ป๋องแป๋งหน้ายู่.....
ข้อมูลสินค้า
ราคา
95.00 76.00 บาท
ร้านค้า
ป๋องแป๋งหน้ายู่
นิทานภาพคำกลอน สอนให้เด็กรู้จักจัดการกับความหงุดหงิด ผิดหวัง
ขนาดรูปเล่ม8 x 8 นิ้ว จำนวนหน้า24 หน้า (ไม่รวมปก) ฝึกลูกจัดการอารมณ์หงุดหงิด ผิดหวัง และแสดงออกอย่างเหมาะสม ผ่านนิทานภาพคำกลอนป๋องแป๋งตัวละครสุดฮิตที่เด็กชื่นชอบ พร้อมแนะนำวิธีในการสอนลูกรับมืออารมณ์โกรธ ช่วยพัฒนาทักษะสมอง EF ด้านควบคุมอารมณ์ (Emotional Control) และจดจำนำไปใช้ (Working Memory)
ป๋องแป๋งหน้ายู่
เด็กจะเติบโตขึ้นมามีบุคลิกภาพ นิสัยอย่างไรนั้น ล้วนมาจากครอบครัว การอบรมเลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อมที่หล่อหลอมให้เด็กแต่ละคนมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่แตกต่างกัน พ่อแม่ควรปล่อยให้ลูกได้แสดงออกทางอารมณ์บ้าง และควรอยู่เคียงข้างลูก คอยปลอบโยน ชี้แนะให้ลูกผ่านพ้นช่วงเวลาแย่ ๆ ไปด้วยกัน เพื่อให้ลูกมีความมั่นคงทางอารมณ์และจิตใจ เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณค่าในสังคม
ป๋องแป๋งหน้ายู่ นิทานภาพคำกลอน พัฒนาทักษะสมอง EF ด้านจดจำเพื่อใช้งาน (Working Memory) เด็กได้จดจำและเรียนรู้เรื่องการแสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสม ด้านควบคุมอารมณ์ (Emotional Control) เด็กจะรู้จักควบคุมและแสดงออกทางอารมณ์ให้ผู้ใหญ่ได้รับทราบ เพื่อให้ช่วยกันหาทางออกจากปัญหาที่สร้างให้อารมณ์ขุ่นมัว
เริ่มต้นตั้งแต่ในท้องและที่บ้าน
เด็กทุกคนก่อนลืมตาดูโลก ล้วนมีลักษณะและพื้นอารมณ์ (temperament) เฉพาะตัวกันมาตั้งแต่เมื่อปฏิสนธิอยู่ในท้องแม่ เด็กบางคนเลี้ยงง่าย อารมณ์ดี ใจเย็น เข้ากับผู้อื่นได้ง่าย บางคนเลี้ยงยาก ป่วยง่าย เจ็บง่าย หงุดหงิด ใจร้อน ซึ่งพื้นอารมณ์เป็นผลมาจากหลายอย่าง ส่วนใหญ่คือ พันธุกรรม สภาวะขณะที่อยู่ในครรภ์ เมื่อคลอดออกมาแล้วการอบรมเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อมของเด็กเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะก่อรูปปลูกนิสัยและมีผลต่อชีวิตของเด็กคนนั้น
นอกจากพื้นอารมณ์ที่ติดตัวมาแล้ว ยังมีธรรมชาติตามแต่ละช่วงวัยอีก เช่น เด็กในขวบปีแรกจะติดแม่, 2 ขวบ เริ่มผจญภัย บางทีก็งอแง, 3 ขวบ อยากได้รับคำชมจากผู้ใหญ่, 4 ขวบ ชอบท้าทาย อยากให้มีคนสนใจ, 5 ขวบ เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น รู้จักชื่นชมผลงานของตัวเองและผู้อื่น นอกจากนี้ยังมีพัฒนาการด้านอารมณ์ด้วย เด็กทุกคน
มีความรู้สึกนึกคิด คือ อารมณ์ด้านบวก (รัก ชอบ ดีใจ สนุก ภูมิใจ พอใจ) อารมณ์ด้านลบ (โกรธ กังวล กลัว อิจฉา เศร้า เสียใจ) และรู้สึกกลาง ๆ (เฉย ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ) เราควรสอนให้ลูกรู้จักชื่อเรียกของอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ
ให้สื่อได้ถูกต้อง ถ้าลูกใช้คำพูดสื่อสารได้ ก็ไม่เก็บกดอารมณ์นั้นไว้ภายใน
เราควรทำให้ลูกรู้สึกได้ว่าพ่อแม่เลี้ยงลูกด้วยความรัก ความเอาใจใส่และเปิดใจเพื่อที่จะได้เข้าใจลูก พร้อมยืนเคียงข้างลูกเสมอเมื่อลูกรู้สึกไม่สบายกายไม่สบายใจ และในยามที่ลูกต้องเผชิญกับปัญหา เราควรเปิดพื้นที่ให้ลูกได้สื่อด้วยภาษากายเพื่อสื่อให้เราทราบ เช่น เมื่อลูกทำหน้ายู่หน้าย่น หรือแสดงท่าทีฮึดฮัด เราจะได้เข้าใจภาวะอารมณ์ของลูกเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีขึ้น
ไม่ควรห้ามลูกว่า “หยุดนะ อย่าร้องไห้ เงียบเลยนะ” แต่ควรบอกว่าให้ทำสิ่งใดแทน เช่น “พูดนะลูก อย่าร้อง” “เดินนะลูก อย่าวิ่ง” ฯลฯ พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูก ทั้งด้านทัศนคติ ความคิด การกระทำ บุคลิกภาพ ท่าทาง ควรชื่นชมทันทีเมื่อลูกทำถูกทำดี เพื่อให้ลูกรู้และมีความภูมิใจมั่นใจในตนเอง ซึ่งจะช่วยให้ลูกมีอารมณ์มั่นคง มีสุขภาวะทางอารมณ์ที่ดี