหล่านี้มีศักยภาพที่ดีในการควบคุมแมลงศัตรูพืชหลากหลายชนิดรวมถึงเพลี้ย

Beauveria: Beauveria bassiana เป็นเชื้อราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งพบได้ในดินทั่วโลก มันทำหน้าที่เป็นตัวเบียนของแมลง รวมทั้งเพลี้ย โดยแพร่เชื้อและฆ่าพวกมันในที่สุด บิวเวอเรียทำงานโดยยึดติดกับหนังกำพร้าของเพลี้ย งอกและเจาะร่างกายของมัน นำไปสู่การปล่อยสารพิษที่ก่อให้เกิดความตาย

Methharicium: Methharicium anisopliae เป็นเชื้อราก่อโรคแมลงอีกชนิดหนึ่งที่รู้จักกันในคุณสมบัติในการฆ่าแมลง มันมุ่งเป้าไปที่เพลี้ยโดยการแพร่เชื้อเข้าสู่ร่างกายของพวกมันผ่านทางสิ่งที่แนบมาและการแทรกซึม ซึ่งนำไปสู่ความตายของโฮสต์ในที่สุด

ประโยชน์ของบิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียม:

ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น: การรวมกันของ Beauveria และ Methharicium มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของการควบคุมทางชีวภาพต่อเพลี้ยในพริกหยวก การทำงานร่วมกันของพวกมันสามารถปรับปรุงการควบคุมศัตรูพืชโดยกำหนดเป้าหมายเพลี้ยในช่วงชีวิตที่แตกต่างกันและป้องกันการพัฒนาของการดื้อยา

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมถือเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทนการใช้สารเคมีกำจัดแมลง มีความเสี่ยงน้อยที่สุดต่อมนุษย์ สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย และสิ่งแวดล้อม ไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายและรักษาสมดุลตามธรรมชาติของระบบนิเวศ ซึ่งแตกต่างจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช

ความปลอดภัยสำหรับการใช้งาน: Methharicium ผสม Beauveria ของ Butarex ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ง่าย มีหลายสูตรเช่นผงเปียก สเปรย์ หรือเม็ด ทำให้สะดวกสำหรับเกษตรกรและชาวสวนในการนำไปใช้กับพืชพริกหยวกของพวกเขา

การป้องกันที่ยาวนาน: บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมมีศักยภาพในการป้องกันเพลี้ยได้ยาวนาน สปอร์ของเชื้อราเหล่านี้สามารถอยู่รอดได้เป็นระยะเวลานานบนพื้นผิวของพืช ซึ่งให้การควบคุมที่ยั่งยืนและลดความจำเป็นในการประยุกต์ใช้ซ้ำบ่อยๆ

ข้อพิจารณาและข้อเสนอแนะ:

การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน (IPM): ควรรวมบิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมไว้ในแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน แนะนำให้ใช้ร่วมกับมาตรการป้องกันอื่นๆ เช่น การปลูกพืชหมุนเวียน การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ และการปฏิบัติทางวัฒนธรรมเพื่อให้ได้การควบคุมศัตรูพืชที่เหมาะสมที่สุด

ระยะเวลาในการใช้: จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดเวลาการใช้บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมอย่างถูกต้อง การตรวจหาประชากรเพลี้ยตั้งแต่เนิ่นๆ และการแทรกแซงที่รวดเร็วเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการป้องกันการแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง ปฏิบัติตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์และปรึกษากับบริการส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่เพื่อขอคำแนะนำเฉพาะ

การทดลองภาคสนามและการติดตามผล: ก่อนนำบิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมไปใช้ในวงกว้าง แนะนำให้ทำการทดลองภาคสนามและติดตามผล สิ่งนี้จะช่วยประเมินประสิทธิภาพ กำหนดปริมาณที่เหมาะสม และประเมินผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

บทสรุป:
Beauveria ผสม Methharicium โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ Butarex แสดงให้เห็นว่าเป็นสารควบคุมทางชีวภาพสำหรับเพลี้ยในพริกหยวก การผสมผสานระหว่างบิวเวอเรียและเมธาริเซียมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยสำหรับการใช้งาน

อะมิโนโปรตีนจำเป็นต่อพืช 18 ชนิด ช่วนในการส้รางฮอร์โมนพืช โตไว ผลใหญ่
แข็งแรง ทนแล้ง ทนโรค ทำไห้เกิดการสร้างและขยายขนาดของเซลล์เนื้อเยื่อ
และพัฒนาส่วนต่างๆของพืชเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ
ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง
แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค
หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง
ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบ ไปพร้อมกัน
พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช
จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม