ดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยกาแฟ : DeCoff by GM GreenLife
กาแฟชงละลายทันที ไม่มีกาก ตรา ดีค็อฟ
(DeCoff :บรรจุ 15 ซอง ซองละ5กรัม)
ราคา 150 บาท

กาแฟนี้สามารถนำไปชงดื่มได้ปกติ ไม่จำกัดเฉพาะทำดีท็อกซ์เท่านั้น

อุปกรณ์สำหรับการ Detox ลำไส้ด้วยกาแฟ
1. ชุดอุปกรณ์ขวดสำหรับทำ Detox
2. กาแฟชงละลายทันที ไม่มีกาก
3. น้ำเปล่าสะอาด
4. น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น, K-Y เจลหล่อลื่น (สำหรับมือใหม่เริ่มทำดีท็อกซ์)

เตรียมตัวอย่างไรก่อนทำ Detox?
ควรดื่มน้ำเยอะๆ เพราะการทำ Detox นั้น ร่างกายของเราจะสูญเสียน้ำในปริมาณมาก หากเป็นคนที่ดื่มน้ำน้อย อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนได้ เนื่องจากเสียน้ำมาก

ขั้นตอนในการทำ Detox
**แขวนขวดดีท็อกซ์ให้สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร หรือให้พอดีกับพื้นที่นอน ไม่ให้สายจึงจนเกินไป ควรทำในห้องน้ำที่มีพื้นที่ เพื่อที่จะสะดวกในการถ่าย หรือห้องที่ใกล้ห้องน้ำ
1. ฉีกซอง DeCoff 1 ซอง เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ กดน้ำร้อนจากกระติกน้ำร้อน / ต้มน้ำ (หรืออุ่นน้ำจากไมโครเวฟ) ลงในภาชนะ คนให้เข้ากัน
2. นำขวดดีท็อกซ์ที่เตรียมไว้เลื่อนปุ่มล็อคมาล็อคสายยางไว้เพื่อกันไม่ให้น้ำไหลออกมา
3. เทน้ำเปล่าลงในขวด Detox ประมาณ 500cc จากนั้นให้เทกาแฟที่ชงไว้เทตามลงขวด (จับที่ขวดให้อุณหภูมิของน้ำในขวดไม่ร้อนจนเกินไป) ให้ได้ปริมาณ 1,000cc
4. ทาน้ำมันมะพร้าว หรือ เจลหล่อลื่นที่ปลายสายยางสำหรับผู้เริ่มต้น เพื่อสะดวกในการสอดเข้าทางรูทวารโดยไม่เสียดสี
5. ปลดล็อคสายที่ล็อคไว้เพื่อไล่อากาศที่ค้างอยู่ให้กาแฟเริ่มไหลออกมาตามสาย จากนั้นให้เลื่อนตัวแผ่นล็อคลงมาบริเวณปลายสายยางเพื่อสะดวกในการปรับขณะทำการ Detox
6. นอนตะแคงขวาแล้วนำสายยางสอดเข้าไปทางรูทวารประมาณ 2นิ้ว แล้วจึงค่อยๆปลอดล็อคสายยางให้น้ำกาแฟไหลเข้าไป กะปริมาณน้ำไม่ให้ไหลเร็วจนเกินไป ค่อยๆปล่อยกาแฟไหลเข้าไปเรื่อยๆจนหมดขวดแล้วจึงนำสายออก
7. นอนหงายราบกับพื้น ใช้มือนวดวนเป็นวงกลมบริเวณท้องน้อยเบาๆประมาณ 5 นาที จะช่วยให้สารพิษที่เกาะตามผนังลำไส้หลุดออกมาได้ง่ายขึ้น จากนั้นจึงไปถ่ายตามปกติ
[ หากมือใหม่ยังไม่สามารถกลั้นได้ถึง 5นาที สามารถกลั้นเท่าที่ไหว ซึ่งระยะเวลาที่เหมาะสมในการกลั้นกาแฟคือ 10 นาที ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายของเราดูดซึมกาแฟให้ได้ผลที่สุด]


หลังทำ Detox ควรทำอย่างไร?
ล้างขวดและภาชนะให้สะอาดทุกครั้ง แล้วผึ่งลมให้แห้ง สามารถใช้ได้หลายครั้ง ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาและใช้งาน

คำแนะนำเพิ่มเติม
ควรทำ Detox ตอนไหน?
ช่วงเช้า ประมาณตี 5 - 7 โมงเช้า หรือช่วงค่ำ (แนะนำให้ทำช่วงเช้าจะได้ผลดีที่สุด)

เป็นคนท้องผูก / ถ่ายได้ไม่เยอะ ทำอย่างไร?
สำหรับมือใหม่หัด Detox อาจจะยังไม่ชำนาญ หรือในบางท่านท้องผูก จึงถ่ายออกมาได้ไม่เยอะ สามารถทำต่อเนื่องได้เรื่อยๆจนกว่าร่างกายจะปรับสภาพ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ผิวพรรณจะดีขึ้น อาการสิวหรือความหมองลดลงเพราะล้างสารพิษออกจากร่างกาย แนะนำให้ทานปรับการทานอาหารประจำวันเพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น สามารถทำได้ 2 - 3 ครั้งต่อสัปดาห์


บุคคลที่ไม่ควรทำ
1. ผู้ป่วยที่มีปัญหาระบบลำไส้ใหญ่ เช่น ลำไส้ใหญ่อักเสบ อุดตัน มะเร็งลำไส้
2. ผู้ที่ผ่านการผ่าตัดลำไส้ โดยเปิดลำไส้ให้ขับถ่ายทางหน้าท้อง
3. ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงรุนแรง
4. เด็กเล็ก / เด็กในวัยเจริญเติบโต
5. สตรีมีครรภ์
6. ผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลียมาก
7. ผู้ป่วยช่องท้องอักเสบ

ข้อดีของการทำ Detox ล้างพิษลำไส้
1. ช่วยทำความสะอาดลำไส้ อุจจาระ แบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย และสารพิษต่างๆจะถูกชะล้างออกไป ซึ่งในระยะยาวร่างกายก็จะไม่เกิด การสะสมสารพิษเหล่านี้ เมื่อสารพิษเหล่านี้ถูกกำจัดออกไปลำไส้จะ สามารถทำงานได้ตามปกติ
2. เป็นการบริหารกล้ามเนื้อลำไส้ ของเสียที่ตกค้างมีผลทำให้ลำไส้อ่อนแอลงและทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ การล้างลำไส้จึงเป็นการช่วยส่งเสริม กล้ามเนื้อลำไส้ให้ทำงานได้มากขึ้น โดยปกติลำไส้มีหน้าที่กำจัดของเสีย ก็อาจเป็นไปโดยไม่สมบูรณ์ กล้ามเนื้อลำไส้ที่แข็งแรงและทำงานได้ อย่างเป็นจังหวะจะช่วยทำให้การผลักดันของเสีย เช่น กากอาหารและ อุจจาระออกจากลำไส้ได้เร็วขึ้น และไม่เกิดสารตกค้างจนกลายเป็นพิษ
3. ทำให้ลำไส้มีขนาดเป็นปกติ เมื่อลำไส้ทำงานอย่างผิดปกติจะส่งผลให้โครงสร้างและขนาดลำไส้เปลี่ยนไป ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา การสวนล้างลำไส้ ช่วยให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนตัวช่วยลด อาการบวมหรือโป่งพองของลำไส้ อันเนื่องมาจากการที่มีของเสียอุดตัน บริเวณนั้น ทำให้ลำไส้มีรูปร่างปกติตามธรรมชาติ ซึ่งการรักษาทางยา หรือการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ อาจทำให้ลำไส้กลับคืนสู่รูปทรงปกติได้เพียง ระยะสั้นเท่านั้น
4. กระตุ้นจุดตอบสนองของระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งอวัยวะทุกส่วนจะมีการทำงานเชื่อมต่อกับลำไส้โดยจุดตอบสนอง การล้างลำไส้เป็นการช่วยกระตุ้นจุดที่ว่านี้ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกาย โดยรวม เช่น ตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน ไต ต่อมน้ำเหลืองและการหมุนเวียน ของเลือด เป็นต้น
5. ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำ 60-70% การสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือแร่ ร่างกายโดยรวมจะ สามารถดูดซึมน้ำเหล่านั้นไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ เพื่อให้เซลล์เหล่านั้น ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับละลายและเจือจาง เมือกที่สะสมอยู่ในผนังลำไส้ให้ขับออกได้สะดวกขึ้น