ขนาด22กรัม 149 บาท
บรรจุในขวดพร้อมใช้งาน
ปลูกและเก็บผลผลิตในประเทศไทย แท้100%
พริกบุตโจโลเกีย (bhut jolokia) เรียกกันในชื่อท้องถิ่นหลากหลายชื่อ ที่รู้จักกันทั่วไปคือ นากาโจโลเกีย (naga jolokia) บ้างก็เรียก บิห์โจโลเกีย (Bih Jolokio) ที่หมายถึง พริกปีศาจ (ghost chili) มีถิ่นกำเนิดในรัฐอัสสัม ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ที่ได้ชื่อว่าเป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก เพราะจำนวนเพียงน้อยนิดของพริกชนิดนี้ก็ปรุงแต่งรสชาติที่เผ็ดร้อนเข้มข้นจนน้ำหูน้ำตาไหลพลั๊กๆ กันทีเดียว

พริกบุตโจโลเกีย ถือได้ว่าเป็นพืชพันธุ์ที่มีค่าของรัฐอัสสัม ที่ไม่เป็นที่รู้จักของชาวตะวันตกมาก่อน เมื่อเจ็ดปีที่แล้วนักวิทยาศาสตร์ชื่อ อาร์.เค.อาร์. ซิงห์ (R.K.R Singh) ผู้ทำงานในห้องปฏิบัติการวิจัยความมั่นคงของรัฐบาลอินเดียใน เทซปุระ (Tezpur) รัฐอัสสัม ตัดสินใจศึกษาพริกที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมนี้โดยการส่งตัวอย่างไปวิเคราะห์ ผลการวิเคราะห์ที่น่าทึ่งนี้ได้ตีพิมพ์ในวารสารทางวิทยาศาสตร์และกระตุ้นความสนใจของ The Chile Pepper Institute (CPI) แห่งมหาวิทยาลัยรัฐนิวเม็กซิโก
หลังจากนั้นไม่นาน ในปี ค.ศ. 2001 สถาบันแห่งนี้ได้นำเมล็ดของพริกบุตโจโลเกียที่รวบรวมมาจากคณะที่ไปเยือนอินเดีย ดร.พอล บอสแลนด์ (Paul Bosland) แห่งสถาบัน CPI ได้เพาะเมล็ดพริกนี้ขึ้นในภูมิอากาศอันแห้งแล้งทางตอนใต้ของนิวเม็กซิโก และยืนยันถึงความเผ็ด
ร้อนอย่างไม่อยากจะเชื่อ ที่ทำให้พริกแห่งนี้ได้รับรางวัลบันทึกสถิติ (Record Award) ที่เป็นที่สุดของความเผ็ดร้อนในโลก

ผลการวิเคราะห์ได้เปิดเผยว่า พริกชนิดนี้มีระดับความเผ็ดอย่างสุดขีด วัดโดยหน่วยความเผ็ดร้อนสโกวีล (Scoville Heat Unit – SHU) ถึงระดับ 1,001,304 SHU เผ็ดเป็นสองเท่าของพริกเรดซาวีนา (Red Savina) ที่เคยทำสถิติไว้ก่อน และในปี ค.ศ. 2007 ก็ได้รับการรับรองโดย Guinness World Records ให้เป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก โดยเผ็ดมากกว่าซอสตาบาสโก (Tabasco) ถึง 400 เท่า

พริกบุตโจโลเกียนี้มีขนาดความยาวประมาณ 25-30 มิลลิเมตร รูปร่างค่อนข้างป้อม ส่วนปลายเรียว ผิวดูยับย่น เมื่อแก่จัดมีสีส้มหรือสีแดง ชื่อเสียงของพริกชนิดนี้อาจฟังดูน่ากลัวสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับคนท้องถิ่นชาวชาวอัสสัมคุ้นเคยกับพริกชนิดนี้มานาน คนที่นี่เขานำพริกพริกบุตโจโลเกียมาทำซอสพริกบ้าง พริกดองบ้าง และทานกันสด ๆ เป็นผักแก้มกับอาหารอื่นๆ ใครที่ชื่นชอบความเผ็ดร้อนแบบท้าทายอย่างนี้ก็ต้องลองหามาลิ้มรสพิสูจน์ดูกันซะแล้ว เผื่อชีวิตจะเข้าถึงรสชาติแบบขีดสุดกันบ้าง