ปี 2030 โลกที่คุ้นตาจะอันตรธานหายไปอย่างฉับพลัน
เมื่อมนุษย์ต้องเผชิญกับความจริงแบบใหม่
ความจริงที่ว่าประชากรทั่วโลกจะเข้าสู่ช่วงขาดแคลนประชากรวัยแรงง
าน คนวัยเกษียณที่สหรัฐอเมริกาจะมีคนดูแลเป็นหุ่นยนต์
แต่อีกฟากหนึ่งของโลกที่แอฟริกากำลังเกิดกระแสเบบี้บูม
ตลาดผู้บริโภคชั้นกลางที่ใหญ่ที่สุดในปี 2030 คือ จีน
จำนวนเศรษฐีทั่วโลกจะมีผู้หญิงมากถึง 55 เปอร์เซ็นต์
เทคโนโลยีจะแพร่หลายไปทุกตำแหน่งแห่งหนบนโลกจนมีจำนวนโทรศั
พท์มือถือมากกว่าห้องน้ำ
สกุลเงินบางส่วนที่สำคัญที่สุดในโลกจะไม่ได้ออกโดยรัฐบาลแต่ออกโดย
บริษัทหรือกระทั่งคอมพิวเตอร์

2

ใกล้ถึงเวลาแล้ว ปี 2030
ไม่ได้อยู่ห่างไกลไปในอนาคตที่เราคาดการณ์ไม่ได้ มันอยู่ใกล้แค่นี้เอง
และเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับกับทั้งโอกาสและความท้าทาย พูดง่ายๆ
ก็คือ โลกใบที่เรารู้จักกันอยู่ทุกวันนี้จะไม่มีอยู่อีกต่อไปในปี 2030
เมาโร เอฟ. กิลเยน (Mauro F. Guillen)
ศาสตราจารย์ด้านการจัดการระหว่างประเทศ
อาจารย์ประจำวิทยาลัยวอร์ตัน และผู้เชี่ยวชาญด้านเทรนด์ตลาดโลก
ศึกษาแนวโน้มของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2030
เพราะแนวโน้มเหล่านี้ไม่เพียงแต่ชวนสับสนแต่ยังพาให้วิตกกังวล
มันหมายถึงหายนะของพวกเราหรือเปล่า
หรือเป็นไปได้ไหมว่าจะหมายถึงความรุ่งเรืองมากกว่าจุดจบ
หนังสือเล่มนี้จะนำเสนอแนวทางที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจนัยสำคัญของสถา
นการณ์อันซับซ้อนที่มีตัวแปรมากมาย และยังสื่อสารเรื่องอนาคตในแง่ดี

เมาโรยังวิเคราะห์ถึงโลกภายหลังการระบาดของโควิด-19
ว่าจะยิ่งส่งเสริมและยกระดับแนวโน้มสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2030
เพิ่มมากขึ้น แต่คำถามสำคัญที่มนุษยชาติต้องถามตัวเองก็คือโควิด-19
(หรือวิกฤตที่ยังมองไม่เห็นครั้งต่อไป)
จะทำให้เรามีความพร้อมมากขึ้นแค่ไหน
ในบทส่งท้ายของเล่มนี้จึงนำเสนอหลักการและวิธีการที่เราสามารถนำม
าใช้เพื่อทำความเข้าใจแนวโน้มอนาคต
และประสบความสำเร็จจากการคว้าโอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงชีวิต
ของเราในอีกไม่นานนี้