จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง กระตุ้นการแตกรากแตกยอด กำจัดสารพิษสารเคมีในดิน ตรึงในโตรเจนให้แก่พืชทำให้ประหยัดการใช้ปุ๋ย
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง-กระตุ้นการแตกรากแตกยอด-กำจัดสารพิษสารเคมีในดิน-ตรึงในโตรเจนให้แก่พืชทำให้ประหยัดการใช้ปุ๋ย
ข้อมูลสินค้า
ราคา
89.00 บาท
รีวิว
1 ครั้ง
แบรนด์
No Brand
ร้านค้า

จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (photosybthetic bacteria; PSB) เป็นแบคทีเรียพบกระจาย ทั่วไปในธรรมชาติ ตามแหล่งน้ำจืด น้ำเค็ม ทะเลสาบน้ำเค็ม น้ำทะเลสาบที่มีความเป็นด่าง น้ำที่มีความเป็นกรด น้ำพุร้อน น้ำทะเลบริเวณขั้วโลกเหนือ นอกจากนี้ ยังพบตามแหล่งน้ำเสีย บ่อบำบัดน้ำเสีย บทบาทของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง มีความสำคัญในกระบวนการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้ (CO2 - assimilation) และการตรึงไนไตรเจน (nitrogen fixation) นอกจากนี้ ยังมีบทบาท สำคัญในห่วงโซ่อาหารซึ่งสัตว์ขนาดเล็ก ปลา กุ้ง หอย และปู สามารถนำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงมาใช้เป็นอาหารได้ นอกจากนี้ ในน้ำเสียจากบ้านเรือนและน้ำเสียจากการทำปศุสัตว์สามารถบำบัดด้วย จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Kobayashi, 2000)

จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงที่น่าสนใจในกลุ่ม PURPLE มี 5 สายพันธุ์ คือ SS3, SS4, FS3, SH5, และ ES16 แต่ในจำนวน 5 สายพันธุ์นี้ SS3 (Rhodobacter capsulatus) มีการเจริญเติบโตดีที่สุด และสามารถผลิตสารเร่งความเจริญเติบโตของพืชได้สูงถึง 2 มิลลิโมล่าร์ต่อลิตร หรือมากกว่า สายพันธุ์ SS3 ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในประเทศไทยเรามาจากญี่ปุ่นครับ เมื่อญี่ปุ่นประกาศใช้จุลินทรีย์ SS3 เป็นวาระแห่งชาติในปี 2010 โดยมุ่งเน้นใน 3 แนวทาง คือ ด้านเกษตร ปศุสัตว์ และสิ่งแวดล้อมครับ เมื่อมีผู้นำจุลินทรีย์ SS3 จากญี่ปุ่นเข้ามาในเมืองไทย ก็ได้มีการเพาะขยายพันธุ์จำหน่ายกันอย่างแพร่หลายนะครับ ถ้าค้นข้อมูลทาง net จะเห็นขวดพลาสติกสีแดงสุดสวยเต็มไปหมด นับเป็นยุคจุลินทรีย์SS3ภิวัฒน์ เกิดขึ้นกับประเทศไทยโดยแท้ ทำให้เกษตรกรไทยมีทางเลือกเพิ่มขึ้น ในการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้สูงขึ้นอีกด้วย

...............

ประโยชน์ของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง PSB

1.ช่วยย่อยสลายของเสียในแปลงนา โดยเฉพาะกลุ่มก๊าซไข่เน่า( ไฮโดรเย่นซัลไฟต์ ) โดยที่จุลินทรีย์จะเข้าไปทำลายพันธะทางเคมี โดยการกำจัด ก๊าซไฮโดรเย่น ซึ่งเป็นพันธะทางเคมีหลักของก๊าซไข่เน่า ( H2S ) โดยนำของเสียนั้นมาเป็นพลังงานใช้ในการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์ และระหว่างกระบวนการที่กล่าวมานั้นจุลินทรีย์ได้ ขับของเสียออกมาให้อยู่ในรูปกลุ่ม โกสฮอร์โมน ที่มีรายละเอียดเบื้องต้น

2.ช่วยลดสภาวะโลกร้อนได้อย่างมาก โดยเข้าไปทำลายพันธะเคมีของกลุ่มก๊าซมีเธน ( CH4 ) โดยการย่อยสลายก๊าซไฮโดรเย่น จึงทำให้โครงสร้างเสียไป เหลือแต่คาร์บอนซึ่งสามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ ซึ่งแปลงนาโดยทั่วไปย่อมมีกลุ่มก๊าซของเสียอยู่แล้ว

3.ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคพืชได้ดี ทำให้เปลือกหรือลำต้นแข็งแรง ทนต่อการกัดกินของแมลง

4.ช่วยกระตุ้นเซลล์เจริญบริเวณปลายรากพืชให้ขยายตัวและแตกแขนงได้ดีทำให้มีรากฝอยที่หากินเก่งจำนวนมาก

จึงทำให้พืชสามารถเพิ่มผลผลิตได้ดีเนื่องจากการสะสมอาหารได้มาก

5.สามารถใช้แทนปุ๋ยยูเรีย หรือแอมโมเนียมซัลเฟตได้ โดยใช้หลักการย่อยสลายกลุ่มก๊าซของเสียให้เป็นธาตุอาหารหลักของพืชได้

6.เมื่อใช้เป็นประจำและต่อเนื่อง สามารถลดการใช้อาหารเสริม หรือปุ๋ยสูตรต่างๆลงได้ สูงสุด 50 % ทำให้ต้นทุนในการผลิตลดลงกำไรเพิ่มมากขึ้น

7.หากมีการนำจุลินทรีย์ไปใช้ผสมผสานร่วมกับน้ำหมักหรือปุ๋ยสูตรต่างๆ จะทำให้ผลผลิตยิ่งเพิ่ม และคุณภาพผลิตดีขึ้นตามด้วย

อัตราการใช้ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง

1. เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินให้ใช้ psb 2 ลิตร ผสมน้ำ 100 ลิตร พ่นให้ทั่วในพื้นที่ 1 ไร่ แบบพ่นใส่พืชโดยตรงก็ต้องดูว่าใช้กับพืชอะไรความหนาแน่นของพืชเป็นอย่างไงครับ เช่น พืชผักสวนครัวใช้ จุลินทรีย์ฯ 50 cc ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุก 3-5 วัน/ครั้ง เป็นต้น

สำหรับดินที่ผ่านการใช้สารเคมีมาเป็นเวลานาน ดินที่มีความเป็นกรดมาก หรือ ดินที่มีสภาพเสือมโทรม วิธีปรับสภาพดิน ให้มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะสมแก่การเพราะปลูก ที่ประหยัดและถูกที่สุดคือ การใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง(psb) พ่นหรือรดลงดินในอัตราส่วน psb 5-10 ลิตร/ไร่ แล้วไถกลบ หรือ รดลงดินในขณะที่ดินมีความชื้น 60-70 % จะช่วยให้ลดความเป็นกรดในดิน ช่วยให้ดินมีความรวนซุย และเป็นการเพิ่มไนโตรเจนในดินได้อีกด้วย และหากผสมปุ๋ยคอกหรือ จุลินทรีย์จาวปลวกลงไปด้วยจะช่วยให้ดินกลับมาสมบูรณ์ได้เร็วยิ่งขึ้น

2.การใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงเพื่อปรับสภาพบ่อ (ปลา กุ้ง ปู หรือสัตว์น้ำชนิด อื่นๆ ) ก่อนนำน้ำเข้าบ่อ ให้ใช้อัตราส่วน จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (หัวเชื้อ) 5-7 ลิตร ต่อพืชที่ 1 ไร่ ความลึก ไม่เกิน 1.2 เมตร ใช้โดยสาดลงพื้นบ่อให้ทั่วถึง (ผสมน้ำเล็กน้อยก็ได้เพื่อจะได้สาดให้ทั่วถึง) ผลคือ จะช่วยลดการสะสมของเสียในดิน เช่นก๊าซไข่เน่า ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้น้ำเน่าเสียเร็ว ช่วยเพิ่มออกซิเจนในน้ำ ปรับสภาพความเป็นกรด-ด่าง (PH) ในบ่อให้เหมาะสมต่อการเจริญของสัตว์ เป็นอย่างยิ่ง การใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงในบ่ออนุบาล ปลา กุ้ง เป็นต้น จะทำให้อัตราการรอดของ ลูกปลา ลูกกุ้งมากถึง 80-90 %

#เกษตรอินทรีย์#เกษตรไร้สารพิษ#เกษตรพอเพียง#จุลินทรีย์

ขนาดบรรจุ 600ml.

คำที่เกี่ยวข้อง
กำจัดสารพิษในน้ำสารกระตุ้นการกินสารกระตุ้นการกินอาหารปุ๋ยจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงสารกำจัดเชื้อราในพืชสารกำจัดแมลงในดินสารกำจัดเชื้อราในดินสารกระตุ้นการกินของปลาตรวจสารเคมีในอาหารล้างสารเคมีในเลือด

สินค้าใกล้เคียง