หน่วย: mm

K4074คู่มือเข็มทิศ

L คำอธิบายตำแหน่ง

นำเข็มทิศออกจากกล่องและสร้างฝา (8) ที่มีเส้นเล็ง (7) จนกว่าจะทำมุม90องศาที่ตำแหน่งเริ่มต้นจากนั้นข้ามเส้นเล็ง (7) และเลนส์อ่านเพื่อเล็งไปที่เป้าหมายที่อยู่ห่างออกไป100เมตรปรับตำแหน่งของเลนส์จนกว่าคุณจะสามารถมองเห็นตัวเลขบนหน้าปัดได้อย่างชัดเจนในรุ่นเลนส์ที่ปรับได้กระบอกของเลนส์สามารถหมุนได้จนกว่าจะสามารถมองเห็นองศาบนหน้าปัดได้อย่างชัดเจน

L วิธีการกำหนดค่าของทิศทางการเดินทาง

เข็มทิศของคุณอยู่ที่จุดอ่าน (ดูก) เล็งไปที่เป้าหมายเล็งไปที่ระบบการอ่านและเส้นเล็ง (7)(ตามอาจเรียกได้ว่าเป็นปริซึมหรือช่องมองภาพ) ตอนนี้อ่านค่าของทิศทางการเดินทางของคุณและกำหนดมุมราบของเป้าหมายบนแผ่นองศา

L วิธีการใช้ค่าของทิศทางการเดินทางที่คุณกำหนด

หากทราบค่าของทิศทางการเดินทางของคุณให้ดูผ่านระบบการอ่าน (ระบบพิสูจน์อักษร) และหมุนจนกว่าค่าจะปรากฏบนมาตราส่วน

L ตำแหน่งแผนที่

เพื่อให้สามารถใช้งานตำแหน่งที่ซับซ้อนมากขึ้นบนแผนที่ภูมิประเทศได้จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องค้นหาตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ทางตอนเหนือของแผนที่กับสนามแม่เหล็กของโลกดังนั้นให้จัดแนวเครื่องหมายเซนติเมตรให้ตรงกับเส้นเมริเดียนที่อยู่ใกล้คุณมากที่สุดเพื่อให้ส่วนบนของฝาอยู่ทางด้านทิศเหนือของแผนที่เส้นเมริเดียนเป็นเส้นขนานบนลงล่างของแผนที่จับเข็มทิศในตำแหน่งและหมุนแผนที่จนกว่าตัวชี้ค้นหาทิศเหนือจะตรงกับมาตราส่วนบนกระจกตอนนี้การวางตำแหน่งของแผนที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

L กำหนดทิศทางการเดินทางบนแผนที่

(A) หลังจากที่คุณเล็งแผนที่ไปที่ขั้วโลกเหนือแล้วให้ลากเส้นบนแผนที่จากจุดเริ่มต้นของตำแหน่งของคุณไปยังจุดสิ้นสุดของคุณ

(B) เปิดเข็มทิศจากนั้นวางด้านข้างของเข็มทิศที่มีเส้นเซนติเมตรบนเส้นด้านบนเพื่อให้สเกลบนกระจกเข็มทิศสามารถระบุทิศทางของวัตถุได้สำหรับรุ่นที่ไม่มีมาตราส่วนเซนติเมตรให้จัดแนวเส้นเล็งกับมาตราส่วน (ใกล้กับปริซึมการอ่านและช่องมองภาพ) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกศรฟอสเฟอร์บนกระจกสอดคล้องกับตัวชี้ทางทิศเหนือบนแผ่นองศา

(C) การอ่านค่าของทิศทางการเดินทางสอดคล้องกับเส้นที่สลักบนกระจก

(D) เลื่อนเข็มทิศจากแผนที่ผ่านระบบการอ่านและหมุนจนกว่าค่าของทิศทางการเดินทางของคุณจะปรากฏขึ้นในการค้นหาจุดปลายทางเสริมจะต้องอยู่ในแนวสังเกตการณ์เดียวกันและเริ่มติดตามทำซ้ำจนกว่าคุณจะถึงปลายทางสุดท้ายของคุณยิ่งคุณติดตามนานเท่าไหร่การดำเนินการข้างต้นซ้ำๆจะช่วยให้คุณรักษาทิศทางที่คุณกำหนดไว้

L กำหนดตำแหน่งบนแผนที่

เลือกจุดที่ชัดเจนอีกสองจุดบนพื้นดินและทำเครื่องหมายบนแผนที่เมื่อกำหนดแผนที่แล้วให้ใช้เข็มทิศของคุณเพื่อวัดค่าของจุดองศาและลากเส้นพร้อมกันบนแผนที่เพื่อให้สอดคล้องกับค่าข้างต้นตอนนี้ผ่านจุด A แล้วทำซ้ำการดำเนินการกับจุดที่สอง B จุดตัดของเส้นทั้งสองระบุตำแหน่งของผู้สังเกตบนแผนที่

L ใช้เครื่องวัดความเอียง

เครื่องวัดความเอียงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สามารถวัดความแตกต่างระหว่างความสูงและความลาดชันมันสามารถแกว่งหรืออัตโนมัติเปิดเข็มทิศแล้วปล่อยลูกตุ้มจากล็อคเล็งไปที่ขอบด้านบนของเป้าหมายของคุณโดยยืมปริซึมหรือเลนส์ที่อ่านได้ (ด้านล่าง) และสเกล (ด้านล่าง) ให้ความสนใจกับการสร้างเส้นแยกต่างหากยิ่งคุณเอียงเข็มทิศของคุณตำแหน่งที่มีขนาดใหญ่ของการเปลี่ยนเอียงเล็งไปที่เป้าหมายของคุณและเอียงเข็มทิศของคุณไปทางด้านข้างของเครื่องวัดความเอียงเพื่อให้ลูกตุ้มหยุดและค่าขององศาสามารถอ่านได้ง่ายเป้าหมายต้องอยู่ที่ด้านล่างของผู้สังเกตเล็งและสังเกตผ่านด้านบนของฝา

L ความสูงของเป้าหมาย

คำนวณความเอียง (องศาหรือเปอร์เซ็นต์) ตามคอลัมน์แรกของตาราง (I) แล้วมองหาค่าที่เกี่ยวข้องกับคอลัมน์ที่สี่ (IV) และคอลัมน์ที่ห้า (V).เมื่อคุณรู้ระยะทางที่คุณสามารถคำนวณความสูงของเป้าหมายตัวอย่างเช่นเป้าหมายคือสี่พันเมตรห่างจากความเอียง14องศา

A) 4000เมตร * 25% /100% = 1000สูตรนี้ใช้กับคอลัมน์ที่สี่

B) 4000เมตร * 1.4% สูตรนี้ใช้กับคอลัมน์ที่ห้า

L วิธีการวัดระยะทางบนพื้นดิน

ตามหลักการดังกล่าวก่อนหน้านี้เป็นไปได้ที่จะกำหนดระยะห่างระหว่างจุดที่ชัดเจนสองจุดบนพื้นดินตัวอย่างเช่นคุณสามารถวัดความกว้างของบ้านไร่ความสูงของสะพานนี่เป็นเงื่อนไขที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการวัดระยะทางจากตำแหน่งของคุณเองไปยังเป้าหมาย: เส้นก่อนจุดสองจุดจะต้องตั้งฉากกับด้านข้างของเป้าหมายที่วัดได้มากที่สุด

L มุมการวัด

วัดด้านขวาของเป้าหมายแผ่นองศาจะแกว่งไปยังตำแหน่งที่ถูกต้องทันที

จำค่าขององศาที่คุณกำหนดและไปที่ค่าที่สองที่คุณเพิ่งกำหนดความแตกต่างระหว่างทั้งสองแสดงมุมซ้ายและขวาของเป้าหมาย

วัดมุมจากทิศเหนือ

หากค่า360องศา (ทิศเหนือ) ปรากฏขึ้นในระบบการอ่านให้พิจารณา360องศา = 0องศาในการดำเนินการวัดของคุณ

คำนวณได้: 360องศา-ค่าของมุมที่สองค่าขององศาแรก

ถ้าค่าของมุมแรกคือ4และมุมที่สองคือ354มุมจะเป็น10องศา

เมื่อค่าขององศาที่มีการคำนวณ (ตัวอย่างที่3) ระยะทางพร้อมกันเป็นที่รู้จักตามคอลัมน์แรกและคอลัมน์ที่สองความกว้างจะเป็นหนึ่งในยี่สิบของระยะทาง

3องศา = 1/20*2000เมตร = 100เมตร

หรือตามตาราง

3องศา = 5% * 2000เมตร = 100เมตร

L การวัดระยะทางความสูงหรือความกว้างของเป้าหมายเป็นที่รู้จักกัน

ถ้าความสูงและความกว้างของเป้าหมายเป็นที่รู้จักหรือวาดบนแผนที่ระยะทางของมันจะถูกคำนวณโดยสูตรที่กล่าวถึงข้างต้นกล่าวอีกนัยหนึ่งด้วยเหตุผลเดียวกันระยะทางเป็นเจ็ดเท่าของความกว้างหรือความสูง

L การวัดระยะทางด้วยกระจก

1.สายเล็ง

2.เส้นขนานสำหรับการวัดขนาด

3.สายวัด

4.เป้าหมายแรก

5.เป้าหมายที่สอง

ที่มีฝาแก้วและเส้นเล็งที่มีสเกลช่วยให้คุณสามารถวัดระยะทางของเป้าหมายได้เมื่อระยะทางจากเป้าหมายไปยังเป้าหมายอื่นที่ชัดเจนในระดับเดียวกันกับผู้สังเกตทราบ

เริ่มนับจำนวนสเกล (2) บนกระจกของเส้นแนวนอนระหว่างสองเป้าหมายแต่ละมาตราส่วนเป็น10หน่วยหารด้วยระยะทางด้วยเมตรแล้วคูณด้วย1000.

ระยะทางถ้าระยะห่างระหว่างเป้าหมายทั้งสองคือ36เมตรและมาตราส่วนบนกระจกคือ12หน่วยผลลัพธ์จะเป็น

12สเกล * 10 = 120 36เมตร/120หน่วย * 1000 = 3000เมตรระยะทาง

เมื่อเป้าหมายทั้งสองอยู่บนเส้นเป้าหมายให้คูณระยะห่างระหว่างเป้าหมายทั้งสองด้วย10

[คำแนะนำในการบำรุงรักษาและการบำรุงรักษา]

1.ให้ความสนใจกับการใช้และการจัดเก็บเข็มทิศ

2.ผลิตภัณฑ์นี้ใช้สารหน่วงของเหลวโปรดอย่าวางผลิตภัณฑ์ไว้กลางแดดเป็นเวลานานเพื่อส่งผลต่อการทำงานปกติของเข็มทิศเทอร์โมมิเตอร์และไฮโกรมิเตอร์การสัมผัสอาจทำให้ผลิตภัณฑ์มีแผลที่มีขนาดผิดปกติ

3.วัตถุที่เป็นโลหะจะส่งผลต่อการตีความเข็มทิศดังนั้นคุณควรอยู่ห่างจากยานพาหนะกล้องถ่ายรูปหรือวัตถุที่เป็นโลหะอื่นๆให้มากที่สุดเมื่อกำหนดตำแหน่งหรือตีความทิศทางการรบกวนของโลหะอาจส่งผลต่อการตีความเข็มทิศตั้งแต่20องศาถึง60องศาดังนั้นโปรดระวังบริเวณแมกนีโตอิเล็กทริกจะส่งผลต่อความแม่นยำของเข็มทิศด้วย

4.เมื่อเก็บเข็มทิศให้ใส่ใจกับตำแหน่งที่จัดเก็บอย่าวางไว้ในที่ที่เต็มไปด้วยเอฟเฟกต์แม่เหล็กไฟฟ้าเช่นอย่าวางไว้บนลำโพงสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเหนือลำโพงมีความแข็งแรงมากนอกจากนี้การตากแดดจะทำให้ความเป็นแม่เหล็กของเข็มแม่เหล็กลดลงซึ่งไม่ดีต่อเข็มทิศ