ไม้ MDF
ซึ่งคำว่า MDF นี้ย่อมาจากคำว่า “Medium-Density Fiberboard” โดยไม้ชนิดนี้ มีความคล้ายคลึงกับ ไม้ปาติเกิล
(Particle Board) คือเอาเศษขี้เลื่อยของไม้ยางพารามาบดอัด แต่ว่า ไม้ MDF จะต้องผ่านกระบวนการอัดไม้
ด้วยเครื่องบดอัดไม้เฉพาะที่มีแรงอัดสูงมาก พร้อมกับความร้อน
ด้วยเครื่องจักรเฉพาะทาง
ด้วยกระบวนการผลิตที่มีความละเอียด
ซับซ้อนขนาดนี้ จึงทำให้เนื้อไม้ MDFมีความแน่น ละเอียด
ผิวเนียนมากกว่าไม้ปาร์ติเกิ้ล
คุณสมบัติของ
ไม้ MDF (Medium Density
FiberBoard)
มีผิวเนื้อในละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันตลอดทั่วทั้งแผ่น
มีความหนา ความแน่น และความเรียบสม่ำเสมอตลอดทั้งแผ่น
สามารถขูดแต่งเนื้อไม้ได้เรียบเนียบ
งานที่ออกมาจึงดูเรียบร้อยไม่เป็นขุย สามารถนำมาพ่นสีในเนื้อไม้ได้สวยงาม
และถ้าแบ่งตามลักษณะคุณสมบัติ
แบ่งได้ 3 ประเภท คือ
1. ชนิดความหนาแน่นสูง
โดยมากนิยมใช้ทำพื้นอาคาร,
บ้านเรือน, นำไปปิดผิว พ่นสี ให้ดูดียิ่งขึ้น
2. ชนิดความหนาแน่นปานกลาง
นิยมใช้ในอุตสาหกรรมตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งงานแกะสลักได้เกือบทุกชนิด
3. ชนิดความหนาแน่นต่ำ
ปัจจุบันเริ่มมีใช้แพร่หลายทางยุโรป และอเมริกา นิยมใช้สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ Knock-down
เรื่องไม้ MDF (Medium Density Fiber Board) หรือเรียกว่าแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง
ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท
Composite Panel ชนิดหนึ่งที่ได้จากการนำเส้นใยของไม้หรือพืชที่มีเส้นใย
หรือเส้นใยของวัสดุลิกโนเซลลูโลส
(Lignocelluloses
Material)
ข้อดีไม้ MDF
● ความหนาแน่น (Density) ของแผ่นไม้สูงกว่า ไม้ปาร์ติเกิ้ล
● ผิวละเอียด เรียบเนียน สม่ำเสมอ
ตลอดทั้งแผ่น
● มีความแข็งแรงมากกว่ากว่า
รับน้ำหนักได้มากกว่า
● สามารถพ่นสี ทาสีลงเข้าไปในเนื้อไม้ได้
● สามารถทนน้ำได้ดีกว่าไม้ปาร์ติเกิ้ล
ข้อเสียไม้
MDF
·ต้องระวังเรื่องความชื้น และ การโดนน้ำเช่นกัน
แม้จะทนกว่าไม้ปาร์ติเกิ้ลก็ตาม
·ขณะตัดไม้ จะมีฝุ่นเป็นจำนวนมาก ช่างไม้ และ
ผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงต้องระวังให้ดี