🔥🔥🔥黑白无常🔥🔥🔥
✨ขอฟ้าไม่ได้ ให้มาขอที่เรา✨
#ตั่วแปะหยี่แปะ
#ยมทูตขาว_ยมทูตดำ #ลุงเจ็ด ลุงแปด
#เหรียญรวยอย่างเดียว
โชคลาภ ลาภลอย การเสี่ยงโชค
สัมฤทธิ์ผล ได้ดั่งใจ..

#เหรียญตั่วหยี่แปะ เข้าพิธี ๕ วาระ
๑.พิธีนพเคราะห์ วัดจุฬามณี ๒๖ ธ.ค. ๖๔
๒.พิธีพุทธาภิเษก วัดจุฬามณี ๔ ก.พ.๖๕
๓.พิธีพุทธาภิเษก วัดจุฬามณี ๖ มี.ค.๖๕
๔.พิธีเบิกเนตร มูลนิธิสรรพราเชนทร์ ๒๓ เม.ย. ๖๕
๕.พิธีพุทธาภิเษก วัดจุฬามณี ๒๕ เม.ย. ๖๕

⚪️ยมทูตขาว-ยมทูตดำ⚫️
ตำนานสองเทพอสูรผู้บันดาลความมั่งคั่งร่ำรวยและความเป็นสิริมงคล🙏
ปกป้องคุ้มครองจากความชั่วร้าย ภูตผีปีศาจ คุณไสยมนต์ดำซึ่งจะทำร้ายรังควานผู้บูชาให้หมดสิ้นไป..
..............................………………………………............

ชาวจีนเชื่อว่าการกำเนิดของเทพเจ้าต่างๆในจักรวาลมาจากบุคคลผู้ซึ่งประกอบคุณงามความดีไว้ครั้นเมื่อมีชีวิตอยู่ภายหลังจากที่สิ้นชีพตักษัยไปแล้วดวงวิญญาณของคนผู้นั้นก็จะมีการจุติในเทวโลกภายใต้พระเทวบัญชาของพระเง็กเซียนฮ่องเต้อันเป็นมหาพรหมเทพราช และคอยช่วยเหลือเหล่ามวลมนุษย์ในสังสารวัฏให้พ้นซึ่งทุกขเวทนาตามบทบาทหรือเทวอำนาจที่ตนได้รับ

ซึ่งชาวจีนเชื่ออีกว่า.. นอกจากเทพเจ้าในสวรรค์ชั้นฟ้าและบนพื้นดินแล้วยังมีคณะเทพอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีวิมานของตนในยมโลก คณะเทพเหล่านี้โดยส่วนใหญ่มักมีหน้าที่ในการตัดสินและพิพากษาบาปบุญของเหล่าดวงวิญญาณผู้วายชนม์ ให้ได้รับความยุติธรรมตามเวรกรรมที่ตนได้ทำมา หากผู้ใดทำดีจะได้รับการส่งตัวไปยังเทวโลกหรือในสำนักของพระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์หากผู้ใดกระทำซึ่งความชั่วแล้วจะถูกพิพากษาและส่งตัวไปลงทัณฑ์ยังดินแดนยมโลกขุมต่างๆโดยเนื้อความจากเทวปกรณัมจีนแล้ว จะมีการแบ่งดินแดนยมโลกเป็นหลายๆแดนแต่แดนที่เป็นหน้าด่านในการพิพากษานั้นจะเป็นดินแดนที่สามซึ่งมีพระเหงี้ยมล่ออ๋อง (พระยมในคติความเชื่อของชาวจีน) เป็นประมุขพร้อมด้วยคณะสุภา อันประกอบด้วย องค์พระไต่ซื้อเอี๋ยก้ง (ผ้อต่อก้ง) และเทพผู้รักษาบันทึกบาปบุญอีกสองท่าน มีพระนามว่า #เจี่ยแปะบู๊เอี๋ย (ยมทูตขาว) และ #หวนเฮ๊กบู๊เอี๋ย (ยมทูตดำ) ซึ่งชาวจีนเชื่อกันว่าท่านทั้งสองนั้นจะเป็นเทพเจ้าผู้เชื่อมโลกมนุษย์และโลกวิญญาณให้ถึงกัน..🐉👺

เทวลักษณะของเทพเจ้าทั้งสององค์นี้ ตามเทวปกรณัมของชาวจีนระบุไว้ว่า ยมทูตขาวหรือแปะบู๊เอี๋ย (บ้างก็เรียกโป๊ยบู๊สินกุ๋ย) เดิมแซ่เจี่ย มีเทวลักษณะเป็นบุรุษสวมเครื่องแต่งกายเป็นชุดคลุมจีนโบราณสีขาวยาว สวมศิริภรณ์เป็นหมวกทรงสูงสีขาวจารึกอักษรซึ่งแปลความได้ว่า “พบเจอแล้วมีโชค”ไว้ด้านหน้าของหมวกใบหน้าและผิวกายมีสีขาวซีดดุจซากศพเช่นเดียวกันชิวหาแสดงอาการแลบออกจากโอษฐ์ยาวจนถึงศอ ดูแล้วน่าเกรงขาม ดวงตาแสดงความดุดันร่างกายดูสูงชะลูด ในหัตถ์มักจะทรงอาวุธเป็นกระบอง ส่วนพระยมทูตดำ หรือเฮ๊กบู๊เอี๋ย (บ้างก็เรียก ชิกบู๊สินกุ๋ย) เดิมแซ่หวนมีเทวลักษณะเป็นบุรุษสวมเครื่องแต่งกายเป็นชุดคลุมจีนโบราณสีดำยาวสวมศิราภรณ์เป็นหมวกทรงสั้นสีดำ ใบหน้าและผิวกายมีสีดำสนิท ร่างกายดูกำยำล่ำสันดวงตาและสีหน้าแสดงความดุดัน ในหัตถ์ถือโซ่ตรวนล่ามวิญญาณและค้อนที่เอวเหน็บลูกคิดอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการคิดคำนวณในบุญและบาปของเหล่าดวงวิญญาณผู้วายชนม์อย่างยุติธรรม

ท่านทั้งสองนอกจากจะเป็นเทพอสูรในคณะสุภาแห่งการพิพากษาบาปบุญแล้วชาวจีนยังเชื่อว่าท่านทั้งสองคือเทพเจ้าผู้อำนวยโชคลาภและความมั่งคั่งจากสัมปรายภพด้วยนอกจากนั้นยังรวมไปถึงการปกป้องคุ้มครองจากความชั่วร้าย ภูตผีปีศาจ คุณไสยมนต์ดำซึ่งจะทำร้ายรังควาญผู้บูชาให้หมดสิ้นไปจึงได้มีคณะผู้ศรัทธาจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะในแถบประเทศไต้หวัน ฮ่องกงและชาวจีนในปีนัง จนมาถึงชาวจีนในภาคใต้ของประเทศไทยมีการนำพระเทวรูปของท่านทั้งสองมาบูชาอย่างเป็นเอกภาพแต่ก็ยังมีบ้างที่มีการบูชารวมกับคณะของเทพเจ้าไต่ซื้อเอี๋ยก้ง (ผ้อต่อก้ง) ดังเช่นศาลเจ้าผ้อต่อ (บางเหนียว) ในจังหวัดภูเก็ตได้แสดงให้เห็นถึงคติการนับถือเทพเจ้าในคณะนี้อย่างเด่นชัด และมีการจัดเทศกาลการบูชาอย่างยิ่งใหญ่เจ็ดวันเจ็ดคืนในทุกๆปีหรือที่เรียกกันว่าเทศกาลงานผ้อต่อ ซึ่งในเทศกาลนี้ชาวจีนเชื่อกันว่าขุมนรกจะปลดปล่อยเหล่าดวงวิญญาณให้มารับบุญกุศลจากพิธีโยคเปรตพลีบนโลกมนุษย์โดยมีคณะเทพเจ้าไต่ซื้อเอี๋ยคอยขึ้นมาควบคุมมิให้ดวงวิญญาณเหล่านี้ไปก่อความเดือดร้อนโดยส่วนใหญ่จะมีการนำขนมเต่าที่ทำจากแป้งทาสีแดง , เป็ดย่างทั้งตัวรวมไปถึงผลไม้และเครื่องบูชาต่างๆไปเพื่อสักการะเทพเจ้าคณะนี้โดยหวังอานิสงค์ให้ท่านได้คุ้มครองตนเองและครอบครัวให้บังเกิดความสุขความเจริญอายุวัฒนา อุดมด้วยเงินตราและทรัพย์ศฤงคาร🙏🙏