ประโยชน์ของการนวดสปาหินร้อน

1. ลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ
2. กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของระบบน้ำเหลืองในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณดี ลดริ้วรอย จุดด่างดำแผลเป็น
3. เพิ่มประสิทธิภาพในด้านการล้างพิษ การขับสารพิษตกค้างในร่างกาย หากนวดเป็นประจำจะทำให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้น ร่างกายสะอาดขึ้นจากภายใน
4. ทำให้ภูมิคุ้มกันโรคดีขึ้น ลดอาการของโรคภูมิแพ้
5. ลดอาการปวดประจำเดือน หรือการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อจากการมีรอบเดือนได้
6. สามารถลดไขมันส่วนเกิน ลดการสะสมของเซลลูไลท์ เนื่องจากความร้อนและเทคนิคการนวดที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ ขับไขมัน สารตกค้างที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังให้กลับเข้าสู่ระบบการไหลเวียนของโลหิตอย่าง มีประสิทธิภาพ
7. ความร้อนที่ได้จากการอุ่นหิน จะซึมลึกเข้าสู่กล้ามเนื้อชั้นใน ทำให้ร่างการรู้สึกอบอุ่นขึ้น เหมาะกับผู้ที่รู้สึกปวดชาลึกๆในกล้ามเนื้อ มือเท้าเย็น เช่นผู้สูงอายุ หรือผู้ที่โดนความเย็นมากๆจนความเย็นซึมเข้าไปในกระดูก หากใช้ทรีทเม้นท์นี้จะรู้สึกสบายขึ้น เลือดลมหมุนเวียนดี
8. รูปลักษณะของหินที่ได้รับการเจียระไนให้เป็นรูปโค้งมนนูน อีกทั้งน้ำหนักของหิน รวมถึงเนื้อหินที่เรียบเนียน ทำให้น้ำหนักในการนวดเป็นไปอย่างหนักแน่น และกดลึกเข้าถึงกล้ามเนื้อชั้นในโดยพนักงานไม่จำเป็นต้องออกแรงมาก ทำให้เหมาะกับคนทุกวัย กล้ามเนื้อไม่บาดเจ็บ อีกทั้งไม่รู้สึกระคายผิวในขณะที่นวด

ข้อห้าม ข้อควรระวังในการนวดบำบัดด้วยหินร้อน

การนวดบำบัดด้วยหินร้อนนี้ไม่เหมาะหรือต้องระมัดระวังเป็นพิเศษสำหรับบุคคลดังต่อไปนี้

1. ผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ต้องอยู่ในความดูแลใกล้ชิดของแพทย์ เช่นผู้ป่วยโรคความดันสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หากยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ต้องขอใบอนุญาตจากแพทย์ก่อนจึงจะทำได้ เนื่องจากยาบางชนิดที่ผู้ป่วยรับประทานอยู่ อาจมีข้อห้ามข้อระวังบางอย่าง

2. ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง โรคต่อมน้ำเหลืองเป็นพิษ ถึงแม้ได้ผ่าตัดรักษาจนหายดีแล้ว ก็อาจจะเป็นซ้ำได้ การนวดทุกชนิดมีผลในการกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลือง โดยเฉพาะการทำทรีทเม้นท์นี้ อาจส่งผลให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายได้

3. ผู้ป่วยที่กำลังมีไข้ มีอาการติดเชื้อก็ไม่ควรทำแม้ว่าอาจทำให้หายเร็วขึ้น แต่ในขณะนั้นร่างกายกำลังทำงานหนักอยู่แล้วในการต่อสู้กับเชื้อโรค การถูกกระตุ้นมากเกินไป อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้

4. ผู้ที่มีแผลติดเชื้อ หรือแผลเปิดบริเวณผิวหนัง จะต้องหลีกเลี่ยงการนวดบริเวณดังกล่าว

5. ผู้ที่มีผิวบางไวต่อความร้อน หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับประสาทรับความรู้สึกที่ผิวหนังบกพร่อง ควรหลีกเลี่ยงการนวดหินร้อนหรืออาจจะระมัดระวังเรื่องอุณหภูมิของหิน อย่าให้ร้อนเกินไป

6. ทั้งก่อนและหลังการนวดหินร้อน ผู้ให้บริการและผู้รับบริการต้องดื่มน้ำให้มาก เพื่อขับความร้อนส่วนเกินให้ออกจากร่างกาย และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างพิษและสิ่งที่ตกค้างในร่างกายทางปัสสาวะ และเหงื่อ

7. หากมีอาการผิดปกติในขณะนวดหินร้อน ให้หยุดทำทรีทเม้นท์ทันที แล้วดื่มน้ำตามมากๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับพิษจากร่างกาย อาการจะดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง