เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ Stabilizer CBC รุ่น MSR-3KVA,5KVA,10KVA,15KVA,และ 20KVA.
รายละเอียดเพิ่มเติม
– สามารถรองรับแรงดันขาเข้าได้ 45-280 โวลท์
– ปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติด้วยระบบ Relay type
– ควบคุมการทำงานด้วยไมโครคอนโทรลเลอร์ (MCU)
– ติดตั้งง่าย ประหยัดพื้นที่ โดยสามารถยึดติดผนังได้ (Wall Type)
– แสดงการทำงานด้วยหน้าจอ LED กราฟฟิก
– มีระบบหน่วงเวลา เปิด – ปิด 3-5 วินาที เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านเสียหาย
– สามารถทำงานเองโดยอัตโนมัติ (Auto-start) เมื่อไฟฟ้ากลับมาปกติ
– หม้อแปลง Toroid แกนเหล็กเป็นชนิดรีดเย็น(CRGO) มีน้ำหนักเบาและมีประสิทธิภาพสูง
– มีวงจรป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร(Short circuit protection) ป้องกันการใช้ไฟเกินพิกัด(Overload Protection )
– มีระบบ Normal / Bypasss
– ได้รับมาตราฐาน ISO9001 : 2015
การเลือกขนาดของเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ
1. ทำรายการอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะต่อพ่วงกับเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า
2. อุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละชนิดจะมีป้ายแสดงค่าพิกัดกำลัง (Nameplate) ซึ่งระบุถึงแรงดันไฟฟ้า (V) และกระแสไฟฟ้า (A) ที่ต้องการ หรืออุปกรณ์บางชนิดแสดงหน่วยวัตต์ (W) มาให้ โดยทั่วไปจะติดอยู่ที่หลังเครื่อง
3. รวมค่าวัตต์ (W) ของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะต่อกับเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าทั้งหมด
4. เลือกเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าที่มีวัตต์สูงกว่าวัตต์รวมของอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 3KVA 2400w
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 5KVA 4000w
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 8KVA 6400w
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 10KVA 8000w
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 20KVA 16000w
เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 30KVA 24000w
ตัวอย่าง
ต้องการคำนวณหาขนาดของเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าที่สามารถใช้กับ แอร์ขนาด 9000btu พัดลม 60W หม้อหุงข้าว 1240W และหลอดไฟ 28W จำนวน 10 หลอด
แอร์ (9000x0.263) = 2,367w
พัดลม (60)x30% = 78W
หม้อหุงข้าว =1240w
หลอดไฟ 28x10 = 280w
W รวม = 2367+78+1240+280 = 3965w
ดังนั้น ขนาดของเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าที่สามารถใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าดังกล่าวได้อย่างปลอดภัยคือ 4000W ขึ้นไป หรือ เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าขนาด 8Kva 6400W
ไฟตกคืออะไร
โดยปกติคำว่า "ไฟตก" จะใช้กับแรงดันไฟ หรือที่เราเข้าใจกับคำว่า "ไฟ 220 โวล์ท" จริง ๆ แล้วไฟ 1 เฟส ทางการไฟฟ้าจะระบุว่าเป็นไฟ 230V ซึ่งทางการไฟฟ้าจะยอมระดับแรงดันตกจากปกติที่ไม่เกิน 5% หรือ 220V
ไฟตกเกิดจากสาเหตุ
1. มีจำนวนบ้านในระแวกที่เพิ่มสูงขึ้น มีการแย่งกันใช้ไฟ
2. ระยะทางไกลจากแหล่งจ่ายพลังงาน
3. เกิดก่อนไฟจะดับ
4. มีฝนตกหนัก
5. มีการใช้พลังงานสูงในบ้าน เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น เปิดแอร์ หรือ อุปกรณ์ที่ใช้มอเตอร์หมุนรอบสูง ปั๊มน้ำ
จุดสังเกตว่าบ้านเราไฟตกไหม
1. หลอดไฟไม่ค่อยติด หรือเปิดติดยาก หรือกระพริบถี่ ๆ
2. หลอดไฟติดแต่สว่างน้อยลง
3. ปั๊มน้ำไม่ทำงาน หรืออปกรณ์มอเตอร์หมุนรอบสูงไม่ทำงาน !! และต้องรีบปิดหรือดึงปลั๊กออกทันที เมื่อเจอแบบนี้ ไม่งั้นจะเสียหายและเสี่ยงไฟไหม้
4. แอร์ไม่ทำงาน มีแต่ลมออก
การแก้ปัญหา
ไฟตกระยะยาว : แจ้งการไฟฟ้าที่ดูแลบ้านท่าน
ไฟตกระยะสั้น :ให้ใช้ เครื่องปรับกระแสไฟฟ้าแบบควบคุมอัตโนมัติ หรีอ สเตบิไลเซอร์ ป้องกันไฟตกไฟเกิน ในกรณีที่อุปกรณ์มีความสำคัญมาก และราคาแพง