หยดฝนกลิ่นสนิม เล่ม 1
การลงพื้นที่เกิดเหตุครั้งแรกของ ร้อยตำรวจโทหญิงตุลย์ ผู้หมวดคนใหม่ประจำแผนกอาชญากรรม กลับต้องเผชิญหน้ากับ แพทย์หญิงเฌอรัญชน์ จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ด้วยทัศนคติการทำงานที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันทำให้ทั้งสองคนไม่ค่อยลงรอยเท่าไหร่นักท่ามกลางอาชญากรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของผู้คนในสังคม หมวดตุลย์ยังต้องรับมือกับสภาวะความกดดันจากระบบการทำงานที่เอื้อให้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลคับประเทศ การแทรกแซงเพื่อปกป้องพวกพ้องด้วยกันเอง และกระแสสังคมที่อาจส่งผลอย่างมากต่อรูปคดีอย่างน้อยหมวดตุลย์ก็ไม่ได้เผชิญปัญหาเหล่านั้นตามลำพัง เมื่อได้ร่วมทีมสืบสวนคดีกับเฌอรัญชน์ แพทย์นิติเวชหญิงผู้ทำการตรวจพิสูจน์ร่องรอยหลักฐานที่ทางคนตายได้หลงเหลือเอาไว้ จนสามารถสืบสาวไปถึงตัวฆาตกรในแต่ละคดีได้ นับวันทั้งสองคนต่างไว้วางใจและเชื่อใจกันมากขึ้น เพื่อปกป้องชีวิตของผู้บริสุทธ์และมอบความเป็นธรรมครั้งสุดท้ายให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสีย

หยดฝนกลิ่นสนิม เล่ม 2
หมวดตุลย์ พบความไม่ชอบมาพากลในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องหญิงสาวโสเภณีในปีพุทธศักราช 2541 เมื่อเหยื่อรายสุดท้ายผู้อับโชคกลับกลายเป็นแม่ของหมอเฌอรัญชน์และตำรวจฝ่ายสืบสวนผู้รับผิดชอบคดีความในครั้งนั้นจนเกิดคำครหาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนว่าเขาอาจจับกุมตัวผู้บริสุทธิ์ คือพ่อของหมวดตุลย์เอง
การสืบสวนคดีความย้อนหลังเป็นไปอย่างลับ ๆ แม้หลักฐานและเบาะแสต่าง ๆ จะเลือนหายไปตามกาลเวลาจนยากที่จะรวบรวมทั้งหมดมาประกอบกันได้
จนกระทั่งผู้ต้องหาที่เคยถูกดำเนินคดีจนใช้ชีวิตอยู่ในคุกมายาวนานกว่ายี่สิบปีได้เสียชีวิตลง หลังจากนั้นไม่นาน ยามค่ำคืนที่สายฝนกระหน่ำเทลงมา มีคนถูกฆาตกรรมด้วยวิธีการคล้ายคลึงกับศพเมื่อ 18 ปีก่อน

คนร้ายทุบศีรษะจนถึงแก่ความตายทิ้งร่องรอยบางอย่างเอาไว้บนศพราวกับต้องการท้าทาย

นี่อาจจะเป็นการลอกเลียนแบบ?หรือว่าวันเวลาที่ผ่านมาฆาตกรหน้าฝนยังคงลอยนวลปะปนอยู่ในสังคมเพื่อเฝ้ารอเวลาที่จะได้หวนกลับมาลงมืออีกครั้ง