อาร์แซน ลูแปง ปะทะ เชอร์ล็อค โฮล์มส์ (ปกแข็ง) (Arsene Lupin Contre Herlock Sholmes)
ข้อมูลสินค้า
ราคา
480.00 456.00 บาท
ขายแล้ว
34 ชิ้น
ร้านค้า
อาร์แซน ลูแปง ปะทะ เชอร์ล็อค โฮล์มส์
Arsene Lupin Contre Herlock Sholmes
ผู้เขียน: Maurice Leblanc (โมริซ เลอบลอง)
ผู้แปล: ดารณี เมืองมา
สำนักพิมพ์: ทับหนังสือ
หนังสือมือหนึ่งสภาพดี
จำนวนหน้า 360 หน้า
9786165821582
+++ รายละเอียดหนังสือ +++
อาร์แซน ลูแปง จอมโจรสุภาพบุรุษ แบบฉบับฝรั่งเศส
แปลจากต้นฉบับภาษาฝรั่งเศส
ขนาดหนังสือ 13.00 X 18.50 ซม.
ปกแข็งสันโค้ง พิมพ์จำนวน 300 เล่ม
อาร์แซน ลูแปงเป็นพระเอกที่น่ารักและเป็นแบบฉบับที่แท้จริงของความคิดแบบฝรั่งเศสตอนต้นศตวรรษ อีฟ มงตองด์เคยร้องเพลงชื่ออาร์แซน ลูแปงจอมโจรผู้ดีและแน่นอนว่าเสน่ห์ของอาร์แซน ลูแปงนั้นขึ้นอยู่กับการเป็นคนมีลักษณะสองแบบในตัว นั่นคือ เขาเป็นทั้งหัวขโมยและหนุ่มสังคม ผู้ชายเจ้าชู้และนักเลง สำหรับผู้อ่านทั้งชายและหญิงในสมัยนั้น ลักษณะนักเลงของเขานั้นทำให้เกิดความรู้สึกซาบซ่านไปทั่วทุกขุมขน เช่นเดียวกับความรู้สึกแบบเดียวกันของเหล่าชนชั้นกลางชาวกรุงที่ชอบไปเที่ยวคาบาเรต์แถวมงมาร์ตและคบหาสมาคมกับพวกอันธพาล และสาวๆ
เรามาย้อนไปในบริบทของยุคนั้นสักนิดเถอะ นวนิยายเรื่อง อาร์แซน ลูแปงปะทะเชอร์ล็อค โฮล์มส์ มีสองเรื่อง เรื่องสาวผมทองตีพิมพ์ครั้งแรกในปีค.ศ.1906 ส่วนเรื่อง ตะเกียงยิว ในปีค.ศ.1907 นวนิยายทั้งสองเรื่องนี้เขียนลงเป็นตอนๆในหนังสือพิมพ์ชื่อ Je sais tout (ข้ารู้ทุกอย่าง) ก่อนนำมารวมกันเป็นเล่มใน อาร์แซน ลูแปงปะทะเชอร์ล็อค โฮล์มส์ ในปีค.ศ. 1908 เราจึงอยู่ในยุคต้นๆ ของศตวรรษที่ยี่สิบ สมัยที่เรายังมองโลกในแง่ดีอยู่ ก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ตอนนั้นผู้คนล้วนมีงานทำ และค้นพบผลดีของการปฏิวัติอุตสาหกรรมเช่น รถไฟ รถยนต์ การถ่ายรูป และการเริ่มต้นของภาพยนตร์ เป็นต้น การมองโลกในแง่ดีสดใสเหมือนท้องฟ้าที่ปราศจากเมฆจนผู้คนไม่สังเกตเห็นผลเสียของการเข้าสู่อุตสาหกรรม เช่น มลภาวะและการทำงานที่ทำให้สูญเสียศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เป็นต้น คนร่วมสมัยของโมริซ เลอบลองผู้แต่ง คือจูล แวร์น นักเขียนและจอร์จ เมลิเอส นักสร้างภาพยนตร์ ดังนั้นจึงเป็นยุคทองของจินตนาการที่ได้รับการกระตุ้นจากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และความเป็นไปได้ทางเทคนิคใหม่ๆ ที่หยิบยื่นให้กับมนุษย์
ส่วนตัวละครเอกของเรื่อง ผู้อ่านจับได้ทันทีว่าเฮอร์ล็อค โชลเมสนั้นมิใช่ใครอื่น เขาคือ เชอร์ล็อค โฮล์มส์ นักสืบอังกฤษ พระเอกของเซอร์โคแนน ดอยล์นั่นเอง ผู้แต่งเลือกคู่อริคนนี้ให้กับอาร์แซน ลูแปงก็ด้วยเหตุง่ายๆ คือการผจญภัยของเชอร์ล็อค โฮล์มส์เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ในฝรั่งเศสก่อนหน้านั้นไม่นานในปีค.ศ. 1902 และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อนึ่ง โมริซ เลอบลองได้รับสมญานามในประเทศฝรั่งเศสว่าเป็นโคแนน ดอยล์ชาวฝรั่งเศส ในเรื่องนี้ผู้แต่งยังได้เล่นกับลักษณะความคิดแบบฝรั่งเศสและความเข้มงวดแบบอังกฤษ หนุ่มทรงเสน่ห์ชาวฝรั่งเศสผู้ค่อนข้างจะนักเลงอยู่บ้างทำงานในโลกที่ผู้คนนับถือความมีหน้ามีตาในสังคมซึ่งเขารู้วิธีที่จะพลิกผันเหตุการณ์ให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของตัวเอง คุณค่าสำคัญสำหรับเขาคือความสุนทรีย์และความสำราญ ส่วนชาวอังกฤษนั้นเป็นคนมีเหตุมีผลมากกว่า เขาทำงานโดยการใช้วิธีคิดเป็นเหตุเป็นผลอย่างเข้มงวดซึ่งบ่อยครั้งก็เฉลียวฉลาดยิ่งและได้ผลแน่นอนเสมอ วิธีนี้ไม่มีที่สำหรับลางสังหรณ์ เป็นการใช้เหตุผลและความเข้าใจอย่างเดียว แต่การเล่นบทเช่นนี้มักจะแพ้ลางสังหรณ์แบบฝรั่งเศสอยู่บ่อยครั้ง เพราะรวดเร็วกว่าและสร้างสรรค์มากกว่า แม้ว่าจะเสี่ยงมากกว่าก็ตาม ดังที่เชอร์ล็อค โฮล์มส์สารภาพว่า เมื่อใดที่ผมไม่เข้าใจอะไรเลย เมื่อนั้นแหละที่ผมสงสัยอาร์แซน ลูแปง
ที่มาของอาร์แซน ลูแปงก็น่าสนใจเช่นกัน เมื่อโมริซ เลอบลองสร้างตัวละครชื่ออาร์แซน ลูแปง ผู้คนกำลังกล่าวขวัญถึงการกระทำที่อุกอาจของอเล็กซองดร์ มาริอุส จาคอบกันอย่างมาก อเล็กซองดร์ มาริอุส จาคอบเป็นนักอนาธิปไตยและนักอุดมคติ เขาจะกลายเป็นโจรและถูกจำคุกในภายหลัง ตามอุดมการณ์ของนักอนาธิปไตย ไม่มีใครเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ด้วยเหตุนี้ ทั้ง จาคอบและอาร์แซน ลูแปง จึงเห็นว่าการขโมยพวกคนรวยไม่มีอะไรที่ผิดศีลธรรม แม้ว่าบ่อยครั้ง อาร์แซน ลูแปงจะไม่สนับสนุนวิธีคิดเหตุคิดผลแบบสุดขั้วดังนักอนาธิปไตยคนอื่นๆ ซึ่งนำเอาสิ่งที่พวกเขาขโมยมาคืนให้กับคนยากคนจน ส่วนอาร์แซน ลูแปงนั้น เขาเป็นคนมีความรู้สึกอ่อนไหวมากกว่าที่จะเป็นนักทฤษฎี เขาจึงคืนสิ่งที่เขาขโมยมาให้กับสาวสวยๆ เมื่อเขาประทับใจในรอยยิ้มของพวกหล่อน