วิธีแท้จริงที่เด็กเรียนรู้ Einstein Never Used Flash Cards
ผู้เขียน: ดร.แคที, ดร.โรเบอร์ตา, ดร.ไดแอน
สำนักพิมพ์: GOODLOVE
ข้อมูลสินค้า
ราคา
380.00 323.00 บาท
แบรนด์
goodlove
ร้านค้า
คำนิยม วิธีแท้จริงที่เด็กเรียนรู้
(ไอน์สไตน์ไม่เคยใช้แฟลชการ์ด)
ตอนที่ 1/2
นี่เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ผมควรเขียนเสียเองตั้งแต่แรกแทนที่จะมาเขียนเพียงแค่คำนำเสนอ
เพื่อยืนยันว่าเด็กควรเล่นมากๆ และการเล่นคือการเรียนรู้
ข้อแตกต่างคือผู้เขียนหนังสือเล่มนี้มีความอุตสาหะที่จะหาเอกสารอ้างอิงและงานวิจัยมาประกอบการเขียน ในขณะที่ผมเขียนจากสามัญสำนึก สัญชาตญาณของความเป็นพ่อ ความทรงจำและประสบการณ์ของตัวเองในอดีตที่เล่นมากมายและเรียนหนังสือน้อยกว่ามาก
ไปจนถึงสิ่งที่ซิกมันด์ ฟรอยด์และลูกศิษย์ที่เป็นนักจิตวิเคราะห์หลายคนเขียนเอาไว้ รวมทั้ง ฌอง เพียเจต์ และเลฟ วีก็อตสกีที่หนังสือเล่มนี้อ้างอิงถึง
และไอน์สไตน์ด้วย ไอน์สไตน์ไม่เคยเล่นแฟลชการ์ด คุณตาหมอไม่เคยพูดหรือเขียนว่าให้เล่นแฟลชการ์ดเช่นกัน
ผมได้รับคำถามเสมอว่าควรให้เด็กเล่นแฟลชการ์ดหรือเปล่า ไปจนถึงเด็กควรไปโรงเรียนเมื่อไร และเด็กควรได้รับการส่งเสริมพัฒนาการคอร์สอะไรบ้าง สิ่งที่ผมตอบเสมอมาคือหลีกเลี่ยงที่จะตอบตรงๆเรื่องแฟลชการ์ด ควรไปโรงเรียนเพื่อการเรียนหนังสืออย่างจริงจังเมื่ออายุประมาณ 6-7 ขวบ แล้วตามด้วยประโยคแบ่งรับแบ่งสู้ว่าว่าถ้ามีความจำเป็นต้องไปโรงเรียนก่อน 7 ขวบให้เลือกโรงเรียนใกล้บ้าน
ใกล้บ้านแปลว่าโรงเรียนคืนเวลามาให้เราพ่อแม่ลูกที่บ้านมากที่สุด และพยายามเลือกโรงเรียนที่มิได้สอนหนังสือ
คืนเวลามาให้เราเพื่อเราจะได้เล่น เลือกโรงเรียนที่ไม่สอนอะไรมากมาย เด็กได้เล่นมากๆ และถ้าสมมติว่าเราเลือกอะไรไม่ได้จำเป็นต้องพาไปโรงเรียนที่เอาแต่เรียนเพราะเหตุใดก็ตาม เมื่อเลิกงานแล้วให้รีบไปเอาลูกกลับบ้านมาเล่นให้เร็วที่สุด
แต่สำหรับคำถามที่ว่าเด็กควรได้รับการส่งเสริมพัฒนาการด้วยคอร์สอะไรบ้าง ผมตอบชัดเจนทุกครั้งว่าไม่จำเป็น
ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่จะไม่มีทุนรอนที่มากพอ ซึ่งคือสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ของบ้านเรา หรือคุณพ่อคุณแม่แทบจะไม่มีเวลาเหลือจากการทำมาหากินมาเล่นกับลูกอยู่ก่อนแล้ว เราไม่ควรหมดเวลาไปกับคอร์สพัฒนาการ รวมไปถึงของเล่นที่อ้างว่าเพื่อพัฒนาการอีก
ที่เราควรทำคือ “ลง” ไปเล่นกับลูกที่พื้น หรือ “พา” ลูกออกไปวิ่งเล่นด้วยกันกลางแจ้ง ณ ที่โล่งกว้างสักที่ที่หาได้
เพราะการเล่นคือการเรียนรู้ ดังที่หนังสือเล่มนี้เขียนสมการที่สั้นที่สุดเอาไว้หลายครั้ง
เล่น=เรียนรู้
ที่ผมพูดและเขียนตั้งแต่แรกคือเล่นดินทราย ระบายสี ปั้นดินน้ำมัน ฉีกตัดปะกระดาษ เล่นบล็อกไม้ เล่นบทบาทสมมติ เล่นเสรีในสนาม ปีนที่สูง ตามด้วยกีฬาและดนตรี ทั้งหมดที่เล่ามายกเว้นเรื่องกีฬาและดนตรีแล้วเป็นการละเล่นที่มีค่าใช้จ่ายไม่มากหากเรารู้จักพลิกแพลงหรือประยุกต์
ส่วนเรื่องกีฬา ดนตรีและศิลปะนั้นผมพูดเสมอว่าเลือกไว้อย่างละหนึ่งชิ้นก็พอ ไม่จำเป็นต้องเรียนมากมายหลายสิ่งจนกระทั่งเด็กเหนื่อยล้าและเริ่มไม่สนุกกับสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ขอให้เรียน
ผมถูกถามเสมอว่าคุณหมอจะเอาแต่เล่นจริงหรือ จะไม่เรียนอะไรจริงหรือ ผมตอบเสมอว่าเรียนทำไม
…
#preface