ฮอร์โมนไข่(เร่งลำต้นและใบแตกยอดอ่อน เขียวกรอบอวบ) +น้ำหมักปลา(บำรุงดินเสริมธาตุอาหารที่พืชต้องการให้ครบถ้วนเติบโตแข็งแรง)+จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง(ตรึงไนโตรเจนให้พืชโตเร็ว รากฝายแตกเยอะ กำจัดแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟล์ในดินที่เป็นพิษต่อรากพืช)+น้ำหมักจากผลไม้สีเหลือง(เพิ่มธาตุโพแทสเซี่ยม ให้ผลดก ใหญ่ หวาน สีสวย ผิวดี)
ฮอร์โมนไข่มีดีอย่างไร : เมื่อเรานำไข่ไก่หรือไข่เป็ดมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตร หรือแม้แต่เพื่อประโยชน์ด้านการบำรุงร่างกายคนและสัตว์ จำต้องผ่านกระบวนการหมักเพื่อให้เกิดการปลดปล่อยหรือย่อยสลายโปรตีนให้เป็นกรดโปรตีนอันเป็นหน่วยเล็กที่สุด ให้ร่างกายคนสัตว์หรือพืชดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ทันที โดยสารที่ได้จากการทำ "ฮอร์โมนไข่" นั้นคือ "กรดฟุลวิก" มีส่วนช่วยในการดูดซึมสารอาหารของคนและสัตว์ สามารถสร้างความสมดุลย์แข็งแรงให้แก่ร่างกายในระดับเซลล์ ช่วยชูกำลัง ทำให้ไม่เหนื่อยง่าย ขจัดอนุมูลอิสระ ต้านออกซิเดชั่น คงความหนุ่มสาว ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง แก้ข้ออักเสบ เพิ่มการเผาผลาญโปรตีนสู่การสังเคราะห์ DNA และ RNA และเพิ่มการย่อยอาหารได้ด้วย ด้านประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับพืชก็คล้ายกันกับสัตว์ คือ ทำให้เซลล์พืชแข็งแรง ต้านทานโรคได้ดี เพิ่มขนาดผลผลิตตลอดจนสามารถทำให้พืชมีผลผลิตได้เต็มที่ การนำฮอร์โมนไข่ไปใช้กับพืช จึงมีจุดมุ่งหวังเพื่อให้พืชมีผลผลิตดีเป็นหลัก ส่วนการนำไปใช้กับคนหรือสัตว์ ก็เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นต้น
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (photosybthetic bacteria; PSB) เป็นแบคทีเรียพบกระจาย ทั่วไปในธรรมชาติ ตามแหล่งน้ำจืด น้ำเค็ม ทะเลสาบน้ำเค็ม น้ำทะเลสาบที่มีความเป็นด่าง น้ำที่มีความเป็นกรด น้ำพุร้อน น้ำทะเลบริเวณขั้วโลกเหนือ นอกจากนี้ ยังพบตามแหล่งน้ำเสีย บ่อบำบัดน้ำเสีย บทบาทของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง มีความสำคัญในกระบวนการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้ (CO2 - assimilation) และการตรึงไนไตรเจน (nitrogen fixation) นอกจากนี้ ยังมีบทบาท สำคัญในห่วงโซ่อาหารซึ่งสัตว์ขนาดเล็ก ปลา กุ้ง หอย และปู สามารถนำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงมาใช้เป็นอาหารได้ นอกจากนี้ ในน้ำเสียจากบ้านเรือนและน้ำเสียจากการทำปศุสัตว์สามารถบำบัดด้วย จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Kobayashi, 2000)
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงที่น่าสนใจในกลุ่ม PURPLE มี 5 สายพันธุ์ คือ SS3, SS4, FS3, SH5, และ ES16 แต่ในจำนวน 5 สายพันธุ์นี้ SS3 (Rhodobacter capsulatus) มีการเจริญเติบโตดีที่สุด และสามารถผลิตสารเร่งความเจริญเติบโตของพืชได้สูงถึง 2 มิลลิโมล่าร์ต่อลิตร หรือมากกว่า สายพันธุ์ SS3 ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในประเทศไทยเรามาจากญี่ปุ่นครับ เมื่อญี่ปุ่นประกาศใช้จุลินทรีย์ SS3 เป็นวาระแห่งชาติในปี 2010 โดยมุ่งเน้นใน 3 แนวทาง คือ ด้านเกษตร ปศุสัตว์ และสิ่งแวดล้อมครับ เมื่อมีผู้นำจุลินทรีย์ SS3 จากญี่ปุ่นเข้ามาในเมืองไทย ก็ได้มีการเพาะขยายพันธุ์จำหน่ายกันอย่างแพร่หลายนะครับ ถ้าค้นข้อมูลทาง net จะเห็นขวดพลาสติกสีแดงสุดสวยเต็มไปหมด นับเป็นยุคจุลินทรีย์SS3ภิวัฒน์ เกิดขึ้นกับประเทศไทยโดยแท้ ทำให้เกษตรกรไทยมีทางเลือกเพิ่มขึ้น ในการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้สูงขึ้นอีกด้วย
.....................
จุลินทรีย์น้ำหมักปลา คือการใช้ปลาทั้งตัว(หัว,ก้าง,เนื้อปลา,ครีบ,พุงปลา,เกล็ด) มาหมักด้วยจุลินทรีย์เป็นเวลาอย่างน้อย1ปี เพื่อให้เกิดกระบวนการย่อยสลายที่สมบูรณ์เพียงพอต่อการแตกตัวของธาตุอาหารครบทั้งหมด โดยเติมกากน้ำตาลลงไปเพื่อให้เป็นอาหารของจุลินทรีย์และป้องกันการเน่าเสีย เมื่อเรานำไปใช้ พืชก็สามารถนำธาตุอาหารที่มีอยู่ครบถ้วนไปใช้ในการเร่งการเจริญเติบโต เร่งผล เร่งดอกได้ทันที ในสหรัฐอเมริกาถือว่าปุ๋ยน้ำหมักปลาเป็นปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ดีที่สุดและเกษตรกรนิยมใช้มากที่สุด
ปริมาณการใช้ : ประมาณ5-7ช้อนโต๊ะต่อน้ำ20ลิตร โดยจะมีตารางรายละเอียดการใช้ฮอร์โมนใน1อาทิตย์ที่เหมาะสมกับพืชในแต่ละช่วงอายุจัดเป็นคู่มือแนบให้ภายในกล่องเพื่อความสะดวกต่อการใช้ สามารถผสมฮอร์โมนตามตารางในแต่ละวันบำรุงพืชได้เลยครับ
ขนาดบรรจุ 600ml. x 3ขวด