ไบโอติน(Biotin) หรือวิตามินเอช(Vitamin H) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ เป็นสมาชิกหนึ่งในกลุ่มของตระกูลวิตามินบีรวม ไบโอตินทำงานเสริมกันกับวิตามินบี2 วิตามินบี6 ไนอะซิน และวิตามินเอ มีส่วนสำคัญต่อการเผาผลาญไขมันและโปรตีน มีส่วนช่วยในการผลิตพลังงาน เนื่องจากไบโอตินช่วยพัฒนาในส่วนของการใช้น้ำตาลในร่างกาย ร่างกายสามารถสังเคราะห์ไบโอตินได้จากแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่
ไบโอติน จำเป็นสำหรับกระบวนการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ให้แก่สารประกอบ หรือเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากสารประกอบ จำเป็นสำหรับการสังเคราะห์กรดไขมันไม่อิ่มตัว จำเป็นสำหรับการสังเคราะห์เอนไซม์ของร่างกาย ช่วยบำรุงผิวหนัง ผม กล้ามเนื้อ และประสาท
ประโยชน์ที่ร่างกายได้รับจาก ไบโอติน
ทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ในกระบวนการต่างๆ ของร่างกาย เช่น การเผาผลาญของร่างกาย การสร้างกรดไขมัน
ช่วยผลิตฮอร์โมนเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ และอินซูลิน
ช่วยป้องกันผมหงอก ฟื้นคืนผมหงอกให้เป็นผมดำ ทานร่วมกับวิตามินพาบา(Paba) 6-12 เดือนขึ้นไป
ช่วยในการป้องกันและรักษาโรคเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศรีษะล้าน
บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ช่วยในการรักษาสุขภาพผิวพรรณ ผม ต่อมเหงื่อ และกระดูกอ่อน
บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ ผื่นคัน
ช่วยป้องกันและรักษาเล็บเปราะแห้ง

โรคที่เกิดจากการขาดไบโอตินเกิดฝื่นผิวหนังอักเสบบริเวณหน้าและตัว อ่อนเพลียหมดเรี่ยวแรง กระบวนการเผาผลาญไขมันไม่สมบูรณ์ เบื่ออาหาร ผมร่วง ซึมเศร้า อาเจียน ระดับคอเลสเตอรอลสูง โลหิตจางแม้จะได้รับธาตุเหล็กเพียงพอ การขับปัสสาวะลดลง
สาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ร่างกายขาดไบโอติน คือ การรับประทานไข่ขาวดิบ โดยจะทำให้ร่างกายลดการดูดซึมของไบโอติน
ปริมาณที่ควรได้รับไบโอติน 25 - 300 ไมโครกรัมต่อวัน, การเสริมอาหารด้วยไบโอตินขนาด 300 - 1,000 ไมโครกรัมต่อวัน จะช่วยพัฒนาการตอบสนองของอินซูลินได้ จึงแนะนำสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน