ดอกเสน่ห์หาในถุงไหมแก้ว นิยมพกติดตัวเสริมเสน่ห์เจรจาค้าขายดึงดูดผู้คนรักใคร่

ดอกเสน่ห์หาในน้ำมันจันทร์รวมเก้ากลิ่นนิยมพกติดตัวหรือแตะตามร่างกายหรือที่สินค้าที่ขาย

ต้นไม้ช่วยเสน่ห์เมตตามหานิยมในทางชู้สาว ถ้าผู้เป็นพ่อม่ายแม่ร้างปลูกไว้แล้วอธิษฐานหาคู่จะได้สมดังประสงค์ หากปลูกไว้ก้บบ้านจะมีผู้มาเยี่ยมเยือนไม่ขาด

ว่านชนิดนี้ มีความเชื่อดีๆมาแต่โบราณแล้ว โดยเชื่อกันว่า บ้านไหนเรือนไหนมีปลูกไว้ในบริเวณบ้าน หรือปลูกลงกระถางตั้งไว้หน้าบ้าน เมื่อว่านดังกล่าวออกดอกจะมีคนไปมาหาสู่แบบไม่เว้นหรือไม่ขาดเลย ร้านค้าร้านขายในยุคสมัยก่อนนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้มีลูกค้าเข้าไปอุดหนุนซื้อสินค้าไม่ขาดร้าน นอกจากนั้น บรรดาพ่อม่ายหรือแม่ม่ายยังเชื่ออีกว่า ถ้าปลูก

“ว่านเสน่หา” ไว้ในบริเวณบ้านแล้วอธิษฐานให้ดีสามารถทำให้มีเนื้อคู่ได้ โดยก่อนจะอธิษฐานผู้ปลูกจะต้องเสกคาถากำกับ “นะโมพุทธายะ” 7 จบ ทุกครั้งจึงจะสำเร็จผลตามความปรารถนาได้ นั่นคือความเชื่อมาแต่โบราณต้องลองดู ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่

ว่านเสน่หา เป็นไม้ล้มลุกจำพวกมีเหง้าหรือหัวใต้ดิน ลำต้นคล้ายต้นอ้อ แข็งเป็นปล้องหรือข้อ แต่ใบจะเหมือนใบขิง ออกเรียงสลับตามข้อหรือปล้องลำต้น ใบเป็นรูปรีแกมรูปใบหอก ปลายและโคนใบแหลม เนื้อใบค่อนข้างหนาและผิวใบเรียบเป็นมัน สีเขียวสด เหง้าหรือหัวมีลักษณะเป็นไหลยาวคล้ายรากหญ้าคา แตกต้นขึ้นเป็นกอๆแน่น ต้นสูงได้กว่า 2–3 เมตร ที่สำคัญจะเป็นกอขนาดใหญ่ด้วย

ดอก ออกเป็นช่อแทงขึ้นระหว่างซอกใบใกล้โคนต้น แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนหลายดอก ดอกเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล มีแต้มสีแดงสวยงามน่าชมยิ่ง ซึ่งตามธรรมชาติของ “ว่านเสน่หา” เป็นไม้เจริญเติบโตได้ดีในช่วงฤดูฝน ทรุด โทรมหรือตายในช่วงฤดูแล้ง โดยจะฝังเหง้าหรือหัวหรือไหลอยู่ใต้ดิน เมื่อถึงฤดูฝนมีเมล็ดโปรยปรายลงมาจะเติบโตมีแทงขึ้นมาใหม่เป็นวัฏจักร

แต่ถ้าหากมีน้ำหล่อเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอจะสามารถมีลำต้นได้ไม่ทรุดโทรมหรือตายได้ ดอกออกช่วงฤดูฝน ขยายพันธุ์ด้วยการแยกต้น ปลูกได้ในดินทั่วไป ส่วนใหญ่นิยมปลูกลงกระถางตั้งประดับหน้าบ้าน หรือหน้าร้านค้าที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน ก่อนรดน้ำเช้าเย็นให้ว่าคาถา “นะโนพุทธายะ” 3 จบทุกครั้ง ว่านนี้ปลูกวันจันทร์ตอนข้างขึ้นจะให้คุณดีมาก