พระพุทธรูปจีวรลายดอกพิกุลในสมัยรัตนโกสินทร์
ศิลปะกรรมในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้นส่วนใหญ่มักได้รับอิทธิพลมาสืบทอดมาจากศิลปะอยุธยาทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ครั้นถึงราวสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ศิลปะในราชสำนักเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงคือการได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน จนรูปแบบทางสถาปัตยกรรม ประติมากรรมเริ่มมีศิลปะจีนเข้ามาปะปน ซึ่งถือได้ว่าอิทธิพลของศิลปะจีนได้รับความนิยมสูงสุดในราชสำนักจนถือได้ว่าเป็นศิลปะแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกลางที่ ๓
เมื่อเข้าสู่แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ศิลปะวิทยาการจากตะวันตกได้หลั่งไหลเข้ามาสู่แผ่นดินสยามมากยิ่งขึ้น ทำให้องค์ความรู้และคตินิยมต่างๆแพร่หลายเข้าสู่ราชสำนัก ศิลปกรรมในสมัยนี้จึงได้รับอิทธิพลจากตะวันตกมากขึ้น ซึ่งเป็นรูปแบบที่เรียกว่า"สัจจะนิยม"โดยเป็นการงานศิลปะที่มีความเสมือนจริงมากยิ่งขึ้น ศิลปะพระราชนิยมในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนี้จึงมีความแปลกใหม่จากศิลปะดั้งเดิม อย่างเช่นในการสร้างพระพุทธรูปที่มักจะนิยมให้ห่มคลองจีวรที่มีริ้วทบแบบธรรมชาติ และปรับเปลี่ยนพุทธลักษณะบางประการเช่น ให้พระกรรณสั้นแบบผู้คนปกติหรืการสร้างพระพุทธรูปที่ไม่มีพระอุษณียะ

• รับฟรี!!ของวัตถุมงคลทุกคำสั่งซื้อ อาธิ เช่น เหรียญพระพิฆเนศ เหรียญพระสมเด็จ และอื่นๆ
• วัตถุมงคลทุกรายการปลุกเสกทำพิธีแล้วหลายวาระ และได้ทำการบวงสรวงเพื่อเรียกให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รักษาวัตถุมงคลนั้น เป็นประจำทุกเดือน
วีธีอาราธนาวัตถุมงคล
• การรักษาอานุภาพวัตถุมงคลที่ปลุกเสกแล้วให้อยู่กับตัวนั้น ผู้ที่บูชาวัตถุมงคลไป ต้องมีศีล ๒ ข้อ บริสุทธิ์ คือห้ามกินเหล้า และห้ามลักขโมย ตอนเช้าต้องสวดมนต์ไว้พระ ระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อาราธนาบารมีของท่าน ลงมาเป็นเกราะคลุมกายเรา ภาวนา "พุทโธ" ให้ใจสบาย แล้วกลืนน้ำลาย ๓ ครั้ง ถ้าทำแบบนี้ได้ทุกวัน อานุภาพของยันต์ จะคุ้มครองรักษาให้ท่านมีความปลอดภัยทุกประการ...