ปู่เจ้าสมิงพราย ปางเสมอเถร(สุดยอดท่าครู) 4ซม.ปู่ผู้ดูแลปัดเป่าสิ่งไม่ดีทั้งหลายให้มลายหายสิ้นไป
ปู่เจ้าสมิงพราย-ปางเสมอเถร-สุดยอดท่าครู-4ซม-ปู่ผู้ดูแลปัดเป่าสิ่งไม่ดีทั้งหลายให้มลายหายสิ้นไป
#ประวัติปู่เจ้าสมิงพราย

ขอบารมีท่านปู่เจ้าสมิงพราย คุ้มครองศิษย์ด้วยเทอญ ผมจะเล่าให้ฟังในส่วนของประวัติฤๅษีตนนี้ ท่านเป็นแรงบรรดาใจให้ผมก้าวเข้ามาในวงการไสยศาสตร์มาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นประถมฯ โดยเริ่มรู้สึกตัวตรงบท เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใดฯลฯ
ท่านปู่เจ้าสมิงพราย เป็นฤๅษีที่มีอาศรมบนภูเขาอยู่ทางภาคเหนือดินแดนล้านนา เป็นฤๅษีที่สัมฤทธิ์โลกียญาณ คือ ญาณในโลก ประกอบด้วย อิทธิฤทธิ์วิธี (แปลงกาย เหาะเหินเดินอากาศ บังตาดลใจได้) ทิพจักขุ (มีตาทิพย์ ได้บุพเพสาวานุสิติญาณ เห็นบุพกรรมต่างๆ) เป็นต้น รูปร่างหน้าตาของท่านปู่เจ้าสมิงพรายเอาแน่เอานอนไม่ได้ ท่านสามารถปรากฏกายอยู่ในรูปอะไรก็ได้ ทั้งเด็กหนุ่ม วัยรุ่น วัยกลาง วัยเฒ่าแก่ เป็นเสือโคร่ง เสือเหลือง หรือแมว เป็นโน้นเป็นนี่ตามแต่ท่านจะปรารถนาให้เห็น
ส่วนเรื่องอายุของท่านปู่เจ้าสมิงพรายก็หลายร้อยๆปี ทราบมาว่าท่านอยู่ได้ถึง ๑ กัปเลยทีเดียว ส่วนต้นสายปลายเหตุระวัติว่าท่านเห็นใครมาจากไหนนั้นก็ไม่ทราบ ไม่มีชื่อจริงของท่าน นอกจาก “ปู่เจ้าสมิงพราย”

ในลิลิตพระลอ ปู่เจ้าสมิงพราย เป็นชายแก่ๆ แต่ปรากฏวัยกลางคน นุ่งขาวห่มขาว พำนักอาศัยอยู่ป่าเขาลำเนาไพร มีฤทธิ์มีเดชมาก เก่งกาจในทางคาถาอาคมและการทำมหาเสน่ห์มหานิยม เสกสลาเหิร(แมลงภู่)บินไปตกลงเป็นหมากผู้ที่กินต้องตกอยู่ภายใต้มนต์คาถา ปลุกผีเรียกภูตเทวดาได้ และท่านยังไม่รับเงินตราหรือทรัพย์สมบัติใดๆ ช่วยตามบุพกรรมเก่า
เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤๅพี่
สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ ๚ะ
ในหนังสือเรียนวิชาภาษาไทย โดยกล่าวถึงลิลิตพระลอ ผมอ่านแค่รอบเดียวบทนี้ผมจำได้มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่มาดลใจอย่างหน้าประหลาด จากนั้นผมก็ไม่ได้สนใจอะไรกับลิลิตพระลอจนอยู่มาวันหนึ่งได้ยินเพลงยอยศพระลอ และอะไรอีกก็ไม่รูมาดลใจให้อยากอ่านลิลิตพระลอ ผมจึงเริ่มอ่านมาตั่งแต่ตอนนั้น ชั้นประถมนะอ่านโคลงกลอนใช้ว่าจะรู้เรื่องเข้าใจไปซะหมด อ่านจากหนังสืออ่านเล่นสำหลับเด็กและที่ขยายความแล้ว ทำให้รู้จักชื่อนี้ “ปู่เจ้าสมิงพราย” รู้จักว่าเป็นใคร? และต่อมาก็เป็นแรงบันดาลใจพอผมโตขึ้นเล่นของเลย ความจริงเริ่มมีแววมาแต่เด็กๆแล้วครับ

มาเข้าประวัติของท่านปู่เจ้าสมิงพราย โดยส่วนตัวผมเรียกท่านว่า “ปู่เจ้าสมิงไพร” องค์เดียวกันนั้นแหละครับ แต่ในที่นี้จะเขียนว่าปู่เจ้าสมิงพรายจะได้ไม่สับสนงุนงง ขอกล่าวจากเนื้อหาลิลิตพระลอ ในตอนต่างๆที่เกี่ยวกับท่านปู่เจ้าสมิงพราย ในตอนแรกจะเท้าความถึงเมื่อสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา สมัยนั้นมีเมืองเหนืออยู่สองเมือง คือ เมืองสรวงและเมืองสรอง ซึ่งจากการสันนิษฐานเมื่อเมืองสรอง ปัจจุบันตั้งอยู่ที่อำเภอสอง จังหวัดแพร่ (อ้างอิงจากพงศาวดารโยนก และ พงศาวดารเมืองน่าน กล่าวถึงเมืองสอง) ส่วนอีกเมืองหนึ่ง ชื่อว่าเมืองสรวง สันนิษฐานว่าเมืองสรวงน่าจะอยู่ที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง
ท้าวแมนสรวง พระยาหลวงผ่านเผ้า เจ้าเมืองสรวง มีโอรสองคหนึ่งนามว่า พระลอ ท้าวแมนสรวงต้องการตีเมืองสรองเป็นเมืองขึ้น แต่ทำไม่สำเร็จเพราะท้าวพิไชยยพิษณุกรป้องกันเมืองสรองไว้ได้ แต่กระนั้น พระยาพิมพิสาครราช เจ้าเมืองสองก็สวรรคตบนคอช้าง ต่อมาเมื่อสิ้นท้าวแมนสรวงแล้ว พระลอจึงเสวยราชสมบัติสืบเมืองสรวงต่อ ชื่อเสียงในความหลอของพระลอเล่าลือกันไปทั่ว จนกิตติศัพท์นี้เข้าหูพระเพื่อนกับพระแพง ธิดาในท้าวเมืองสรอง พระเพื่อนพระแพงถึงกับจับไข้ในชื่อเสียงความหล่อของพระลอ (อะไรจะหล่อขนาดนั้น)
พระพี่เลี้ยงทราบความนัยว่าแกล้งป่วย จึงแสร้งไปบอกพระย่าและพระบิดามาดารของพระเพื่อนพระแพงว่า จับไข้ด้วยขวัญหนีเข้าป่า ต้องรีบเรียกขวัญกลับมาโดยเร็ว สองพี่เลี้ยงจึงเบิกช้างต้น เทียมลม(น่าจะเร็วเท่าลม) และพระพาย(ช้างตัวนี้เร็วเท่าลม) ไปรับพ่อหมอใหญ่ เพื่อขึ้นเขาไปขอความช่วยเหลือจากปู่เจ้าสมิงพราย


ถึงตอนนี้จากบทประพันธ์บทหนึ่งตอนที่หมอใหญ่พาสองพี่เลี้ยงไปพบปู่เจ้าสมิงพราย
“o ตามกันไปบหึง ถึงตีนเขาแต่ล่าง แลลิงค่างบ่างชนี ผีผิ่วร้องน่ากลัว หัวหูพองอยู่คร้าม เสือสางด้ามด้อมทาง แรดควายขวางขวัดอยู่ หมู่กระทิงเที่ยวป่า วัวลานล่าเล็มไพร หมู่หมีไปคคล้าย นางช้างผ้ายคคล่ำ บรู้กี่ส่ำตามสาร งูพพานพิษกล้า งูเหลือมคว้ารัดควาย เยียงผาผายปีนป่าย ฝ่ายช้างพังเซราซรึก สัตว์พันฦกพันลาย .........เห็นแนวน้ำบางบึง ชรทึงธารห้วยหนอง จระเข้มองแฝงฝั่ง สรพรั่งหัวขึ้นขวักไขว่ ช้างน้ำไล่แทงเงา เงือกเอาคนใต้น้ำ กระล่ำตากระเหลือก กระเกลือกกลอกตากลม ผมกระหวัดจำตาย ฝ่ายหนปลายไม้แมก ฟังเสียงแสรกเง้างูด ทิ้งทูดบ่นพพึมเสียง เค้ากู่เคียงคู่ร้อง ก้องดงดุจตระหวาด ผาดฟังตกใจกลัว...บ เปนใดดอกนะแม่ กระแหน่นี้นะเจ้า พระปู่เราหากทำเอง...”
บทนี้หมอใหญ่พาสองพี่เลี้ยงมาถึงตีนเขาที่ปู่เจ้าสมิงพรายพำนักอยู่ ซึ่งมีสิงสาราสัตว์เผ่นพ่านไปทั่ว เห็นแล้วต้อสะพรึงกลัว เช่น งูเหลือมกำลังรัดควาย เป็นต้น พอถึงบึงก็เห็นจระเข้ และช้างน้ำไล่แทงงา เงือกกำลังสมสู่กับคนใต้น้ำ ดูแล้วน่ากลัวยิ่งนัก และหมอใหญ่บอกสองพี่เลี้ยงว่าไม่ต้องกลัวไม่เป็นอะไรหรอก ปู่เจ้าสมิงพรายดลให้เห็น

อีกบทหนึ่งเป็นการแสดงฤทธิ์ของปู่เจ้าสมิงพราย
“ o ตามองเสือพรับ เห็นเสือกลับเปนแมว แถมจราศศุภลักษณ์ มลักเห็นโฉมปู่เจ้า แปรรูปเถ้าหงอกสกาว คิ้วขาวขนตาเผือก กลับตระเลือกเปนบ่าว พึงมล่าวโฉมกล้องแกล้ง งามอรรแถ้งโถงเถง ทรงลักเลงเสสรวล สคราญครวญงามถนัด รบัดเปนกลางแก่ ตระแหน่รูปลักษณดี มีมารยาทเสี่ยมสาร สองถวายสการบูชา อันแต่งมาทุกสิ่ง จึ่งทูลสารสองไท้ สองราชก้มกราบไหว้ พระบาทเจ้ากูมา ฯ”

๐ อะหัง วันทามิ คุรุครูอาจาริเยณะ พยัคฆสิงหราชาไกสีห์ ฤๅษีสมิงไพร สัพพะเมวะโทสัง ขะมะถะเม ภันเต
คำที่เกี่ยวข้อง
บรมครูปู่เจ้าสมิงพรายปู่เจ้าสมิงพรายเศียรปู่เจ้าสมิงพรายเหรียญปู่เจ้าสมิงพรายกระจกสะท้อนสิ่งไม่ดีต้นไม้ไล่สิ่งไม่ดีสุดยอดผู้กล้าสุดยอดหนังสือดีสุดยอดวิธีกินดีไม่มีป่วยหนังสือสุดยอดวิธีกินดีไม่มีป่วย

สินค้าใกล้เคียง