วาล์วผสมปุ๋ย แบบเวนจูรี่ VFI 1” วาล์วดูดปุ๋ย วาล์วผสมปุ๋ย Super Products ขนาด 1 นิ้ว
- แรงดันทางเข้าสูงสุด 5.5 บาร์
- แรงดันการใช้งาน 0.75 – 5.5 บาร์
- ความแตกต่างรงดันใช้งาน 25 – 75%
- อัตราการจ่ายปุ๋ย 105 – 550 ลิตร/ชม.
1.ไม่ต้องเดินรดปุ๋ยด้วยตัวเอง เป็นการประหยัดเวลา แรงงาน ปุ๋ยและน้ำ
2.พืชได้รับปุ๋ยอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ
3.ลดเครื่องมือและอุปกรณ์ในการใส่ปุ๋ย
4.ทำให้การเรื่องให้ปุ๋ยเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย
5.แรงดันน้ำที่ไหลผ่านจะทำให้เกิด Ventury เกิดแรงดึงทำให้ดูดปุ๋ย
6.สามารถใช้วาล์ลดูดปุ๋ย ไปพร้อมกับ ระบบน้ำหยด สปริงเกอร์ เหมาะกับ รดน้ำอ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง และพืชผักต่างๆได้ทุกชนิด
7.ใช้สำหรับผสมปุ๋ย และยาในระบบท่อ มีความแม่นยำ ได้สัดส่วนที่แน่นอน เที่ยงตรง
ประหยัด ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า
วาล์วผสมปุ๋ย (Ventury Fertilizer Injector Value)
สำหรับระบบที่ต้องการจ่ายปุ๋ย หรือสารเคมีโดยผ่านระบบรดน้ำไปยังพืชนั้น สามารถทำได้โดยใช้วาล์วผสมปุ๋ยหรือที่เรียกว่า เวนจูรี่อินเจคเตอร์ (Ventury Injector) เพื่อทำหน้าที่ดังกล่าวได้
วาล์วผสมปุ๋ยสามารถทำงานได้โดยการใช้หลักการของกาลักน้ำ หรือความแตกต่างของแรงดันทางเข้ากับทางออกทำให้เกิดแรงดูดขึ้น เพื่อให้วาล์วผสมปุ๋ยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจะต้องติดตั้งวาล์วผสมปุ๋ยให้ถูกต้อง โดยการติดตั้งสามารถทำได้หลายวิธีแต่ในที่นี้จะขอแนะนำวิธีที่เป็นที่นิยมและติดตั้งได้ง่ายที่สุดเท่านั้น โดยการติดตั้งจะต้องเข้าใจถึงวิธีการและข้อจำกัดในการติดตั้งเพื่อให้วาล์วสามารถดูดปุ๋ยได้อย่างมีประสิทธิภาพดังนี้
1.การติดตั้งวาล์วผสมปุ๋ยควรจะต้องติดตั้งแบบขนานกับท่อประธานเท่านั้น ไม่ควรติดตั้งแบบอนุกรมบนท่อประธาน เนื่องจากวาล์วผสมปุ๋ยจะทำให้อัตราการจ่ายน้ำของท่อประธานลดลงมาก
2.ขนาดของวาล์วผสมปุ๋ยจะต้องมีขนาดเล็กกว่าขนาดของท่อประธานอย่างน้อย 1 เท่า เช่น หากท่อประธานขนาด 2” วาล์วผสมปุ๋ยที่จะติดตั้งไม่ควรมีขนาดใหญ่กว่า 1” เนื่องจากจะทำให้เกิดความแตกต่วงของแรงดันทางเข้าออกได้ยากกว่า และการดูดปุ๋ยจะไม่มีประสิทธิภาพสูงพอ
3.ระยะการต่อทางเข้าออกจากท่อประธานกับวาล์วผสมปุ๋ย ควรมีระยะประมาณ 1 เมตร เป็นอย่างน้อย เพื่อให้การปรับแรงดันทางเข้าออกโดยวาล์วที่ท่อประธานทำให้เกิดความแตกต่างของแรงดันได้ดีขึ้น
4.ควรติดวาล์ว และเกจวัดแรงดันไว้ที่ก่อนทางเข้าของวาล์วผสมปุ๋ย และหลังทางออกของวาล์วผสมปุ๋ย ระหว่างการรดน้ำปกติซึ่งไม่ต้องการจ่ายปุ๋ยไปพร้อมกับน้ำควรปิดวาล์วทั้งสองนี้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลย้อนออกทางดูดของวาล์วจ่ายปุ๋ย
5.วาล์วผสมปุ๋ยจะดูดช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความแตกต่างของแรงดันทางเข้า และออกของวาล์วผสมปุ๋ย ยิ่งแตกต่างมากก็จะดูดเร็ว หากแตกต่างน้อยก็จะดูดช้า ตามรูปการณ์ต่อด้านล่างนี้ หากต้องการให้เกิดความแตกต่างของแรงดันก็สามารถทำได้โดยหรี่วาล์ว (LV 1) ที่อยู่บนท่อประธานลง หากหรี่มากความแตกต่างของแรงดันก็จะสูงขึ้นทำให้วาล์วดูดปุ๋ยเร็วขึ้น หากหรี่น้อยความแตกต่างของแรงดันก็จะน้อยลง ทำให้ดูดปุ๋ยช้าลง อย่างไรก็ดีขณะให้ปุ๋ยไปพร้อมกับวาล์วผสมปุ๋ยนี้จะทำให้อัตราการไหลของระบบลดลงเนื่องจากมีการหรี่วาล์วที่ท่อประธาน ดังนั้นรัศมีการรดน้ำ หรืออัตราการจ่ายน้ำที่หัวจ่ายน้ำจะลดลง ทำให้การรดน้ำอาจจะไม่ทั่วถึงตามที่ระบบได้ออกแบบไว้ ดังนั้นควนเปิดใช้วาล์วผสมปุ๋ยเฉพาะเวลาที่ต้องการให้ปุ๋ยเท่านั้น ในเวลารดน้ำปกติควรปิดวาล์วทางเข้าออกของวาล์วผสมปุ๋ยไว้ และเปิดวาล์วที่ท่อประธาน (LV 1) ให้เต็มที่